นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1319

เสด็จอาเก้าโยนสิ่งของดังกล่าวออกไป จากนั้นก็รอให้ลุงจ้านอ่านมันจบอย่างอดทน เหมือนกับที่เสด็จอาเก้าคาดการณ์ไว้ ลุงจ้านไม่อาจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้......

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ นี่มันไม่ใช่ความจริง” ลุงจ้านส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่อยู่ในมือกระจัดกระจาย ในชั่วพริบตา ดูเหมือนเขาจะมีอายุมากขึ้นไปหลายปี จ้องมองเสด็จอาเก้าและส่ายหน้า ในใจคาดหวังประโยคจากปากของเสด็จอาเก้า รอให้เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาว่านี่มันไม่ใช่ความจริง!

เสด็จอาเก้าเก็บสายตาของเขา กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “จะใช่ความจริงหรือไม่ เจ้าก็ลองไปถามแม่ของเจ้าดู ข้าไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาอธิบายเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง”

พูดจบเขาก็สั่งให้คนของเขานำตัวของลุงจ้านออกไป ส่วนเรื่องข้อมูลที่อยู่ในมือ แน่นอนว่าต้องเก็บมันเอาไว้ ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้มันถูกแพร่งพรายออกไป หากเป็นเช่นนั้น เสด็จอาเก้าจะนำสิ่งใดมาทำให้หวังจิ่นหลิงประนีประนอม

ลุงจ้านมาที่ลานบ้านด้วยความสับสน เมื่อเข้ามาในห้องก็ได้เห็นแม่ของตนเองนั่งปาดน้ำตาอยู่ด้านใน ลุงจ้านเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกปวดใจ คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ท่านแม่......”

“เป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ” แม่จ้านรีบเช็ดน้ำตา บอกให้คนรับใช้พยุงลุงใหญ่จ้านขึ้นมา แต่ลุงใหญ่จ้านก็ไม่ยอม “ท่านแม่ ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่าน ท่านให้พวกเขาทั้งหมดออกไปได้หรือไม่”

หัวใจของแม่จ้านเต้นแรง ลางสังหรณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้นมาในหัวใจ สั่งให้ทหารออกไปด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “ลูกชายที่รักของข้า มีอะไรก็พูดออกมา โตจนจะเป็นบรรพบุรุษรุ่นถัดไปอยู่แล้ว อยู่ดี ๆ ก็คุกเข่า มันไม่เหมาะสมเอาเสียเลย”

“ท่านแม่ ลูกอาจจะเป็นลูกอกตัญญู ถามคำถามที่ไม่ควรถามออกมา” ลุงใหญ่จ้านเข้าใจดี การถามคำถามเช่นนี้กับพ่อแม่ของตนเองถือเป็นเรื่องอกตัญญู เขาจึงจำเป็นต้องคุกเข่าลงเพื่อถาม

เนื่องจากต่อให้พ่อแม่มีความผิด พวกเขาก็ยังคงเป็นพ่อแม่ของตนเองอยู่ดี

สีหน้าของแม่จ้านเปลี่ยนไป เหลือบมองลุงใหญ่จ้านอย่างผิดธรรมชาติ ถอนหายใจออกมา “น่าจะปิดบังเอาไว้ไม่ได้แล้ว เจ้าถามออกมาเถิด”

แม่จ้านถอนหายใจ ทำให้ลุงใหญ่จ้านไม่รู้ว่าควรจะถามออกมาอย่างไร แม่จ้านทนดูไปไม่ได้ จึงกล่าวออกมาว่า “เจ้าอยากถามเรื่องของหยานเอ๋อร์ใช่หรือไม่?”

“ท่านแม่ หยานเอ๋อร์นางเป็น......” ลุงใหญ่จ้านเอ่ยปากออกมา แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็พูดชื่อนั้นไม่ออก

แม่จ้านที่เพิ่งจะปาดน้ำตา น้ำตาของนางร่วงลงมาอีกครั้ง หลับตาลงและพยักหน้า “ ใช่ นางเป็นลูกสาวพ่อของเจ้า” ประโยคสุดท้ายราวกับสายฝนที่โปรยลงมาเป็นสายเลือด เห็นได้ชัดว่าเวลานี้แม่จ้านเจ็บปวดหัวใจมากเพียงใด

แม้ว่าจะรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำยืนยันจากแม่จ้าน ร่างกายของลุงใหญ่จ้านก็แข็งทื่อ ล้มลงกับพื้นทันใด “หยานเอ๋อร์เป็นลูกของท่านพ่อกับน้องหญิงหกจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ไม่แปลกเลย ไม่แปลกเลยว่าเหตุใดหลายปีที่ผ่านมาน้องหญิงถึงไม่ยอมกลับบ้าน จนกระทั่งท่านพ่อจากไปนางถึงจะกลับมา ข้าสับสนเป็นอย่างมาก สับสนมากจริง ๆ เหตุใดข้าจึงไม่รู้สึกสงสัยในเรื่องนี้ หลังจากที่หยานเอ๋อร์เกิดมา น้องหกก็ไม่ไปที่เรือนหลังอีกเลย และก็ไม่ยอมเข้าใกล้หญิงสาว น้องหกเองก็ทุกข์ทรมานอย่างมากเป็นแน่!”

คนที่มีอายุสี่สิบกว่าปี แต่กลับร้องไห้ราวกับเด็ก

“เหตุใดท่านพ่อจึงทำเช่นนี้ เหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้ หลายปีที่ผ่านมา น้องหกทำเพื่อตระกูลจ้าวมากมายเพียงใด บนโลกนี้มีผู้หญิงอยู่ตั้งมากมาย เหตุใดท่านพ่อถึง ท่านพ่อถึงได้......”

ลุงใหญ่จ้านร้องไห้ออกมาพร้อมกับสาปแช่ง ความเจ็บปวดเผยออกมาให้เห็นจากใบหน้าของแม่จ้าน เห็นลูกชายของตนเองเสียสติและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นางจึงจำเป็นต้องหยุดความคิดและการกระทำของเขาไว้ “เอาล่ะ เลิกพูดถึงมันได้แล้ว ท่านพ่อของเจ้าก็จากไปแล้ว พูดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์”

“เขาตายไปแล้ว ตายไปอย่างไรความกังวล ไม่จำเป็นต้องห่วงใยสิ่งใด แต่น้องหกเล่า? เนื่องจากความผิดที่เขาทำ น้องหกจึงต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้ เพื่อจ้านหยานที่ไม่ใช่แม้แต่ลูกของตนเอง แต่กลับยอมสละชีวิตที่มีเพื่อปกป้อง ท่านแม่ ท่านรู้หรือไม่ ที่น้องหกต้องมาจากไปเช่นนี้ ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องจ้านหยาน” ลุงใหญ่จ้านเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน ก้มลงไปแทบเท่าของแม่จ้าน เล่าเรื่องราวที่ตนเองได้เห็นในเอกสารของเสด็จอาเก้าออกมาอย่างละเอียด

“ที่เจ้าพูดเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ?” มือของแม่จ้านสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของนางก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ นี่เป็นสัญญาณของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

ลุงใหญ่จ้านไม่เห็นความผิดปกติของแม่จ้าน เขาพยักหน้าและกล่าวออกมาว่า “ท่านแม่ ลูกไม่ได้โกหกท่าน มีคนเอาเรื่องนี้มาข่มขู่น้องหก ต้องการเอาชีวิตของน้องหก น้องชายที่โง่เขลาของเขาเป็นแต่อ่านหนังสือจริง ๆ ไม่เพียงแค่เห็นวายร้ายอย่างจ้านหยานเป็นลูกสาวของตนเองเท่านั้น แต่ยังเชื่อในคำข่มขู่ของอีกฝ่าย เหตุใดเขาจึงเชื่อว่าอีกฝ่ายจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตนเอง เมื่อเขาตายไปแล้ว พวกเราจะทำอย่างไร? คนที่สมควรตายควรจะเป็นผู้ยิ่งสารเลวอย่างจ้านหยานมากกว่า น้องหกช่างโง่เขลายิ่งนัก......”

“ลูกชายของข้า ลูกชายของข้า......” แม่จ้านตื่นเต้นมากเกินไป ร่างกายของนางสั่นเทา ไม่ทันไรก็หมดสติไป

“ท่านแม่ ท่านแม่......เข้ามา รีบเข้ามาช่วยท่านแม่ของข้า” ลุงใหญ่จ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก รีบลุกขึ้นยืนในทันใด แต่เนื่องจากเขาคุกเข่ามาเป็นเวลานาน ทำให้ขาของเขารู้สึกชา ประกอบกับน้ำหนักตัวแม่ของเขาที่ไม่ธรรมดา สองแม่ลูกจึงล้มลงกับพื้น

หวังจิ่นหลิงเห็นลุงใหญ่จ้านเดินออกมาจากห้องด้วยอารมณ์ที่รุนแรง เขาขมวดคิ้ว เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังออกมาขวางทางเดินของลุงใหญ่จ้านเอาไว้พร้อมกับเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ท่านจ้าน”

“หลบไป” อารมณ์ของลุงใหญ่จ้านกำลังเดือดพล่าน เมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาขวางก็ยกเท้าขึ้นและถีบออกไปทันใด แต่โชคดีที่องครักษ์ของหวังจิ่นหลิงได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ประกอบกับลุงใหญ่จ้านเป็นเพียงแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เรี่ยวแรงของเขามีจำกัด

“ท่านลุง” หวังจิ่นหลิงก้าวไปข้างหน้าในเวลาที่เหมาะสม เมื่อลุงจ้านได้เห็นใบหน้าอันอ่อนโยนของหวังจิ่นหลิง ความโกรธของเขาก็คลายลงครึ่งหนึ่ง “จิ่นหลิง เป็นเจ้า มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”

“จิ่นหลิงเรียนท่านว่าท่านลุง และขอให้ท่านลุงได้รับฟังแนะนำจากจิ่นหลิง” หวังจิ่นหลิงกล่าวออกไปตามตรง สีหน้าของลุงใหญ่จ้านเปลี่ยนไปทันใด ถามออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “เจ้าเองก็รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ?”

นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวของครอบครัว ลุงใหญ่จ้านไม่อยากให้คนนอกได้รับรู้ แม้ว่าจะเป็นศิษย์ที่น้องชายของเขาภาคภูมิใจก็ตาม

“ท่านอาจารย์ปฏิบัติต่อข้าราวกับลูกชาย ท่านลุงได้โปรดวางใจ จิ่นหลิงรู้ว่าสิ่งใดควรรับฟัง สิ่งใดไม่ควรรับฟัง” แม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะรับรู้อย่างชัดเจน แต่ก็แสดงออกมาราวกับว่าตนเองไม่รู้ จึงทำให้เขาอยู่ในสถานะที่เหมือนกับคนที่ไม่รู้เรื่องราว

“จิ่นหลิง เอาละ เจ้าเป็นเด็กดี เจ้าคนเด็กดี น้องหกของข้ามองคนไม่ผิดจริง ๆ” ลุงใหญ่จ้านตบไหล่ของหวังจิ่นหลิง และสำลักด้วยเสียงสะอื้น ราวกับว่าเขาพบทางออกแล้ว

ตอนแรกลุงใหญ่จ้านแทบจะแบกรับความลับอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้เอาไว้ไม่ไหว แต่เวลานี้เมื่อได้อยู่ร่วมกับหวังจิ่นหลิง ลุงใหญ่จ้านก็รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด อย่างน้อยชื่อเสียงของตระกูลจ้านก็ยังไม่ถูกทำลาย

“ท่านลุง ตรงนี้มีคนผ่านเข้าออกจำนวนมาก พวกเราเข้าไปคุยกันด้านในเถิด” หวังจิ่นหลิงยิ้มอย่างมั่นใจ แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าใจว่ารอยยิ้มของเขาในครั้งนี้มันซ่อนความเจ็บปวดไว้มากแค่ไหน

อาจารย์ใช้ความตายของตนเองในการปกปิดความลับ แต่สุดท้ายความลับก็ยังถูกเปิดเผยออกมา แม้ว่าจะไม่คนรู้เพียงไม่กี่คน แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์อยากให้เป็น...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ