นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1402

ลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีพังทลายแต่ไม่อาจให้ความช่วยเหลือได้ นั่นเป็นเพราะผู้ชายของตระกูลเฟิ่งหลีไร้ความสามารถ ผู้ชายที่สามารถพูดออกมาเช่นนี้ได้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

หวังจิ่นหลิงยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้า “สิ่งที่เฟิ่งหลี่หยูพูดนั้นถูกต้อง โยนความผิดมาให้ผู้หญิงเพียงคนเดียว มันแสดงออกให้เห็นว่าไร้ความสามารถ ชิงเฉิน ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วว่าจะแบกรับหน้าที่ของลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีเพื่อฟื้นฟูตระกูล เช่นนั้นก็สมควรแล้วที่เจ้าควรจะมีทหารเป็นของตัวเอง

อำนาจของตระกูลเฟิ่งหลีนั้นขึ้นอยู่กับกำลังทางทหาร มือทหารอยู่ในมือถึงจะไม่มีใครกล้ารุกรานเจ้า คนพวกนั้นถึงจะเคารพเจ้า อาวุธที่เจ้าต้องการ ข้าจะให้คนนำไปส่งให้เจ้าโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องม้าศึก ข้าเองก็จะช่วยเจ้าหาหนทาง เจ้าแค่ทำในสิ่งที่เจ้าต้องทำ ส่วนเรื่องพวกนี้......ข้าจะเป็นคนจัดการแทนเจ้าเอง”

ในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของคนบนโลกถูกเปิดเผยออกมา ปกติแล้วคนทั่วไปคงไม่อาจซื้อสิ่งของเหล่านี้ได้ แต่หวังจิ่นหลิงทำได้

“ข้าจำได้ จากข้อมูลที่เจ้ามอบให้ข้าในครั้งที่แล้ว ตระกูลเซี่ยมีฟาร์มม้าหลายแห่งเป็นการส่วนตัว ข้ากำลังคิดอยู่เลยว่าจะโจมตีตระกูลเซี่ยจากทางไหน ด้วยเหตุนี้แล้ว เจ้าจึงเป็นคนเลือกช่องทางในการลงมือให้กับข้า” หวังจิ่นหลิงไม่ต้องการรับความดีความชอบ เขาไม่เคยช่วยเหลือเฟิ่งชิงเฉินโดยหวังสิ่งตอบแทน เขาแค่อยากทำมันด้วยใจเท่านั้น

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ขอไม่เกรงใจ และตอนนี้ข้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเกรงใจเจ้า” นางยากจน หากนางไม่พึ่งพาคนพวกนี้ ต่อให้ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีนางก็ไม่อาจสร้างกองทัพทหารขึ้นมาได้

อีกอย่าง ฟาร์มม้าของตระกูลเซี่ยนั้นก็เป็นฟาร์มส่วนตัว ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ตระกูลเซี่ยก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยมัน

“ไม่เป็นไร เมื่อถึงคราวที่เจ้าทำให้ใต้หล้าสั่นสะเทือน เจ้าก็อย่าลืมพูดถึงหวังจิ่นหลิงผู้นี้ เพื่อสร้างความดีความชอบให้แก่ข้าด้วยแล้วกัน” หวังจิ่นหลิงรู้ถึงตัวตนและภูมิหลังของเฟิ่งชิงเฉิน เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

เมื่อวันนั้นมาถึง ไม่ว่าจะเป็นเสด็จอาเก้าหรือผู้ใดในโลกก็ไม่อาจใช้ภูมิหลังในการโจมตีเฟิ่งชิงเฉินได้

ชิงเฉินคือขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง ในโลกใบนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านาง แม่ว่าภูมิหลังแม่ของนางจะไม่ดี แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะของนาง

“ทำให้ใต้หล้าสั่นสะเทือน? ข้าเองก็รอคอยวันนั้นเช่นกัน แต่หากจะพูดถึงความดีความชอบ เป็นข้ามากกว่าที่ต้องให้เจ้าเป็นคนกล่าวถึง เจ้าคือคุณชายใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วใต้หล้า ไม่มีใครที่ไม่รู้จักสุภาพบุรุษอย่างเจ้า เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้าเอ่ยถึงในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย” ถูกหวังจิ่นหลิงพูดเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินเองก็รู้สึกสบายใจไม่น้อย

บางทีอนาคตข้างหน้าอาจจะไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับที่นางคิดไว้ เส้นทางข้างหน้าของนางมีจิ่นหลิงและคนของตระกูลเฟิ่งหลีคอยให้การสนับสนุน นางไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไป

นางสามารถเดินได้ไกลว่าเดิม ทำให้คนของตระกูลเฟิ่งหลีกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง ทำให้ตระกูลเฟิ่งหลีกลับมาเป็นตระกูลชั้นนำได้เพราะลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีผู้นี้

เช่นเดียวกับที่หวังจิ่นหลิงได้กล่าวเอาไว้ เป็นลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีที่ทำให้ทั่วทั้งใต้หล้าต้องสั่นสะเทือน!

ช่วงนี้เฟิ่งชิงเฉินยุ่งเป็นอย่างมาก ยุ่งอยู่กับเรื่องจัดเตรียมทหารส่วนตัว ยุ่งกับเรื่องประธานในพิธีรับเลี้ยงเด็กบุญธรรม เพื่อทำให้น้องชายของจั่วอั้นได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเปิดเผยในนามของคุณชายแห่งจวนเฟิ่งด้วยนามว่า เฟิ่งจิน

พิธีรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมนั้นเรียบง่ายมากแต่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่เป็นประธานในพิธีคือบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับคำเชิญมาจากหวังจิ่นหลิง ตระกูลขุนนางมากกว่าครึ่งส่งของขวัญอวยพรมาให้กับเฟิ่งชิงเฉิน แม้แต่จวนอ๋องเก้าเองก็ส่งของขวัญมาแสดงความยินดี เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเฟิ่งชิงเฉินกับคนในเมืองจักรพรรดินั้นน่ากลัวเพียงใด

แม้ว่าจะไม่ชอบ แต่ก็ไม่มีใครกล้ารุกรานหมอที่มีความสามารถอันแสนพิเศษผู้นี้

เฟิ่งชิงเฉินได้ประกาศในงานพิธีว่า เมื่อเฟิ่งจินอายุครบหนึ่งขวบ เฟิ่งจินจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทายาท และจวนเฟิ่งก็จะตกเป็นของเฟิ่งจินตั้งแต่บัดนั้น

ทุกคนชื่นชมในความมีน้ำใจของเฟิ่งชิงเฉิน จั่วอั้นเองก็มีความสุข แม้ว่าเขาจะไม่สนใจในตำแหน่งใด ๆ แต่การที่น้องชายของตนเองมีฐานะที่สูงส่งก็ถือเป็นเรื่องดีกับตัวเอง อย่างน้อยก็ไม่ถูกผู้อื่นรังแกได้โดยง่าย

คนรับใช้ในจวนเฟิ่งเองก็มีความสุข จวนเฟิ่งมีทายาทมาสืบทอด แม้ว่าจะยังเด็ก แต่ช่วงระยะเวลาสิบกว่าปี มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการรอคอยของพวกเขา การรับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งเป็นบุตรบุญธรรม อาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องมงคลไม่ต่างอะไรกับการแต่งงาน

ช่วงนี้ชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ดังนั้นจึงลืมเรื่องของการล่าสัตว์ในสนามล่าสัตว์เย่หลานไปเสียสนิท แต่ถึงรู้เรื่องนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะด้วยสถานะของเฟิ่งชิงเฉิน นางไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมการล่าสัตว์ในครั้งนี้

ตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ด้วยความพยายามร่วมกันของทุกคน อุปกรณ์และกำลังพลมีความพร้อมเป็นอย่างมาก สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือการฝึกตามแผนที่เฟิ่งชิงเฉินได้วางไว้

ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือน เฟิ่งชิงเฉินไม่คิดว่านางจะสามารถฝึกทหารออกมาได้แข็งแกร่งจนไร้คู่ต่อกร นางแค่อยากให้เป็นเหมือนที่เฟิ่งหลี่หยูพูด แค่สามารถออกมาพบปะผู้คนได้ก็เพียงพอแล้ว

ลูกของจักรพรรดิ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงอย่างทำอะไรอย่างลึกซึ้ง การที่องค์หญิงอันผิงยอมเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยไม่คิดชีวิต แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเพราะความสัมพันธ์ของพ่อลูกเป็นแน่

“นางจริงใจต่อองค์ชายเจ็ดอย่างแท้จริง” นี่เป็นสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจปฏิเสธได้ “ไปกันเถอะ เจ้าตามข้ามา พวกเราจะเข้าไปในพระราชวัง”

“เจ้าค่ะ” ทงจือหยิบกล่องยา จากนั้นก็เดินตามหลังเฟิ่งชิงเฉินไป

ในพระราชวัง บรรยากาศเต็มไปด้วยแรงกดดัน สาวใช้และขันทีต่างเร่งรีบ ใบหน้าของพวกเขาไม่มีรอยยิ้มปรากฏออกมาให้เห็น มีเพียงความสิ้นหวังที่ปรากฏออกมา ดูเหมือนน้ำตาจะคลอเบ้า แต่ก็ไม่กล้าปล่อยให้มันหยดลงมา

เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปในห้องโถงชั้นในโดยไม่หันมอง จักรพรรดินั่งอยู่บนบัลลังก์ หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินเข้าไปและถวายความเคารพ นางทำความเคารพได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นก็ถูกจักรพรรดิขวางเอาไว้ “พอแล้ว ไปดูอาการขององค์หญิงก่อน”

หา? จักรพรรดิเป็นห่วงองค์หญิงอันผิงขนาดนี้เลยงั้นหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“แม่นางเฟิ่ง ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว เร็วเข้า รีบมาเร็ว......” ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินเข้าไปก็ถูกหมอหลวงล้อมไว้ทันที แต่ละคนเหมือนกับได้เห็นดวงดาวแห่งการช่วยชีวิต เฟิ่งชิงเฉินตอบรับอีกฝ่ายด้วยความร่วมมือ จากนั้นก็เดินเข้าไป “คารวะใต้เท้าทุกท่าน”

“ไม่ต้องมากพิธี แม่นางเฟิ่งรีบมาดูอาการขององค์หญิงเร็วเข้า” หมอหลวงบอกให้หมอหญิงหลีกทางให้เฟิ่งชิงเฉิน

ทันทีที่เสด็จอาเก้าได้เห็นบาดแผลขององค์หญิงอันผิง นางก็เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดจึงให้ความสนใจและเป็นห่วงองค์หญิงอันผิงเช่นนี้

จักรพรรดิไม่ได้เป็นห่วงเรื่องความเป็นความตายขององค์หญิงอันผิง แต่เป็นห่วงเรื่องประโยชน์ในการใช้งานของนาง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ