นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1052

มีปิ่นเฟิ่งอยู่ในมือ เฟิ่งชิงเฉินสามารถเพิกเฉยต่อสตรีทุกคนในวังหลัง แน่นอน ปิ่นเฟิ่งเป็นเพียงสัญลักษณ์ ไม่มีอำนาจแต่อย่างใด มากที่สุดก็ทำได้เพียงให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงเกรงใจ หากคิดจะลงโทษฮองเฮาเหนียงเหนียงเพราะเหตุนี้ เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้......

อย่างไรก็ตาม ทำร้ายคนใหญ่ไม่ได้ก็ยังมีคนเล็กรออยู่ ฮองเฮาเหนียงเหนียงอยากปกป้องพระสนมซูมากไม่ใช่หรือ พระสนมซูก็ต้องการสร้างปัญหาให้ตนเองไม่ใช่หรือไง เวลานี้ลมเปลี่ยนทิศไปแล้ว และถึงคราวที่นางจะเอาคืนพระสนมซู

เฟิ่งชิงเฉินเรียกพระสนมซูไว้ จากนั้นก็หันมาพูดกับฮองเฮา “ฮองเฮาเหนียงเหนียง พระสนมซูไม่สนใจปิ่นเฟิ่งที่จักรพรรดิองค์ก่อนเป็นผู้ประทานให้ หากไม่ใช่เพราะข้าตอบสนองได้ทันเวลา เกรงว่าฝ่ามือเมื่อสักครู่ของพระสนมซูเหนียงเหนียงคนทำให้ปิ่นเฟิ่งเสียหายไปแล้ว”

“ข้าไม่ได้ทำ เจ้าใส่ร้ายข้า” พระสนมซูรู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหนจึงรีบปฏิเสธออกไปทันที แต่มีหรือที่เฟิ่งชิงเฉินจะปล่อยนางให้หลุดไปได้ง่าย ๆ เฟิ่งชิงเฉินถามกลับไปว่า “ใส่ร้าย? ชิงเฉินใส่ร้ายท่านตรงไหน หากไม่ใช่เพราะชิงเฉินตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ฝ่ามือเมื่อสักครู่ของเหนียงเหนียงก็คงถูกปิ่นเฟิ่งบนศีรษะของชิงเฉินจนได้รับความเสียหาย เหนียงเหนียงอย่าปฏิเสธเลยจะดีกว่า รอยแดงบนข้อมือของท่านยังไม่หายไปเลย”

“ข้า......” พระสนมซูรีบซ่อนข้อมือของตนเองในทันใด มองไปยังฮองเฮาด้วยสายตาน่าสงสาร

เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่นางเป็นผู้ถูกรังแก......

วิธีการนี้สามารถนำไปใช้กับจักรพรรดิได้ แต่มันไร้ประโยชน์เมื่อนำมาใช้กับฮองเฮาและเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินถามฮองเฮาออกมาอีกว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ข้าปักปิ่นเฟิ่งของจักรพรรดิองค์ก่อนอยู่บนศีรษะ แต่พระสนมซูกลับดุด่าว่าร้ายข้า ลงไม้ลงมือ นี่ถือเป็นการไม่เคารพหรือไม่?”

“ใช่......” ฮองเฮาถอนหายใจออกมา พยักหน้า นางคิดไม่ถึงว่าเฟิ่งชิงเฉินจะนำปิ่นเฟิ่งติดตัวเข้ามาในพระราชวัง หากเฟิ่งชิงเฉินตั้งใจที่จะหาเรื่องพระสนมซู เรื่องนี้ไม่มีทางจบสวยอย่างแน่นอน

“เหนียงเหนียง......” พระสนมซูคุกเข่าลงแทบเท่าของฮองเฮา ใบหน้าดวงน้อย ๆ ของนางกลายเป็นสีแดง น้ำตาไหลออกมา ดูน่าสงสารไม่น้อย

แต่น่าเสียดาย ผู้หญิงที่อยู่ตรงนี้มีแต่ผู้หญิงเลือดเย็น เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจท่าทางอันน่าสงสารของพระสนมซู นางกล่าวออกมาอีกว่า “เหนียงเหนียง ในเมื่อพระสนมซูมีความผิด เช่นนั้นก็ควรลงโทษพระสนมซูในฐานไม่ให้เกียรติถูกต้องหรือไม่?”

“แม่นางเฟิ่งพูดถูก พระสนมซูควรได้รับการลงโทษ พระสนมซู ข้าจะลงโทษเจ้าโดยการให้เจ้าคัดลอกกฎเกณฑ์ในพระราชวังร้อยจบ และกักบริเวณอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน” ฮองเฮาตอบรับความเห็นอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่านางอยากจะปกป้องพระสนมซู แต่เป็นเพราะนางต้องการปกป้องใบหน้าของตนเอง

คนในพระราชวังต่างรู้ว่าพระสนมซูเป็นคนของฮองเฮา แน่นอน การที่เฟิ่งชิงเฉินทำร้ายพระสนมซูก็เหมือนเป็นการหักหน้าฮองเฮา

พระสนมซูได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความดีใจ นางรู้อยู่แล้วว่าฮองเฮาจะต้องปกป้องนาง คิดจะรอดพ้นจากการรับโทษ เฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางปล่อยให้นางได้สมหวัง เฟิ่งชิงเฉินจึงถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ท่านลงโทษเช่นนี้มันดูไม่ควรไปหรือไม่? เมื่อครู่พระสนมซูกล่าวว่าข้าไม่เคารพนาง นางสั่งให้คนเฆี่ยนตีข้าห้าสิบหวาย เหตุใดพระสนมซูที่ไม่เคารพสิ่งของซึ่งพระราชทานจากจักรพรรดิองค์ก่อนถึงมีโทษเพียงแค่กักขังเท่านั้น?”

นี่เป็นการบีบบังคับให้ฮองเฮาเฆี่ยนตีพระสนมซู พระสนมซูไม่กล้าเอ่ยปาก ทำได้เพียงมองไปที่ฮองเฮาอย่างเศร้าสร้อย ฮองเฮาถูกบีบบังคับจนหมดหนทาง จึงทำได้เพียงถามกลับไปว่า “พูดเช่นนี้ แสดงว่าแม่นางเฟิ่งต้องการเฆี่ยนตีพระสนมซูงั้นหรือ?”

“คำพูดของเหนียงเหนียง......ช่างเป็นคำพูดที่ชิงเฉินไม่อาจกล่าวได้ ชิงเฉินจะไปกล้าเฆี่ยนตีพระสนมซูได้อย่างไร ชิงเฉินทำได้เพียงหวังว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงจะลงโทษอย่างยุติธรรม หรือว่าฮองเฮาองค์ก่อนยังดีไม่เท่ากับพระสนมเพียงคนเดียว?” แค่ทำร้ายพระสนมซูยังต้องถูกเฆี่ยนตี แล้วการไม่เคารพของศักดิ์สิทธิ์จะมีโทษเช่นไร?

ประโยคนี้ทำให้ฮองเฮาตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า เวลานี้พระสนมซูเป็นคนโปรดของจักรพรรดิ หากทุกอย่างถูกทำลายลงเพราะเฟิ่งชิงเฉิน บัญชีอันยิ่งใหญ่นี้จักรพรรดิจะต้องชำระกับเฟิ่งชิงเฉินเป็นแน่

นึกถึงความเย่อหยิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินถือปิ่นเฟิ่งอยู่ในมือ ฮองเฮาก็ไม่สนใจปัญหาเหล่านี้ นางกล่าวออกไปว่า “แม่นางเฟิ่งพูดถูก ในเมื่อพระสนมซูไม่เคารพของศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานมาจากจักรพรรดิองค์ก่อน เช่นนั้นก็ต้องถูกเฆี่ยนตีหกสิบหวาย”

“เหนียงเหนียงช่างมีคุณธรรมยิ่งนัก แม้ชิงเฉินจะไม่อยากเห็นพระสนมซูเหนียงเหนียงต้องทุกข์ทรมาน แต่ก็ไม่กล้าทำให้กฎเกณฑ์ของหวังหลังต้องเสื่อมเสีย” เฟิ่งชิงเฉินจะทำร้ายใครสักคนก็ต้องทำอย่างแนบเนียน ฮองเฮาโกรธจนแทบคลั่ง หลังจากจบเรื่องนี้พระสนมซูก็จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่เฟิ่งชิงเฉินเองก็คงจบไม่สวยเป็นแน่ นางจึงสงบสติอารมณ์ได้

“เหนียงเหนียง......” พระสนมซูมองไปที่ฮองเฮาด้วยความเหลือเชื่อ ดวงตาอันงดงามของนางคู่นั่นเบิกกว้าง

“ยังจะงงอะไรอยู่ เหตุใดจึงไม่ลากนางออกไปลงโทษ” ฮองเฮาโบกมืออย่างหมดความอดทน

ตอนแรกสนมเอกเซี่ยคิดว่าที่ฮองเฮาให้คนเฆี่ยนตีพระสนมซูนั้น มากที่สุดก็แค่พอเป็นพิธี พระสนมซูถูกโบยทั้งหมดหกสิบครั้ง ใช้เวลาสิบวันถึงครึ่งเดือนก็สามารถรักษาให้หายได้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น

สนมเอกเซี่ยมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยความกังวล นางรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินต้องการแสดงให้ฮองเฮาและพระสนมซูได้เห็นถึงตัวตนของนาง ทำให้พวกเขาทั้งสองไม่กล้าทำร้ายหรือสร้างปัญหาให้แก่เฟิ่งชิงเฉินอีก แต่คิดไม่ถึงว่าฮองเฮาจะลงมืออย่างเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้

หากจักรพรรดิรู้เรื่องนี้ รู้ว่าพระสนมคนโปรดของเขาต้องมาตายเพราะเฟิ่งชิงเฉิน เกรงว่าจักรพรรดิคงต้องโกรธแค้นเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก และอาจโกรธจนถึงขั้นเอาชีวิตของเฟิ่งชิงเฉิน

แล้วเช่นนี้จะทำอะไรอย่างไรต่อไปดี?

เฟิ่งชิงเฉินหันไปส่ายหน้าให้กับสนมเอกเซี่ย เพื่อบอกนางว่าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง

แม้ว่าการที่ฮองเฮาต้องการเฆี่ยนตีพระสนมซูจะถึงขั้นเสียชีวิตจะเป็นสิ่งที่เกิดความคาดหมายของนาง แต่.....บนโลกใบนี้ ผู้หญิงล้วนต้องพึ่งพาผู้ชาย ขอแค่เสด็จอาเก้ายังมีชีวิตอยู่ จักรพรรดิก็ไม่อาจทำร้ายนางถึงขั้นเสียชีวิตได้

เมื่อถึงเวลาสำคัญก็แค่นำปิ่นเฟิ่งออกมาเพื่อปกป้องชีวิต ปิ่นเฟิ่งชิ้นนี้ เกรงว่าจักรพรรดิและฮองเฮาคงไม่มีทางปล่อยให้นางได้ครอบครองมัน

สนมเอกเซี่ยรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินมีแผนรับมือไว้แล้ว คนที่ใกล้จะคลอดไม่อาจทนเห็นฉากนองเลือดเช่นนี้ได้ สนมเอกเซี่ยเอ่ยปากกล่าวลาฮองเฮา แต่จะไปรู้ได้อย่างไรว่าในตอนที่กำลังเอ่ยปาก ขันทีก็ตะโกนออกมาว่า “จักรพรรดิเสด็จแล้ว!”

มาเร็วจริง ๆ เกรงว่าคงเสด็จมาทันทีหลังจากที่เสร็จการประชุมของราชสำนัก พระสนมซูผู้นี้เป็นหนึ่งในใจของจักรพรรดิจริง ๆ

เวลานี้เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่กล้านำปิ่นเฟิ่งออกมา ทำได้เพียงคุกเข่าให้ความเคารพอย่างเชื่อฟัง ส่วนสนมเอกเซี่ยและฮองเฮาก็ทำความเคารพเพียงครึ่งเดียว......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ