"หากไม่อนุญาต ชิงเฉินไม่มีความมั่นใจแม้แต่นิดเดียว และขอให้ฝ่าบาททรงออกพระราชโองการสังหารชิงเฉิน และเชิญหมอยอดฝีมือท่านอื่นมาเสียดีกว่าเพคะ" ทั้งที่เป็นคำกล่าวข่มขู่ แต่ชิงเฉินกลับกล่าวออกมาได้เศร้าโศกอย่างมาก
"ฝ่าบาท ชิงเฉินเป็นหมอ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในวันนี้คือลั่วอ๋อง หากว่าเป็นคนธรรมดา ชิงเฉินจะไปรับการรักษาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ต้องทราบเอาไว้ว่า การช่วยเหลือคนนั้นเหมือนดั่งการดับไฟที่ลุกไหม้ หากว่าช้าลงเท่าใด ลั่วอ๋องก็จะอันตรายมากเท่านั้น"
เฟิ่งชิงเฉินเตือนอีกครั้งว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าตงหลิงจื่อลั่วจะมีชีวิตอยู่ต่อได้หรือไม่ และนี่เกิดจากฮองเฮา มิใช่เพราะเฟิ่งชิงเฉิน
"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ากล้าดียังไงมาขู่จักรพรรดิ" ความแข็งแกร่งที่ฮองเฮาแสร้งสร้างขึ้นมา เกือบจะถูกเฟิ่งชิงเฉินทำพัง
มิต้องกล่าวถึงตำแหน่งของตงหลิงจื่อลั่ว คนที่นอนอยู่บนเตียงซึ่งไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่นั้น เป็นลูกแท้ๆ ของนางเลยนะ
ความทุกข์ของนางแตกต่างจากความทุกข์ของจักรพรรดิอย่างสิ้นเชิง
"ทูลฮองเฮา ชิงเฉินมิกล้าทำเช่นนั้น ชิงเฉินเพียงแค่พูดความจริง" เฟิ่งชิงเฉินเกือบจะล้มลงกับพื้นร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย เผยให้เห็นความกลัวของนางอย่างเงียบ ๆ
นางกลัวจริงๆ กลัวอย่างมาก
กลัวว่าจักรพรรดิจะบังคับให้นางรักษาตงหลิงจื่อลั่วต่อหน้าทุกคน และกลัวว่าจักรพรรดิจะไม่ให้โอกาสนาง และสังหารนางเสีย
นางไม่อยากตาย!
เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเมื่อฮ่องเต้ออกคำสั่งสังหารนาง เสด็จอาเก้าไม่มีทางปกป้องนาง แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะปกป้องนาง แต่เขาก็ทำมิได้
นางสามารถพึ่งพาตัวเองได้เท่านั้น
เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันและกล่าวอีกครั้ง "ฝ่าบาท อาการบาดเจ็บของลั่วอ๋องรอนานกว่านี้มิได้แล้วเพคะ หากยิ่งนานก็จะยิ่งอันตรายเพคะ ได้โปรดฝ่าบาททรงออกพระราชโองการเถิดเพคะ"
ท่านจะสังหารข้า หรือให้ข้าช่วยตงหลิงจื่อลั่ว!
หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินเป็นกังวลอย่างมาก และรอการตัดสินใจของฮ่องเต้..
สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินไม่คาดคิดคือ จักรพรรดิไม่ตอบคำถามของนาง แต่ถามตงหลิงจิ่ว
"น้องเก้า เจ้าคิดว่าอย่างไร?"
"ฮ่องเต้เป็นคนฉลาด การตัดสินใจของฝ่าบาทนั้นดีที่สุดสำหรับลั่วอ๋องอย่างแน่นอน" ตงหลิงจิ่วไม่ตกตะลึง เขาตีคำถามนี้กลับไปอย่างอ่อนโยน
ตอนนี้ คนที่ร้อนรน มิใช่เขา
"น้องเก้า ลั่วอ๋องได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเจ้า และเฟิ่งชิงเฉินก็ได้รับการแนะนำจากเจ้าเช่นกัน เจิ้นอยากฟังความคิดเห็นของเจ้า" คิดอยากจะทิ้งตัวออกห่างจากเรื่องนี้หรือ? เป็นไปมิได้
แสงเย็นชาวาบในดวงตาของจักรพรรดิ
สำหรับการเสียลูกชายไป เขาต้องได้อะไรกลับมา
"น้องเป็นคนโง่เขลา หากฮ่องเต้คิดว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่สามารถรักษาลั่วอ๋องได้ ก็ฆ่านางเสีย นางก็เป็นเพียงหญิงสาวผู้หนึ่ง" เขาดูสงบราวกับว่าเขากำลังคุยกันว่าวันนี้จะกินอะไร
นางรู้แล้วว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินยังคงเจ็บปวดเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างขมขื่น และคุกเข่าอยู่บนพื้นเพื่อรอการตัดสินใจของจักรพรรดิ
ที่แท้ นางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น
สิ่งที่จักรพรรดิสนใจไม่ใช่ว่านางจะสามารถช่วยตงหลิงจื่อลั่วได้หรือไม่ แต่สนใจว่านางจะสามารถทำให้ตงหลิงจิ่วล้มลงมาได้หรือไม่
"เอาล่ะ เช่นนั้นเจิ้น…" ดูเหมือนจักรพรรดิตั้งใจจะเล่นกล เขากล่าวและหยุดลง
หลังจากรอเป็นเวลานานก็ไม่ได้ยินคำพูดของตงหลิงจิ่ว ฮ่องเต้ผิดหวังอย่างมาก เขาเหลือบไปมองตงหลิงจื่อลั่วและกล่าวว่า "เจิ้นจะให้โอกาสเฟิ่งชิงเฉิน น้องเก้าเจิ้นเชื่อเจ้า และเชื่อคนที่เจ้าเสนอมา"
เขาช่วยเฟิ่งชิงเฉินไว้หลายครั้ง แต่เขากลับไม่สนใจว่านางจะอยู่หรือจะตาย
น้องเก้า แผนของเจ้าคืออะไรกันแน่?
จักรพรรดิพบว่าเขาไม่เข้าใจ ตงหลิงจิ่ว มากขึ้นเรื่อย ๆ
และตงหลิงจิ่วไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาเข้าใจเขา
"เสด็จพี่กล่าวให้ความสำคัญน้องมาเสียจนเกินไป เฟิ่งชิงเฉินมิใช่คนที่น้องเสนอ น้องเพียงแค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้อาจมีทางแก้ น้องได้ยินมาว่านางช่วยหมอหลวงหยวนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองอยู่นอกจวนเฟิ่ง จึงคิดว่าจิตใจและฝีมือการรักษาของหญิงผู้นี้คงจะไม่แย่เท่าไหร่นัก"
เสด็จอาเก้ากำลังเตือนเฟิ่งชิงเฉินว่าอย่านำความคับข้องใจส่วนตัวระหว่างนางกับตงหลิงจื่อลั่วมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่ถุงเลือดกรุ๊ป O ทีเหลือเพียงถุงเดียวในคลังเลือด นางอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
"เลือด 200cc ไม่เพียงพอเลย" เฟิ่งชิงเฉินถือถุงเลือดเอาไว้ และวางไว้ทางด้านซ้ายของตงหลิงจื่อลั่ว
"คราวหน้า จะต้องเก็บสะสมเลือดเพิ่มอีกนิด เมื่อเวลาเราต้องการใช้มักจะไม่พอ"
เฟิ่งชิงเฉินเห็นว่าถุงเลือด 200cc หดตัวอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก
ที่นี่คือพระราชวัง แม้จะมีเลือดอยู่มากมาย แต่นางกลับเก็บเลือดได้ยาก แม้ว่ามีเลือดที่มากเพียงพอ พระราชวังก็คงไม่ให้นางใช้อย่างแน่นอน
เชื้อพระวงศ์ ราชศ์วงจะยอมให้เลือดผู้สูงศักดิ์ในร่างกายของพวกเขาถูกปนเปื้อนหรือ?
เฟิ่งชิงเฉินเก็บผมให้ดี และสวมถุงมือ สีหน้าของนางเคร่งเครียดอย่างมาก
เฟิ่งชิงเฉินฉีดยาปฏิชีวนะให้ตงหลิงจื่อลั่วก่อน เพื่อเพิ่มแอนติบอดี้ของเขา จากนั้นจึงฉีดยากระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือด
หากไม่มีเลือด ก็สร้างเลือดขึ้นมาเองเสีย
ร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วเย็นอย่างมาก เพราะปริมาณเลือดไม่เพียงพอ หากเป็นเช่นนี้ มันจะไม่มีประโยชน์แม้ว่านางจะช่วยเขาได้สำเร็จ นางจะต้องฟื้นฟูการทำงานของร่างกายของตงหลิงจื่อลั่ว ก่อน จึงจะดึงลูกศรออกจากขาของเขาได้
ร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วอ่อนแอเกินไป ร่างกายที่อ่อนแอเช่นนี้แทบจะไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดที่จะทำต่อจากนี้ได้ นางต้องกระตุ้นพลังของร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วออกมาก่อน
สิบห้านาทีผ่านไป เฟิ่งชิงเฉินฉีดยาชาให้ตงหลิงจื่อลั่ว เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าให้ยาชาทั่วร่างกายแก่เขาดังนั้นจึงใช้ยาชาเฉพาะที่ และอธิษฐานในใจว่า ของให้เขาอย่าตื่นมากลางคัน
ยาชายังไม่ได้ผล เลือด 200cc หมดไปก่อน
เฟิ่งชิงเฉินถอดถุงเลือดออกและแขวนถุงน้ำเกลือเอาไว้
เฟิ่งชิงเฉินยุ่งมาก แต่ไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
โต๊ะข้างเตียงของตงหลิงจื่อลั่ว เต็มไปด้วยขวดยาและยาฉีดทุกชนิด สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือขวดสีดำ
เอาของพวกนี้ออกมาวางบนโต๊ะ มีแต่เฟิ่งชิงเฉินชิงที่คิดได้ แม้ว่าจะหยิบสะดวก แต่มันดูสะดุดตามากเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...