"คนบ้า" เฟิ่งชิงเฉินผงะไปและเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของตี๋ตงหมิงโดยไม่ได้ตั้งใจ
"นั่งดีๆ ข้าจะไม่ล่วงเกินเจ้า สารรูปของเจ้าข้าชอบไม่ลง" ตี๋ตงหมิงควบม้าทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว เขาจับเฟิ่งชิงเฉินไว้ด้วยมือข้างเดียวด้วยท่าทางที่ยากจะพรรณนา
หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้ว เขาก็ยังคงซ่อนตัวอยู่ที่แคว้นตงหลิงโดยใช้ประโยชน์จากความวุ่นวาย ซีหลิงเทียนเหล่ยและซีหลิงเหยาหวาเพิ่งติดต่อกับคนที่เหลือของจูเซียง ตกลงผลประโยชน์กันได้ไม่น้อย สองพี่น้องอารมณ์ดีไม่เบา ในขณะที่กำลังปรึกษากันว่าจะมาแคว้นตงหลิงอย่างเปิดตัวเมื่อใดอยู่นั้น เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นภาพของเฟิ่งชิงเฉินและตี๋ตงหมิงที่ขี่ม้าด้วยกัน
"สตรีผู้นี้ไม่รู้จักหลีกเลี่ยงคำนินทาหรืออย่างไร นางยังเสียชื่อไม่พออีกหรือ" ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินและตี๋ตงหมิงดูเหมาะสมกันเช่นนี้แล้วก็อดรู้สึกว่าภาพนั้นทิ่มแทงสายตาอยู่ไม่น้อย
"พี่ใหญ่ อวี่เหวินหยวนฮั่วไปแล้ว นางย่อมต้องหาที่พึ่งใหม่โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นดูจากความสามารถในการสร้างศัตรูทุกที่ที่นางไปแล้ว ไม่รู้เลยว่านางจะมีจุดจบเช่นไร
แม้จะบอกว่านางจะมีมิตรภาพอันดีกับตงหลิงจิ่วและหลานจิ่วชิง แต่ตงหลิงจิ่วคือใครกัน เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร สำหรับหลานจิ่วชิงนั้น วิทยายุทธ์ของเขายอดเยี่ยมไม่เบา แต่เขาไม่ใช่คนในราชวงศ์จึงช่วยนางไม่ได้ ซู่ชินอ๋องซื่อจื่อนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว"
ซีหลิงเหยาหวาที่เป็นผู้หญิงด้วยกันเข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังทำอะไร แต่ที่มากกว่านั้นคือความอิจฉา สตรีเช่นเฟิ่งชิงเฉินนั้น เหตุใดจึงได้รู้จักแต่บุรุษที่คนธรรมดาอาจเอื้อมไม่ถึงและที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาเหล่านั้นล้วนเคารพนางและไม่มีท่าทางดูหมิ่นนางแม้แต่น้อย
ซีหลิงเหยาหวาเข้าใจได้ว่าทำไมองค์หญิงอันผิงถึงได้อยากกำจัดเฟิ่งชิงเฉินมากถึงเพียงนั้น เพราะนางเองก็เหมือนกับองค์หญิงอันผิง นางก็ต้องการกำจัดเฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน
เสียง "เพล้ง" ดังขึ้น ซีหลิงเทียนเหล่ยบีบถ้วยในมือของเขาจนแตก ชิ้นส่วนที่แตกบาดนิ้วเขาและเลือดก็ไหลออกมาตามง่ามนิ้ว
"ท่านพี่…" ซีหลิงเหยาหวารีบลุกขึ้นยืนและพันผ้าพันแผลที่บาดแผลของซีหลิงเทียนเหล่ยด้วยผ้าเช็ดหน้า ซีหลิงเทียนเหล่ยหน้าบึ้งตึงและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงมองดูร่างของเฟิ่งชิงเฉินที่จากไป
จวนอ๋องเก้า
เมื่อตงหลิงจิ่วได้ยินข่าวนี้เข้าก็พยักหน้าแสดงการรับรู้ หลังจากที่ผู้รายงานข่าวออกไป รอยยิ้มแสดงความชื่นชมก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา นางฉลาดจริงๆ มิเสียแรงที่เขาไปถึงจวนนางด้วยตนเอง เฟิ่งชิงเฉินเป็นเสมือนลาที่ดื้อรั้น ถ้าไม่ตีก็ไม่เดินต่อ
ห้องทรงพระอักษร
"ซู่ชินอ๋องซื่อจื่อ? เฟิ่งชิงเฉินมีความสามารถจริงๆ และก็กลัวความตายไม่น้อย" จักรพรรดิโบกมือและส่งสัญญาณให้สายลับออกไป
เขาไม่ได้เห็นเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในสายตา สิ่งที่เขาสนใจก็คือนางมีประโยชน์หรือไม่
คิดไม่ถึงเลย เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่จำเป็นต้องให้ตงหลิงจิ่วออกหน้าก็สามารถแก้ไขวิกฤติในทันทีด้วยตัวเองได้
ผู้หญิงเช่นนี้บางทีอาจมีประโยชน์กับเขาก็เป็นได้
วังหลัง
"เข้าบอกว่าซู่ชินอ๋องซื่อจื่อและเฟิ่งชิงเฉินขี่ม้าด้วยกันบนท้องถนนงั้นหรือ?" ดวงตาของฮองเฮาดูเคร่งขรึมแต่นางก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
"ทูลฮองเฮา ใช่แล้วเพคะ หลายคนก็เห็น ซู่ชินอ๋องซื่อจื่อลากตัวนางขึ้นบนหลังม้าไป" นางกำนัลคุกเข่าอยู่บนพื้นโดยไม่กล้าหายใจ
"ลากนางไป? เฟิ่งชิงเฉิน หรือว่าผู้บัญชาการทหารองครักษ์ล้วนถูกแต่งตั้งขึ้นให้นาง อวี่เหวินหยวนฮั่วไปเสียคนหนึ่งแล้วก็ยังมีตี๋ตงหมิงอีก ข้าเคยคิดว่าตี๋ตงหมิงผู้นี้จะดีเสียอีก คิดไม่ถึงเลย…" ฮองเฮาตบโต๊ะอย่างแรงจนถ้วยหยกกระเด้งขึ้นและถูกแขนเสื้อกว้างๆ กวาดตกลงบนพื้น
โชคดีที่พรมใต้เท้าหนาพอ ไม่เช่นนั้นถ้วยหยกอันวิจิตรงดงามจะแตกเป็นเสี่ยง
เพราะคำพูดเพียงประโยคเดียวของเฟิ่งชิงเฉินได้ทำลายองค์หญิงอู่อันผู้เป็นบุตรสามของนาง ฝ่าบาทไม่เพียงยึดคืนบรรดาศักดิ์ของนางเท่านั้น แต่ยังลงโทษจวนกั๋วกง ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัย
ต้องรู้ว่าองค์หญิงอู่อันเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในจวนเจิ้นกั๋วกงที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ นั่นเป็นเพราะตั้งแต่เด็ก องค์หญิงอู่อันก็ต้องตาไทเฮาเข้า ไทเฮาจึงได้ขอให้ เดิมนี่เป็นเรื่องมีเกียรติยิ่งนัก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้
กั๋วกงฮูหยินคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเฟิ่งชิงเฉิน หากไม่ใช่เพราะเฟิ่งชิงเฉินแล้ว อู่อันจะถูกริบบรรดาศักดิ์ได้อย่างไรและลูกสาวของจวนเจิ้นกั๋วกงจะถูกดูแคลนได้อย่างไร
เนื่องจากข่าวลือเรื่องการผิดประเวณีก่อนแต่งงานขององค์หญิงอู่อันถูกแพร่ออกไป ธิดาของเจิ้นกั๋วกงจึงขายไม่ออก เรื่องแต่งงานที่เจรจาไว้ก่อนหน้านี้ถูกทำลายไปจนสิ้น
อย่างไรการแต่งงานต้องแต่งกับภรรยาผู้มีคุณธรรม ส่วนหากจะแต่งอนุนั่นก็ด้วยรูปโฉม
คุณธรรมของภรรยาไม่เพียงแต่ต้องมีศักดิ์ศรีสง่างามเท่านั้น แต่ยังต้องมีชื่อเสียงว่ามีคุณธรรมด้วย สตรีที่ชื่อเสียงถูกทำลายจนป่นปี้ ไม่เพียงแต่จะไม่มีใครต้องการ แต่ยังทำให้มัวหมองไปถึงวงศ์ตระกูล นำความอับอายมาสู่ผู้คนในตระกูลทั้งหมด
ในราชวงศ์ตงหลิง สตรีเช่นนี้มีอยู่สองคน คนหนึ่งคือเฟิ่งชิงเฉินและอีกคนหนึ่งก็คือองค์หญิงอู่อัน โดยเฉพาะองค์หญิงอู่อัน ตอนนี้นางเหลือเพียงชื่อที่สวยงามเท่านั้น
เมื่อเหล่าผู้ดีในเมืองหลวงกล่าวถึงธิดาของเจิ้นกั๋วกงก็จะรู้สึกว่ามีเมฆสีเขียวอยู่เหนือหัว ใครก็ตามที่อยากจะแต่งงานกับนางก็จะต้องถูกสวมเขา
ตระกูลหนึ่งมีลูกสาวและมีผู้มาสู้ขอหลายร้อยคน แต่ด้วยคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน ลูกสาวทั้งเจ็ดที่กำลังรอแต่งงานและลูกสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกหกคนล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น แม้กระทั่งตระกูลสายรองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย หากไม่ใช่เพราะฮูหยินผู้เฒ่าออกหน้ารับแรงกดดัน คงต้องส่งพวกนางกลับไปยังบ้านเกิดและหาคนที่นั่นแต่งงานด้วยเป็นแน่
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร นั่นหมายความว่าเจิ้นกั๋วกงสูญเสียโอกาสในการแต่งงานกว่าหลายสิบครั้ง
ต้องรู้ว่าครอบครัวของชนชั้นสูงล้วนชอบอาศัยแต่งงานระหว่างกันเพื่อเชื่อไมตรี ตระกูลเจ้าแต่งงานกับลูกสาวข้า ลูกสาวข้าแต่งเข้าตระกูลเจ้า ไปๆ มาๆ ทุกครอบครัวก็ล้วนเป็นญาติกันหมด หากเกิดเรื่องขึ้นทุกคนก็จะช่วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...