"ทำไมนายถึงรู้ใจฉันจัง รู้ว่าฉันกำลังอารมณ์ไม่ดีเลยตั้งใจทำอาหารให้ฉัน "ซูฉิงมองดูฮ่อหยุนเฉิงทำอาหารให้เธอด้วยตัวเองก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา
เธอเข้าไปโอบกอดฮ่อหยุนเฉิงจากทางด้านหลัง แล้วก็แนบแก้มลงไปที่หลังของเขา
สัมผัสถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซูฉิงก็รู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ
ความรู้สึกนี้ ทั้งสบายและอบอุ่นมากและเธอก็ชอบมาก
"ทำอาหารทำไมไม่ใส่ผ้ากันเปื้อนละ เดี๋ยวเสื้อผ้าก็ติดกลิ่นควันหรอก"ซูฉิงเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้สวมผ้ากันเปื้อนก็ตั้งใจปลดมาจากหน้าประตูแล้วผูกให้กับฮ่อหยุนเฉิงด้วยตัวเอง
ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือออกมากอดตอบซูฉิง
เขาก้มลงมาเล็กน้อย จ้องตาสุกใสของเธอ ก็อดที่ก้มหน้าลงไปจูบริมฝีปากบางและไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
"อื้อ........."การกระทำที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้ซูฉิงอึ้งตะลึง
ผู้ชายบ้านี่ทำอาหารอยู่ในครัวก็ยังจะเอาเปรียบเธออีก!
ซูฉิงรู้ตัวก็ผลักตัวฮ่อหยุนเฉิงออก"ปล่อยฉันนะ....."
แต่ทว่าซูฉิงพูดยังไม่ทันจบ ลิ้นใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงก็เข้ามาในปากเพื่อปิดปากของเธอ
ลิ้นพันกันจนแยกไม่ออก ซูฉิงหอบหายใจเข้าล้วนมีแต่กลิ่นของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ความรู้สึกที่แปลกประหลาดราวกับผู้ไฟช็อด ทั้งรู้สึกจั๊กจี้ชาๆ แปลกๆ ผุดขึ้นมาตามรูขุมขนของซูฉิง
มือของเขาเลื้อยมาจับตรงเอวของซูฉิงเพื่อให้เธออยู่นิ่ง
แล้วก็ระดมจูบอย่างดูดดื่ม ซูฉิงรู้ตัวอีกทีด้านหลังของเธอก็พิงเข้ากับเตาที่อยู่ด้านหลังแล้ว
"อย่าขยับ "ริมฝีปากของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าทั้งหวานทั้งหอมราวกับวุ้นผลไม้ก็ไม่ปาน ทำให้เขาชิมไม่เคยพอ ฮ่อหยุนเฉิงเลยอดที่จะจูบดูดดื่มมากกว่าเดิม
ซูฉิงที่ถูกจูบจนอ่อนระทวยหายใจหอบ เธออยากจะผลักฮ่อหยุนเฉิงออก แต่กลับถูกเขากอดเข้าที่เอวแน่น "อย่าขยับ ให้ฉันกอดสักหน่อย"
ทั้งสองที่นั่งจูบกันอยู่ในครัว ทำให้บรรยากาศในครัวอบอวลไปด้วยความหวานของการแสดงความรักต่อกันของคู่รัก
"เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวแม่หวังไม่เข้ามาหรอ"ซูฉิงเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ กลัวว่าที่ทั้งสองจูบกันเมื่อกี้จะถูกเห็น"นายปล่อยฉันก่อนสิ"
ฮ่อหยุนเฉิงที่โน้มตัวลงมาและเปลี่ยนท่า แล้วก็ค่อยๆ พูด"ไม่เห็นหรอก ฉันให้เขาเลิกงานก่อนเวลาแล้ว"
พอได้ยินอย่างนั้นซูฉิงที่หน้าแดงระเรื่อมองฮ่อหยุนเฉิงที่วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
บนเตาให้ห้องครัวยังมีหม้อที่ต้มอยู่ ซูฉิงตั้งใจสูดจมูกดม รู้สึกได้กลิ่นแปลกๆ ทันใดนั้นก็รู้ว่า "เดี๋ยวก่อนนะ หยุนเฉิง อะไรไหม้รึเปล่า นายได้กลิ่นมั้ย"
ทั้งสองที่เอาแต่กอดกัน จนลืมหม้อต้มไว้ที่เตา
ฮ่อหยุนเฉิงปล่อยซูฉิง แล้วปิดไฟ "ฉันตั้งใจจะทำซุปไก่ เพื่อให้เธอได้บำรุงร่างกาย"
ฮ่อหยุนเฉิงมองดูหม้อที่ไหม้แล้วอย่างหน้าเครียด
ซูฉิงมองหน้าฮ่อหยุนเฉิงก็มองออกว่ากำลังเสียใจ เลยพูดปลอบ"ไม่เป็นไร นายลงมือจัดดินเนอร์ให้ฉันด้วยตัวเอง แค่นี้ก็มีค่ามากแล้ว อีกอย่างไม่มีซุปไก่แต่ก็ยังมีสเต๊กนี่"
เธอมองจากสเต๊กที่ถูกครอบไว้"ฉันชอบเกินสเต๊กมาก "ซูฉิงยิ้มพูด
ฮ่อหยุนเฉิงระบายยิ้มออกมา แล้วก็ส่ายนิ้วไปมาไม่บอกซูฉิง
ถ้าบอกเซอร์ไพรส์ออกมาก็จะไม่ได้ผลสิ
ช่วงเวลาอาหารค่ำ ภายใต้แสงเทียนที่ส่งกลิ่นหอม เชิงเทียนอันละเอียดอ่อนส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ พร้อมด้วยดอกกุหลาบที่ละเอียดอ่อนที่อยู่ตรงข้ามสะท้อนกับผิวหน้าของซูฉิงให้แดงระเรื่อยิ่งขึ้น ริมฝีปากสีแดงของเธอเปิดขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างมีเสน่ห์ว่า "หยุนเฉิง วันนี้ฉันขอบคุณจริงๆ ฉันมีความสุขมาก" ซูฉิงยกแก้วขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม
ฮ่อหยุนเฉิงยกแก้วไวน์ขึ้นแล้วขยับปากพูดเบาๆ "พวกเรารีบแต่งงาน ฉันจะได้อยู่กับเธอ เธอจะได้ไม่มีเรื่องกลุ้มใจมากแล้ว"
ซูฉิงหน้าแดงระเรื่อ แม้ฮ่อหยุนเฉิงจะได้ขอแต่งงานแล้ว แล้วทั้งสองก็ใกล้จะจัดงานหมั้นแล้ว แต่ว่าพอได้ยินคำพูดนี้อีกครั้ง ซูฉิงก็ยังรู้สึกประทับใจ
พอนึกขึ้นมา เรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ซูฉิงได้ผ่านอุปสรรคมากมายพร้อมกับฮ่อหยุนเฉิงผ่านความยากลำบาก นานับไม่ถ้วน ในที่สุด ก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เหมือนโชคชะตาได้กำหนดไว้แล้ว
"กินก่อนเถอะ รสชาติของสเต๊กที่เธอชอบที่สุด "ฮ่อหยุนเฉิงพูดพร้อมกับจ้องตาซูฉิงไปด้วย
ไวน์แดง คนพิเศษ ใบหน้าเย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นได้ยาก็เผยรอยยิ้มออกมา
ซูฉิงยกแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับฮ่อหยุนเฉิง แล้วก็หัวเราะดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
ภายใต้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่แสนโรแมนติก ความรักของคู่รัก ภายในห้องก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่แสนหวานของคู่รัก
ฮ่อหยุนเฉิงที่จ้องตาซูฉิงจนตอนนี้หน้าแดง ก็พูดว่า"ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปที่ที่เซอร์ไพรส์"
เขาลุกขึ้นแล้วฉุดแขนของซูฉิงพอเธอดินออกไปข้างนอก
ซูฉิงก็เดินตามไปอย่างงงๆ เซอร์ไพรส์ที่ว่าอยู่ข้างนอกนี่เอง แล้วมันคืออะไรกันนะ ทำให้เธอยิ่งอยากจะรู้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น