นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น นิยาย บท 515

ฮ่อหยุนเฉิงวิ่งหนีจนเกือบจะหมดแรง ที่จริงแล้วเขาไม่ได้เหนื่อยล้าขนาดนั้นแต่เพียงเพราะฤทธิ์ของยา เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีจัดการบอดี้การ์ดทั้งสองที่คอยเฝ้าเขาไว้ และในตอนนี้เขาก็เหนื่อยมากจนไม่สามารถจะหลบหนีไปได้แล้ว เขาเงี่ยหูฟังเสียงวิ่งที่เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ฮ่อหยุนเฉิงกัดฟันและพยายามวิ่งตรงไปข้างหน้า แต่เขาก็ยังไม่ทันที่จะหนีพ้นไป มิเชลก็ขับรถมาขวางทางและหยุดเขาไว้ ไฟสูงจากรถคันหรูถูกสาดส่องมายังร่างของเขาอย่างเต็มเป้า รถสีขาวคันสวยวิ่งแล่นหักหลบไปโดยมีผู้หญิงที่นั่งคนขับหมุนพวงมาลัยอย่างไร้ความปราณี มิเชลขับรถปาดและจอดหยุดอยู่ตรงหน้าฮ่อหยุนเฉิง.

ฮ่อหยุนเฉิงถูกบังคับให้ต้องหยุดวิ่งและก้าวถอยหลังโดยฉับพลัน คิ้วคมขมวดเข้าหากันแน่นในท่าทีตื่นตัว

บอดี้การ์ดของมิเชลที่วิ่งตามมาสมทบทีหลังก็กรูกันเข้ามาล้อมตัวเขาไว้ ฮ่อหยุนเฉิงเหมือนกับคนที่ไม่มีทางสู้และไม่มีทางหนีทีไล่อีกต่อไป ไม่ว่าจะหนีอย่างไรก็คงจะหนีไม่พ้น

มิเชลเปิดประตูรถและเดินลงมาอย่างรวดเร็ว เธอยืนกอดอกและมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงด้วยรอยยิ้มเย้ยยัน "หยุนเฉิง ฉันอยากคุณคิดทบทวนดูให้ดี คุณควรจะกลับไปฝรั่งเศสกับฉันดีกว่า ฉันไม่อยากบังคับคุณ และคุณก็ไม่ควรมาท้าทายความอดทนของฉันด้วย ไม่งั้นฉันก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าคุณจะกลับไปกับฉันแบบไหน"

“มิเชล” ฮ่อหยุนเฉิงรู้ว่าในตอนนี้เขาควรใช้ไม้อ่อนกับหญิงสาว ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุด เขาคิดว่าเมื่อเขาขาดการติดต่อไปจากซูฉิงนานขนาดนี้ ซูฉิงจะต้องออกตามหาเขาจนเจออย่างแน่นอน

“คุณอย่าดึงดันไปเลยนะ เราสองคนไม่เหมาะสมกันจริงๆ ทางที่ดีคุณควรจะปล่อยฉันไปดีกว่า ฉันจะไม่บอกเจ้าชายเดอโกเรื่องนี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราสองคนก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก ตกลงไหม?”

“ไม่” มิเชลส่ายหัวระรัว ในเวลานี้เธอไม่ฟังอะไรทั้งนั้น หญิงสาวคิดแต่เพียงว่าถ้าเธอคิดอยากจะได้เธอก็จะต้องได้ “คุณคงไม่ได้คิดว่าซูฉิงจะหาที่นี่เจอหรอกใช่ไหม? อย่าคิดอะไรมากมายเลย เรารีบไปกันเถอะ”

“หยุนเฉิง!” ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นก็บังเกิดเสียงผู้หญิงแว่วดังมาจากที่ไม่ไกล

ฮ่อหยุนเฉิงเงยศีรษะขึ้นและมองไปข้างหน้าครู่หนึ่ง ภาพตรงหน้าคือร่างที่สวยงามของซูฉิง ผมยาวของหญิงสาวในตอนนี้ค่อนข้างยุ่งเล็กน้อย คงเป็นเพราะเธอไม่มีเวลาพอที่จะจัดการกับมัน หญิงสาวจ้องสายตามายังฮ่อหยุนเฉิงและมิเชลด้วยความเคร่งขรึม

เมื่อมิเชลได้ยินเสียงหวานใสนั้น เธอขมวดคิ้วและหันศีรษะไปมองทันที และเมื่อเธอเห็นว่าคนๆนั้นคือซูฉิง เธอก็ตกตะลึงมากเช่นกัน

“ซูฉิง ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”

ในเมื่อเธอสั่งให้บอดี้การ์ดนำโทรศัพท์มือถือของฮ่อหยุนเฉิงถไปโยนทิ้งแถวเขตชานเมือง แล้วซูฉิงจะหามันพบได้อย่างไร?

“ถ้าฉันไม่มา ฉันก็คงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มิเชลปล่อยหยุนเฉิงไปเดี๋ยวนี้นะ แล้วเราก็มาพูดคุยตกลงกันดีๆจะดีกว่า”

ซูฉิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ เธอไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ดีและควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่เมื่อเธอเห็นสิ่งที่หญิงสาวอีกคนทำ เธอก็ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่ามิเชลจะทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้

ดูเหมือนว่าตัวเธอเองยังทำใจเชื่อกับสิ่งตรงหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอไว้ใจคนผิด!

“ปล่อยงั้นเหรอ? ถ้าวันนี้ฉันไม่ปล่อยล่ะ ซูฉิง ฉันจะบอกความจริงกับคุณให้นะ ฉันชอบฮ่อหยุนเฉิงตั้งแต่แรกเห็น ถ้าคุณยอมให้เขาคบหากับฉัน พวกเธอก็เลิกกันไปเถอะ ต่อไปเราสองคนอาจจะยังเป็นเพื่อนกันได้นะ บางทีฉันอาจจะเชิญคุณมางานแต่งงานของฉันกับหยุนเฉิงก็ได้”

มิเชลยิ้มและดูเหมือนจะไม่แยแสกับเรื่องที่ตนกระทำผิดไปข้างต้น และถึงแม้ตอนนี้ซูฉิงจะไม่มีอำนาจมากพอ แต่ยังไงเธอก็ยืนยันว่าจะต้องพาฮ่อหยุนเฉิงกลับไปกับตนเองให้ได้ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม

ฮ่อหยุนเฉิงเห็นถึงสีหน้าที่ไม่สบายใจของหญิงสาวตรงหน้า และหลังจากที่ได้มายืนเคียงข้างซูฉิง เขาก็จับมือของเธอไว้อย่างแน่นพร้อมทั้งส่งยิ้มให้เธออย่างสบายใจ "ไม่ต้องกังวลนะ ฉันสบายดี"

หลังจากได้รับการยืนยันจากปากของเจ้าตัวว่าตัวเขานั้นไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ซูฉิงก็โล่งใจ เธอขมวดคิ้วและมองไปที่มิเชลด้วยใบหน้าที่นิ่งงัน ซูฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังและโมโห “มิเชล ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันหวังว่าคุณจะเลิกยุ่งกับฮ่อหยุนเฉิง เขาเป็นคู่หมั้นของฉัน ฉันไม่สนหรอกว่าที่ฝรั่งเศสของคุณจะเปิดเผยและเสรีกับเรื่องพวกนี้ขนาดไหน แต่ที่นี่คือประเทศจีน และเราสองคนก็กำลังจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ เพื่อเห็นแก่หยุนเฉิงในวันนี้ เราสองคนจะไม่บอกเดอโกลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในครั้งต่อไปอีกล่ะก็ ฉันคงจะไม่เอ่ยเตือนคุณอย่างสุภาพแบบนี้แล้ว "

หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็หันหน้าหนีไปและไม่หันกลับมามองมิเชลอีกเลย เธอจับมือฮ่อหยุนเฉิงแน่นแล้วกล่าวว่า "หยุนเฉิง กลับบ้านกันเถอะ"

เมื่อมิเชลได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอก็โกรธมาก แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ สิ่งที่เธอทำได้ในขณะนี้มีเพียงมองดูฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงเดินจากไป

【ฮ่อหยุนเฉิง ฉันจะต้องครอบครองคุณให้ได้แน่นอน! 】

ระหว่างทางกลับไปที่เมือง A หลินเหยียนเฟิงทำหน้าที่เป็นสารถีในการขับรถ โดยมีซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงนั่งข้างกันที่เบาะหลัง ซูฉิงจับมือฮ่อหยุนเฉิงตลอดเวลาโดยไม่พูดอะไรออกมาเลย จวบจนทั้งสองกลับไปถึงเมืองใหม่สุ่ยเยว่และเข้าไปในบ้านของฮ่อหยุนเฉิง สติสัมปชัญญะของคนทั้งคู่ถึงกลับมาดังเดิม

ฮ่อหยุนเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และนั่งลงบนโซฟาด้วยความอ่อนเพลีย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเพียงเล็กน้อย และใช้มือซ้ายพยุงหน้าผากของตนเองไว้ ซูฉิงเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้กับฮ่อหยุนเฉิงแล้วจึงนั่งลงข้างๆชายหนุ่ม "ไม่เป็นไรใช่ไหม นายไม่สบายหรือเปล่า? จิบน้ำอุ่นก่อนไหม"

“วันนี้ฉันไปพบมิเชล และฉันก็โดนเธอโดนวางยา” ฮ่อหยุนเฉิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน เขานั่งพักอยู่นานจนเริ่มรู้สึกว่าอาการหน้ามืดค่อยๆดีขึ้น เขาจึงหันศีรษะและหันไปอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาไปหามิเชลที่บ้านไม้หลังนั้นมาอย่างละเอียด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น