นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1400

เฟิ่งชิงเฉินเล่าเรื่องของเฟิ่งหลีหยูออกมาให้เสด็จอาเก้าได้รับรู้อย่างละเอียด แน่นอนว่าไม่ลืมเรื่องการฝึกทหารเหล่านั้นในเวลาหนึ่งเดือน

“เป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก แค่เตรียมตัวเพียงอย่างเดียวก็เกรงว่าจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือน ข้าจะส่งคนมาช่วยเจ้า” ทหารขอทานพวกนั้นก็ถือว่าเคยฝึกมาบ้าง ระยะเวลาหนึ่งเดือนก็ยังพอมีทางเป็นไปได้

เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธออกไปทันทีโดยไม่คิด “ข้าจะทำเอง ข้าทำได้”

“เจ้าจะทำอย่างไร? สิ่งที่ทหารพวกนั้นต้องการไม่ใช่การฝึก แต่เป็นอาหารและสถานที่ เจ้ามีของพวกนั้นอย่างงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าไม่อยากให้เฟิ่งชิงเฉินผลักไสเขาออกไป ความรู้สึกนี้มันช่างแย่เสียจริง

ไม่ง่ายเลยว่าเฟิ่งชิงเฉินจะคุ้นชินกับการพึ่งพาเขา แต่เวลานี้นางกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีทางทอดทิ้งความสัมพันธ์ หากเรื่องเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ข้ายังต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น เช่นนั้นคุณค่าความเป็นคนของข้าก็คงไม่เหลืออยู่แล้ว” เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนที่เย่อหยิ่งและภาคภูมิใจในตัวเองเป็นทุนเดิม เพียงแต่ก่อนหน้านี้นางไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงความเย่อหยิ่งเหล่านั้นออกมา นางจึงต้องระงับมันเอาไว้ในหัวใจ อดทนอยู่กับมัน และเลือกที่จะเมินเฉยในหลาย ๆ เรื่อง

“ได้ หากต้องการความช่วยเหลือจากข้าเมื่อใด เจ้าก็คนไปบอกข้าที่จวนอ๋องเก้า” เสด็จอาเก้าเองก็ไม่บังคับ เขาเข้าใจการทดสอบทั้งหมดเป็นอย่างดี หากเฟิ่งชิงเฉินทำออกมาได้ไม่ดี แม้นางจะได้เป็นลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลี แต่นางก็จะไม่ได้รับการเคารพจากคนในตระกูล และจะมีใครในตระกูลเฟิ่งหลีที่ฟังคำสั่งของนาง

อีกอย่าง เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีเท่านั้น แต่นางยังต้องเป็นเฟิ่งหลีอ๋อง

“ขอบคุณท่านอ๋องมาก ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เดินทางปลอดภัย ข้าขอไม่ไปส่ง” เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่เสด็จอาเก้ากลับรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์อันเลวร้าย

“ชิงเฉิน เจ้า......” ยังโกรธอยู่งั้นหรือ

“ข้าทำไมงั้นหรือ?”

“เจ้ายังโกรธข้าอยู่งั้นหรือ?”

“ข้าบอกไปแล้ว เรื่องของพวกเราค่อยมาคิดบัญชีหลังลงมาจากภูเขา และเวลานี้เราก็มาเริ่มคิดบัญชีกัน” คิดว่าจูบนางจนเสียสติ และนางจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นงั้นหรือ

“แคก แคก......ชิงเฉิน ข้าผิดไปแล้ว” หูของเสด็จอาเก้าเป็นสีแดง ดวงตาของเขาฉายแววออกมา

“ผิดไปแล้ว? ท่าทางการรับผิดของเจ้าช่างยอดเยี่ยม” เฟิ่งชิงเฉินเบะปาก กล่าวถึงวิธีการที่เสด็จอาเก้าใช้ในการยอมรับผิดกับนาง

“หากรู้ข้อผิดพลาดและแก้ไขได้ มันก็ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้แล้ว ชิงเฉิน เจ้าจะยึดติดอยู่กับอดีตเพียงอย่างเดียวไม่ได้” เสด็จอาเก้ากล่าวถึงเหตุผลออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ไหนเจ้าลองบอกข้าว่าข้าควรลงโทษเจ้าอย่างไรดี?”

“เจ้าเองก็ผิด รู้ว่าหลังเขานั้นอันตราย แต่เจ้าก็ยังจะขึ้นไป เจ้ากำลังจงใจทำให้ข้าเป็นห่วง”

“มีเหตุผล ข้าเองก็ผิดเหมือนกัน ดังนั้นข้าเองก็ควรได้รับโทษ เอาเช่นนี้แล้วกัน ความผิดที่เจ้าทำ ข้าจะลงโทษเจ้าโดยการไม่ให้พบหน้าข้าเป็นเวลา 5 วัน ห้ามคุยกับข้า ข้าเองก็เช่นเดียวกัน โทษของข้าคือการไม่พบกับเจ้าเป็นเวลาสิบวัน ในสิบวันนี้ข้าจะไม่พูดกับเจ้า เอาว่าตกลงกันเช่นนี้......”

“นี่เจ้ากำลังลงโทษเจ้า หรือกำลังลงโทษข้า?” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเป็นสีดำ มีโทษเช่นนี้อยู่ด้วยงั้นหรือ

“เราสองคนต่างมีความผิด ดังนั้นเราสองคนจึงต้องรับโทษ ความผิดที่ข้าทำลงไปนั้นรุนแรงกว่า ดังนั้นโทษที่ได้รับจึงหนักกว่า” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ดูเป็นธรรม ทำให้เสด็จอาเก้าโกรธเป็นอย่างมาก

“ข้าไม่ติดเรื่องลงโทษ แต่โทษนี้มันรุนแรงเกินไป สามวัน สามวันก็เพียงพอแล้ว” เข้ากลับไปพักฟื้นสามวันก็น่าจะออกมาใช้ชีวิตภายนอกได้แล้ว

“สิบห้าวัน” ไม่เช่นนั้นเสด็จอาเก้าคงคิดว่านางเป็นแป้งเกี๊ยว อยากจะนวดเมื่อไหร่ก็นวด

“สิบห้าวันมันนานเกินไป ห้าวัน มากที่สุดห้าวัน โทษของข้าหนักกว่า จึงถูกลงโทษสามวัน ส่วนเจ้าถูกลงโทษเพียงแค่สองวัน” แม้ว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ยังถูกลงโทษ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับ

“เช่นนั้นก็หนึ่งเดือนแล้วกัน” เฟิ่งชิงเฉินผายมือทั้งสองข้าง ทำตัวเหมือนพวกขี้โกง สุดท้ายเสด็จอาเก้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประนีประนอม “สิบห้าวันก็สิบห้าวัน หลังจากสิบห้าวันผ่านไป เจ้าห้ามโกรธข้าอีกเป็นอันขาด เจ้ากับข้าต้องกลับมาดีกันเหมือนตอนแรก”

“สิบห้าวันแล้วค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าในสิบห้าวันนี้เจ้าหรือข้าอาจจะทำอะไรผิดขึ้นมาอีกก็ได้ไม่ใช่หรือ?” สามารถทำให้เสด็จอาเก้าหงุดหงิด เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ดีใจเสียยิ่งกว่าได้การได้รับการยอมรับจากคนของตระกูลเฟิ่งหลีเสียอีก

ฮึ......คิดว่าคนอย่างนางเฟิ่งชิงเฉินไม่มีตงหลิงจิ่วแล้วจะอยู่ไม่รอดหรือไง

“ข้าไม่มีทางทำผิดอีกเป็นแน่ หากเจ้าทำผิด เช่นนั้นก็จะลดจำนวนเวลาลงโทษลง” เสด็จอาเก้าไม่ยอมให้เฟิ่งชิงเฉินเล่นตุกติกเป็นอันขาด

“ไม่มีปัญหา ข้าจะให้คนไปจัดการให้ น่าจะใช้เวลาไม่เกินสามวัน” เซวียนเส้าฉีมองดู เขารู้ว่าหมู่บ้านตรงนั้นมีคนอาศัยอยู่ไม่มาก และที่ดีตรงนั้นก็แห้งแล้ง คนในหมู่บ้านไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบาย

“ขอบใจเจ้ามาก” เรื่องสถานที่ได้รับการแก้ไข มีเผ่าเสวียนเซียวกงคอยคุ้มกัน จักรพรรดิไม่สามารถส่งคนไปตรวจสอบได้ เนื่องจากที่นั่นไม่ใช่แผ่นดินของตงหลิง

“ไม่ต้องเกรงใจ หากข้าช่วยอะไรเจ้าได้ ข้าจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่” แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่ได้บอกถึงฐานะของนางให้เซวียนเส้าฉีได้รับรู้ แต่นางก็เล่าเรื่องการฝึกทหารออกไป

“อื้อ......เวลานี้ข้าต้องเริ่มวางแผนให้คนพวกนั้น คิดว่าจะย้ายถิ่นฐานในฐานะผู้ลี้ภัย หากเป็นไปได้ เจ้าช่วยข้าดูแลพวกเขา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน” คนจำนวนหมื่นคน แม้ว่าจะเดินทางในช่วงกลางคืน แต่มันก็ยังดึงดูดความสนใจของผู้อื่นอยู่ดี การมีเซวียนเส้าฉีช่วยเข้ามาปกป้อง มันคงเรื่องที่ดีกว่า

หลังจากตกลงเรื่องสถานที่ฝึกทหารแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ปล่อยตัวให้ว่าง นางรีบไปหาซูเหวินชิงเพื่อทำการข้อตกลงในการซื้อเสื้อผ้า ผ้าห่ม รองเท้า และสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

ปริมาณสำหรับ 10,000 คนไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย สีหน้าของซูเหวินชิงเปลี่ยนไป ไม่ใช่ว่าไม่มีเงิน แต่เขาไม่อาจยอมรับมันได้

“หนึ่งเดือนมันกระชั้นชิดเกินไป” ซูเหวินชิงสาบานว่าเขาจะไม่มีทางคิดราคานี้

“ข้าจะเพิ่มเงินให้เจ้าอีก เจ้าสามารถจ้างคนงานผู้หญิงเข้ามาเพิ่ม ข้าจะเป็นคนจ่ายค่าแรงของพวกนางเอง” เฟิ่งชิงเฉินใจกว้างเป็นอย่างมาก กลายเป็นซูเหวินชิงที่เป็นหนี้นาง

“ตกลง” ซูเหวินชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาทำได้เพียงปล้นมันมาจากอวี่เหวินหยวนฮั่วให้เฟิ่งชิงเฉินนำไปใช้ก่อน

หากเงินไม่พองานก็ไม่เดิน

“พ่อค้าหน้าเลือด” เฟิ่งชิงเฉินไม่มีเวลามาพูดคุยกับซูเหวินชิง หลังจากพูดคุยเรื่องเสื้อผ้าสำหรับคน 10,000 คนเป็นอันเรียบร้อย นางก็ไปหาหวังจิ่นหลิงที่ตระกูลหวัง

สำหรับอาวุธถ้านางไม่ไปหาเสด็จอาเก้า นางก็ทำได้เพียงมาหาหวังจิ่นหลิง เพราะนางไม่สามารถซื้ออาวุธในตลาดเหล่านั้นมาได้ แม้นางจะมีเงินก็ตาม!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ