แต่เดิมอวี่เหวินหยวนฮั่วตั้งใจจะสร้างความลำบากให้เฟิ่งชิงเฉินเล็กน้อย ให้นางดูร้อนใจเสียบ้าง แต่ทว่า เมื่อเห็นสีหน้าที่คล้ายยิ้มและไม่ยิ้มของเฟิ่งชิงเฉิน ก็พลันทำให้เขานึกไปถึง ยามที่เฟิ่งชิงเฉินเห็นแก่หน้าเขา เปลี่ยนค่ารักษาจากหนึ่งพันตำลึงทองเหลือเพียงแค่หนึ่งร้อยตำลึงเงิน เขาจึงได้เปลี่ยนคำพูดเป็น "ไม่มีปัญหา หากมีสิ่งใดที่ข้าพอจะช่วยได้ รีบบอกมาได้เลย"
"โจวสิงได้ยินหรือไม่ เจ้าอย่าได้คิดเกรงใจท่านแม่ทัพอวี่เหวินเสียเล่า" เฟิ่งชิงเฉินทำท่ากระพริบตาข้างเดียวส่งสัญญาณให้โจวสิงในทันที
หากจะทำห้องผ่าตัดย่อมต้องใช้คนเยอะมาก นางมิต้องการให้คนนอกรู้เรื่องมากไปนัก การที่ให้อวี่เหวินหยวนฮั่วส่งคนมาช่วย ย่อมต้องเป็นทางเลือกที่ดี ในยามนั้นจะเอ่ยปากทำอะไรย่อมสะดวกกว่า
เห็นได้ชัดว่า โจวสิงเข้าใจในสิ่งที่นางต้องการจะสื่อ
"พี่สาววางใจได้ ข้าจักจัดการให้ดี ท่านรีบไปรีบกลับเถอะ พวกเราจะรอท่านกลับมาเอง" การไปวังลั่วอ๋องในครานี้ พวกเขามิค่อยสบายใจนัก กลัวว่าเฟิ่งชิงเฉินจะถูกกลั่นแกล้งกลับมาอีก
"วางใจได้ ข้าจะรีบกลับมา" วังของลั่วอ๋องหาใช่องครักษ์เสื้อโลหิตไม่ ที่จะทำให้นางแขนขาดขาขาดเมื่อย่างกรายเข้าไป
อวี่เหวินหยวนฮั่วมิค่อยพอใจกับความมั่นใจในตนเองของเฟิ่งชิงเฉินนัก จึงกล่าวออกมาอย่างไม่ไว้หน้าว่า " เหตุใดมั่นใจในตนเองเช่นนี้ เจ้าคิดว่าลั่วอ๋องจักปล่อยเจ้าออกมาได้ง่ายดายงั้นหรือ?"
แค่กแค่ก
พ่อบ้านของวังลั่วอ๋อง พลันตัดบทอย่างไม่ไว้หน้าด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งหันไปมองอวี่เหวินหยวนฮั่ว
ท่านแม่ทัพ ในเมื่อท่านทให้ำลั่วอ๋องเสื่อมเสียเช่นนี้ ฝ่าบาทย่อมมิปล่อยท่านไปแน่
"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าหยอกเล่น ชิงเฉินเจ้ารีบไปรีบกลับเล่า" อวี่เหวินหยวนฮั่วพลันรีบผลักไสไล่ส่งเฟิ่งชิงเฉินเข้ากองเพลิงไปในทันที
"หาใช่มิตรแท้ไม่ ข้ามารู้จักกับเจ้าได้อย่างไรกัน"
เฟิ่งชิงเฉินได้แต่ส่ายหัวไปมา ราวกับว่ารับมิได้กับการกระทำเช่นนี้ หากแต่ในแววตาพลันแฝงไปด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ อยู่ เสมือนว่ากำลังรอการชำระแค้นก็มิปาน
เมื่ออวี่เหวินหยวนฮั่วนึกไปถึงฝีมืออันเลือดเย็นของนางแล้ว ทั่วร่างพลันแข็งค้างไปในทันที พร้อมทั้งก้าวไปทำทีจะขอโทษ
องครักษ์วังลั่วอ๋องทั้งหมดแปดคน พลันมีสีหน้าแข็งค้างไปในทันที คล้ายว่ากำลังจะกลั้นเสียงหัวเราะออกมา
"จะเสแสร้งไปทำไมกัน อยากหัวเราะก็หัวเราะออกมาเสีย" สีหน้าที่มืดดำของอวี่เหวินหยวนฮั่ว พลันกวาดตามองดูทุกคน เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นท่านแม่ทัพของเขาเอาไว้
แต่ทว่า มันสายไปเสียแล้ว
ทุกคนพลันก้มหน้าลง เพื่อหลบสายตาอของอวี่เหวินหยวนฮั่วที่กำลังมองมา พร้อมพากันแอบหัวเราะต่อ
อวี่เหวินหยวนฮั่วอา!
ท่านแม่ทัพอวี่เหวินผู้ไร้พ่าย มีบุรุษน้อยใหญ่มากมายต่างพากันชื่นชมเคารพบูชาเขา ในสายตาของบุรุษในแคว้นตงหลิงนั้น ท่านแม่ทัพอวี่เหวินหยวนฮั่วถือเป็นบุรุษที่น่ายกย่อง
แต่ในยามนี้ เขาก็หาได้แต่งต่างจากคนทั่วไปไม่
อวี่เหวินหยวนฮั่วกัดฟัน ยามที่กำลังคิดหาทางแก้เขินอยู่นั้น ก็พลันเห็นเฟิ่งชิงเฉินเดินไปกับคนของวังลั่วอ๋องเสียแล้ว
เป็นบุตรชายขององค์จักรพรรดิช่างดียิ่งนัก ยามที่เข้าไปใกล้ในตัวเมืองชั้นใน แม้มีคำสั่งห้ามมิให้มีการขี่ม้าภายใน แต่เนื่องจาก เป็นเพราะคำสั่งของตงหลิงจื่อลั่ว จึงทำให้พวกเขาสามารถขี่ม้าเข้าไปด้วยความรวดเร็วได้
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เฟิ่งชิงเฉินได้มีโอกาสเข้ามาที่วังลั่วอ๋อง ทั้งวังอ๋องคนอื่น ๆหรือครอบครัวคนชั้นสูงที่อยู่ในระแวกเดียวกัน ต่างก็อาศัยอยู่ในซอยของถนนอูอีที่มีเพียงถนนสองเส้นกั้นผ่าน
ซอยอูอีนั้น มีทั้งจวนตระกูลหวัง เซี่ย ชุย เวิน ที่มีตระกูลชนชั้นสูงอาศัยอยู่ อีกทั้งยังมีวังของท่านอ๋องและองค์หญิงมากมายอาศัยอยู่ในระแวกนี้เช่นเดียวกัน หากแต่วังที่ให้ความหรูหราและดึงดูดสายตาของผู้คนมากที่สุด ย่อมต้องเป็นวังของเสด็จอาเก้า
น่าเสียดายนัก จวนอ๋องเก้า หาใช่ผู้ใดจักสามารถเดินเข้าไปได้ เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่แอบมองจากที่ไกล ๆ แทน
เมื่อมาถึงวังลั่วอ๋องแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินยังมิทันได้มีเวลาชื่นชมกับความงานอันหรูหราภายในตัววังเลยแม้แต่น้อย ก็พลันถูกคนรีบร้อนเชิญเข้าไปในตำหนักด้านในโดยไว
เมื่อมาถึง ก็พลันเห็นท่านหมอหลวงกลุ่มใหญ่อยู่ด้านในห้องของตงหลิงจื่อลั่วเสียแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจยิ่งนัก เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินมาถึง ก็พลันพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเย็นชา แล้วจึงค่อย ๆ หลีกทางให้ แต่ทว่า สายตาของพวกเขาก็ยังไม่ละไปจากเฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน
ความอิจฉาริษยาเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินล้วนแต่เข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่เดิม นางยังคิดว่า หากตนเองมีโอกาส ก็อยากจะหาหมอหลวงสักคนเพื่อร่ำเรียนเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนเสียหน่อย แต่ดูเหมือนว่า หนทางของนางจะยากลำบากยิ่งนัก นางทำให้หมอหลวงทั้งหมดขุ่นเคืองใจเอาเสียแล้ว
"เฟิ่งชิงเฉินขอเข้าเฝ้าลั่วอ๋องเพคะ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน" เฟิ่งชิงเฉินหาได้เข้าไปดูตงหลิงจื่อลั่วไม่ นางยังคงนั่งคุกเข่าอยู่เช่นนั้น
"ลุกขึ้น" น้ำเสียงของตงหลิงจื่อลั่วดูจะแหบแห้งไปเล็กน้อย แต่ทว่า ฟังจากน้ำเสียงก็สามารถรู้ได้ว่า อาการของเขาดีขึ้นมามากแล้ว
นางเกลียดคนไข้ที่ไม่รักชีวิตตนเอง ทั้งยังเกลียดหมอที่มิคิดจริงจังกับชีวิตของผู้ป่วย ทั้งยังเกลียดคนไข้ที่แสดงตนว่าเชื่อใจ แต่ท้ายที่สุดกับหักหลังนาง
ตงหลิงจื่อลั่วกลับรวมความเกลียดชังนั้นเอาไว้ที่ตนเองหมดแล้ว
"เฟิ่งชิงเฉิน บาดแผลของข้า เจ้าเป็นคนจัดการงั้นหรือ" ตงหลิงจื่อลั่วที่นอนเอนตัวอยู่บนเตียง พลันกล่าวถามด้วยแววตาที่อ่อนลง
"เป็นหม่อมฉันเพคะ แต่ทว่า บาดแผลที่เห็นในยามนี้ หาใช่ฝีมือของหม่อมฉันไม่ ฝ่าบาทลั่วอ๋องเพคะ ผู้ใดทำให้บาดแผลของท่านกลายเป็นเช่นนี้กันเพคะ ท่านให้ผู้ใดมาทำแผลให้ท่านกัน ข้าเฟิ่งชิงเฉินมิยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่"
เฟิ่งชิงเฉินโมโหจนถึงขีดสุด หากที่นี่มิใช่วังลั่วอ๋อง หากตงหลิงจื่อลั่วมิใช่โอรสขององค์จักรพรรดิ นางคงโบกมือลาตั้งแต่แรกแล้ว
ตงหลิงจื่อลั่วกระทำเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าเขามิเชื่อใจนาง
หากมิใช่เช่นนี้แล้ว เหตุใดบาดแผลที่นางเย็บให้เขาถึงได้ถูกแกะออกมาจนไม่เหลือชิ้นดีเช่นนี้เล่า?
ในเมื่อมิเชื่อใจนางตั้งแต่แรก จะตามนางมาทำไมกัน หรือว่า พอจัดการด้วยตนเองมิได้แล้ว ถึงได้นึกถึงนางขึ้นมา?
คนพวกนี้ เห็นนางเป็นตัวอะไรกัน
"ลั่วอ๋อง ท่านจัดการด้วยตนเองเถอะเพคะ" ยามที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังจะหันกายจากไป น้ำเสียงของตงหลิงจื่อลัวพลันเอ่ยเสียงเข้มขึ้นมาว่า "เฟิ่งชิงเฉิน"
ฝีเท้าของเฟิ่งชิงเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง ก็พลันเห็นองครักษ์ที่อยู่ด้านนอก ในมือพลันถือทั้งหอกและดาบขวางเอาไว้ นางจึงต้องจำใจกัดฟันหันกลับมาตอบ "เพคะ"
ถึงแม้ว่านางจะโกรธยิ่งนัก แต่ก็มิอาจฉีกหน้าตงหลิงจื่อลั่วได้ จึงได้แต่แอบถอนหายใจออกมา เพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเองไว้
"ไปเตรียมจัดการพันแผลให้กับเปิ่นหวางบัดเดี๋ยวนี้" ตงหลิงจื่อลั่วออกคำสั่งโดยไม่สนใจสีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเลยแม้แต่น้อย
แต่เดิม บาดแผลหาได้มีอาการเจ็บปวดไม่ ทว่า เมื่อแกะผ้าพันแผลออกมานั้น พร้อมกับถูกหมอหลวงแทงเข็มลงไปได้สองครั้ง ก็พลันรู้สึกปวดแผลขึ้นมาในทันที ตงหลิงจื่อลั่วจึงไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในทันที หากมิใช่เพราะสะกดอารมณ์โกรธเอาไว้ ป่านนี้เขาคงจะโวยวายไปทั่วแน่
เฟิ่งชิงเฉินพลันยืนก้มหน้าอยู่เช่นเดิม มิเอ่ยอันใดออกใดมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...