นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 150

และตอนนี้เอง หญิงสาวทั้งหลายที่มีศัตรูคนเดียวกัน รวมถึงเซี่ยฮูหยิน ต่างมองนางด้วยสีหน้าไม่พอใจ

คำพูดของเฟิ่งชิงเฉินได้เหมารวมคนทุกคนไปด่าว่า หวังจิ่นหลิงอยากเข้าไปปกป้องนาง แต่ก็ถูกนางสั่งห้ามด้วยสายตา

"ด่าหรือ? คุณหนูซือหม่าก็พูดเกินไป การเปรียบเปรยของคนรู้หนังสือ ฝีปากกล้า ความสามารถไร้เทียมทาน ชิงเฉินกำลังกล่าวชมพวกคุณหนูอยู่นะ คุณหนูแต่ละคนมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาเลย"

บรรดาคุณหนูต่างศึกษาตำรับตำรามาแล้วไม่น้อย หากจะเล่นงานพวกนาง คงจะใช้วิธีที่โจ่งแจ้งไม่ได้

"เฟิ่งชิงเฉิน มันจะมากเกินไปแล้ว"

ซือหม่าเยียนโกรธจนหน้าซีดเซียวและสั่นไปทั้งตัว ในขณะที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังรอฟังคำพูดเสียดสีจากปากนางอยู่นั้น นางกลับมีน้ำลายฟูมปาก ชักเกร็งไปทั่วร่าง และล้มตึงไปกับพื้น

เกิดอะไรขึ้น?

เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึง

"หา......" หญิงสาวคนอื่นๆเริ่มแตกตื่น เซี่ยฮูหยินถึงกับเปลี่ยนสีหน้า ตอนนี้นางกำลังโมโหมาก

งานกวีในครั้งนี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันสารพัด

"เร็วเข้า รีบไปดูเร็ว" เหล่าคุณชายก็พากันตกใจ หวังจิ่นหลิงรีบวิ่งเข้ามาดู แต่กลับถูกเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาขวาง

"ทุกคนถอยออกไปให้หมด"

เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ท่าทางของนางทำให้ผู้คนไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้เท่าไรนัก

"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้พวกเราถอย"

"เจ้าจะทำร้ายคุณหนูซือหม่าหรือ?"

ทุกคนไม่สนใจและเดินมาจับตัวเฟิ่งชิงเฉิน หวังจิ่นหลิงรีบเข้ามาหยุดยั้ง

"ทุกคนทำตามที่เฟิ่งชิงเฉินบอก ฝีมือการรักษาของนางยอดเยี่ยมมาก"

หวังจิ่นหลิงออกปากทั้งที คนอื่นๆไม่มีใครกล้าขัด และเซี่ยฮูหยินก็อยากดูด้วยว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีฝีมือจริงหรือไม่ นางจึงไม่ห้ามปราม

ซือหม่าเยียนล้มฟุบไปกับพื้น นางกระตุกไปทั้งตัว ใบหน้าเขียวคล้ำ น้ำลายฟูมปาก แถมยังกัดฟันแน่นจนมีเลือดไหลซิบ

ลักษณะอาการเช่นนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นอาการของโรคลมบ้าหมู

เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะรู้จักโรคนี้ด้วยหรือไม่ แต่นางรู้ดีว่าหญิงชนชั้นสูงเมื่อเป็นโรคนี้แล้วก็จะปิดเป็นความลับ ปกติแล้วซือหม่าเยียนก็เคยมีอาการ แต่วันนี้นางโชคร้ายจริงๆ

"คุณหนูซือหม่าแค่โรคเก่ากำเริบ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะ"

ถึงแม้ว่าซือหม่าเยียนจะทำตัวร้ายกาจ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อยากทำลายชื่อเสียงของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง จึงอธิบายให้คนอื่นเพียงแค่นั้น ในฐานะที่นางเป็นหมอ นางก็ไม่ควรนำเรื่องส่วนตัวของคนไข้มาเผยแพร่

"เช่นนั้นก็แล้วไป" คนอื่นๆต่างรู้สึกโล่งอก

เฟิ่งชิงเฉินปลดกระดมเสื้อซือหม่าเยียน 2 เม็ด เพื่อให้นางหายใจได้โล่งปอด แล้วตะแคงศีรษะนางเพื่อให้น้ำลายไหลออกมาได้สะดวก เฟิ่งชิงเฉินหยิบปิ่นปักผมนางมาให้นางคาบไว้ เพื่อไม่ให้นางกัดปากของตัวเอง

ท่าทางการปฐมพยาบาล เฟิ่งชิงเฉินทำได้อย่างเชี่ยวชาญ คนอื่นๆถึงกับมองตาค้าง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย

ทุกคนดูถูกเฟิ่งชิงเฉิน แต่ดูท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินแล้วต้องถือว่าไม่เลวเลยจริงๆ พวกเขาอยากจะจ้องจับผิด แต่ก็ไม่พบข้อบกพร่องตรงไหนเลย......

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วก็ต้องตรวจสอบว่าซือหม่าเยียนพ้นขีดอันตรายแล้วจริงๆ จากนั้นเฟิ่งชิงเฉินก็ลุกขึ้น "คุณหนูซือหม่าไม่เป็นอะไรแล้ว ทุกคนวางใจได้ มีน้ำไหม ไปตักน้ำมาให้ข้าล้างมือหน่อย"

"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเก่งจริงๆเลย" คุณชายเสื้อสีเขียวบอกนาง เขาจ้องมองเฟิ่งชิงเฉินมานานแล้ว

ผู้หญิงแบบนี้ ภายในตงหลิงหายากจริงๆด้วย แล้วจะให้ละสายตาไปได้อย่างไร

"คุณหนูเฟิ่งพูดง่ายดีจริงๆ ไปนำพู่กันและน้ำหมึกมาให้คุณหนูเฟิ่งด้วย" เซี่ยซานและคุณชายคนอื่นๆต่างร่วมกันสนับสนุน ตอนนี้ทุกคนได้ลืมเรื่องซือหม่าเยียนไปเสียแล้ว

พู่กันและน้ำหมึก?

เฟิ่งชิงเฉินหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากหวังจิ่นหลิง ลายมือนางดูได้เสียที่ไหน

หวังจิ่นหลิงส่งยิ้มพร้อมส่ายหน้า ก่อนที่คนอื่นจะพูดต่อ เขาก็เดินมาที่หน้าโต๊ะแล้วหยิบพู่กันขึ้นมา "ข้าขอเขียนแทนคุณหนูเฟิ่งก็แล้วกัน"

อะไรนะ......

"คุณชายใหญ่......" ทุกคนพากันอึ้งและจ้องมองมายังหวังจิ่นหลิงที่กำลังจับพู่กัน

ในตอนนี้ ปฏิกิริยาของทุกคนไม่ต่างไปจากตอนที่พวกเขาเห็นเสด็จอาเก้ามาส่งเฟิ่งชิงเฉิน

คุณชายใหญ่ถือพู่กันเขียนแทน ทั่วปฐพีนี้คงมีเพียงเฟิ่งชิงเฉินได้อภิสิทธิ์นี้

แต่ละคนเริ่มมองเฟิ่งชิงเฉินด้วยความริษยาอีกครั้ง บางคนก็ควบคุมอารมณ์ทางสีหน้าไม่อยู่แล้ว

ทำไมคนๆนี้ถึงโชคดีอย่างนี้นะ ราวกับว่าสิ่งที่ดีๆล้วนไปรวมกันอยู่ที่ตัวนางเพียงคนเดียว

เมื่อต้องเผชิญกับสายตาเกรี้ยวกราดของฝูงชน เฟิ่งชิงเฉินก็ยิ่งมีสีหน้าที่แช่มชื่น ไหนๆวันนี้นางก็เด่นกว่าใครแล้ว จะเด่นขึ้นอีกนิดก็ไม่เห็นจะเป็นไร

เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยให้ทุกคนได้ยินว่า "คุณชายใหญ่ถือพู่กันเรียบร้อยแล้ว ชิงเฉินมีหรือจะกล้าปฏิเสธ?"

"อย่าพูดเช่นนั้นเลย การได้เขียนหนังสือแทนคุณหนูเฟิ่ง ถือเป็นเกียรติของจิ่นหลิงยิ่งนัก" หวังจิ่นหลิงกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่รอยยิ้มของเขาเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ยังเป็นเฟิ่งชิงเฉิน ไม่เข้าใจคำว่าถ่อมตนแม้แต่น้อย

วันนี้เขาจะรังสรรค์เส้นทางเดินอันสวยงามให้เฟิ่งชิงเฉินเอง ให้เส้นทางที่ก้าวไปสู่อนาคตของนางมีขวากหนามน้อยลง และราบรื่นมากขึ้น......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ