นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 223

ทันทีที่ตงหลิงจิ่วนั่งลง เขาก็พูดช้า ๆ ว่า "องค์หญิงเหยาหวา ซูหว่านซิ่ว พวกเจ้ามาที่ตงหลิง มาจากแดนไกลเพื่อเป็นตัวแทนของซีหลิงและหนานหลิง เพื่อฉลองวันคล้ายวันประสูติของจักรพรรดิ ตงหลิงของเราควรปฏิบัติต่อด้วยความสุภาพ ข้าปฏิบัติต่อแขกอย่างสุภาพในตงหลิง หวังว่าองค์หญิงและคุณหนูจะปฏิบัติตนตามความสะดวกของเจ้าภาพ อย่าได้ให้เจ้าภาพนั้นลำบากใจจะดีกว่า"

คำพูดของตงหลิงจิ่วฟังดูสูงและเป็นกลาง แต่แอบเข้าข้างเฟิ่งชิงเฉิน

หากเป็นในอดีต เฟิ่งชิงเฉินคงแอบดีใจอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้นางทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น เพราะวิธีการของเสด็จอาเก้าใช้กลนี้ได้ไม่ค่อยชำนาญนัก

ซูหว่านมีความคิดที่อยากจะแต่งงานกับตงหลิงจิ่ว เมื่อได้ยินเช่นนี้นางจึงยิ้มและพยักหน้าเบา ๆ เพื่อแสดงตนว่าจะเชื่อฟัง

เป็นคำสอนของตระกูลซูแห่งหนานหลิงที่คอยสอนหญิงสาวว่า อยู่ข้างนอกจะต้องให้เกียรติผู้ชายให้มาก ส่วนอยู่ลับหลังก็ใช้กลอุบายของตนเอง

ส่วนซีหลิงเหยาหวานั้นต่างกัน แม้ว่านางจะชื่นชมเสด็จอาเก้า แต่นางรู้ดีอย่างมากว่า ทัศนคติทางการเมืองของนางและเสด็จอาเก้านั้นอยู่ตรงข้ามกัน นางจึงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเสด็จอาเก้า หากว่าให้เกียรติเสด็จอาเก้า แล้วเกียรติของราชวงศ์ซีหลิงล่ะ?

"เสด็จอาเก้า หรือว่าในตงหลิง คำปากเปล่าของจักรพรรดิในตงหลิงนั้นไร้ประโยชน์แล้วหรือ?" เพียงประโยคเดียวเท่านั้น กล่าวเน้นเข้าที่ประเด็ดหลัก นางมองไปที่ตงหลิงจิ่วด้วยสายตาที่เฉียบแหลม ราวกับจะข่มกลิ่นอายน่าเกรงขามของตงหลิงจิ่ว

"องค์หญิงเหยาหวากล่าวแรงเกินไป มารยาทของตงหลิงนั้นส่งไปทั่วแคว้น คำของจักรพรรดินั้นเรามิอาจไม่ปฏิบัติตาม พระราชประสงค์ของจักรพรรดิคือให้องค์หญิงเหยาหวาและคุณหนูซูหว่านมาที่จวนเฟิ่งเพื่อสัมผัสทักษะทางการแพทย์ของหมอเฟิ่ง แต่ท่านมิได้บอกให้องค์หญิงเหยาหวาและคุณหนูซูเข้าร่วมการรักษาทั้งกระบวนการ ฉะนั้นองค์หญิงเหยาหวาโปรดอย่าส่งต่อพระราชกฤษฎีกาอย่างเป็นเท็จ"

ตงหลิงจิ่วไม่ค่อยยิ้ม และน้อยครั้งที่จะกล่าวประโยคยาวเช่นนี้ เขากล่าวอย่างช้าๆ ทุกคำทุกตัวอักษรนั้นเหมือนกระแทกเข้าที่หัวใจของคนฟัง และทำให้ผู้คนที่ฟังนั้นเริ่มตึงเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

"องค์หญิงเหยาหวา หากทุกคนเป็นเหมือนเจ้า ถือคำพูดของจักรพรรดิและกระทำตามใจตน เช่นนั้นตงหลิงฉีก็คงจะวุ่นวายนัก ข้าคิดว่าหากอยู่ในซีหลิงเจ้าก็คงมิกล้าทำเช่นนี้หรอก หากว่าใช่ ข้าอยากจะเข้าไปที่ซีหลิงแล้วเชียว"

นี่คือคำเตือน เป็นการข่มขู่ คำเตือนที่ชัดเจนอย่างมาก

ข้อความย่อยในประโยคนี้คือ สิ่งที่เจ้าซีหลิงเหยาหวาทำให้ตงหลิงนั้น ข้าตงหลิงจิ่วจะไปเอาคืนที่ซีหลิงเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน

รอยยิ้มบนใบหน้าของซีหลิงเหยาหวาแข็งทื่ออย่างมาก นางแอบสังเกต และรู้ว่าแม้ตงหลิงจิ่วจะเข้าข้างเฟิ่งชิงเฉินไปทุกๆ เรื่อง แต่ล้วนเข้าข้างอย่างลับๆ แต่ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะชัดเจนเช่นนี้ จนกระทั้งหยิบเอาเรื่องบ้านเมืองเข้ามากล่าว

เฟิ่งชิงเฉินได้รับการปกป้องจากเสด็จอาเก้าเช่นนี้ นางยอมแพ้

ซีหลิงเหยาหวาอยากใช้ท่าทีจิบน้ำชาเพื่อสงบอารมณ์ของตน แต่กลับพบว่า......

คนในจวนเฟิ่งมิได้เตรียมชาเอาไว้

มือของนางค้างอยู่กลางอากาศจึงต้องดึงกลับไป ซีหลิงเหยาหวาพยายามรักษาความสง่าของตน รอยยิ้มของนางแข็งทื่อเล็กน้อย " เหยาหวาใจร้อนเอง เหยาหวาได้ยินตั้งแต่ครั้งอยู่ซีหลิงว่าชิงเฉินรักษาโรคตาของคุณชายใหญ่จนหายดี เหยาหวาชื่นชมอย่างมาก ครั้งนี้ที่มาตงหลิงเพื่อหวังว่าจะได้เห็นวิชาการรักษาของชิงเฉินด้วยตาของตนเอง ได้ยินมาว่าวันนี้ชิงเฉินจะใช้วิชาเปิดช่องท้องรักษาซุนฮูหยิน ฉะนั้นจึงรีบมาพร้อมคุณหนูซู หวังว่าจะได้เห็นวิชาการรักษาที่ยอดเยี่ยมของชิงเฉิน เหยาหวาและคุณหนูซูต่างก็มิใช่หมอแม้ว่าไปดูก็คงไม่เข้าใจ ฉะนั้นไม่มีทางที่จะเผยแพร่วิชาของชิงเฉินออกไปได้"

หากพูดดีๆ ไม่ได้ก็เข้าสู้เสีย ซีหลิงเหยาหวาไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ

น่าเสียดายที่คนที่นางเจอในวันนี้คือตงหลิงจิ่ว คนที่ไม่ยอมทั้งดีหรือร้าย

เสด็จอาเก้าพยายามพยักหน้า และตอบกลับว่า "ในเมื่อองค์หญิงเหยาหวาและคุณหนูซูชื่นชมหมอหญิงเฟิ่งมากเช่นนี้ เช่นนั้นก็ทำตามที่หมอหญิงเฟิ่งต้องการเสียดีกว่า ข้าคิดว่าจากการที่ทั้งสองชื่นชมหมอหญิงเฟิ่ง อย่างมากเช่นนี้ คงจะไม่ปฏิเสธนางหรอก"

ประโยคเดียวเท่านั้น เขาได้ส่งอำนาจการตัดสินให้กับเฟิ่งชิงเฉิน

มีเสด็จอาเก้าหนุนหลังอยู่ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่กลัวกระไรแล้ว เพราไม่ว่าจะเป็นเหยาหวาหรือซูหว่าน ต่างก็ไม่มีทางที่จะปล่อยนางไป นางจึงไม่จำเป็นต้องเอาใจทั้งสอง เสด็จอาเก้านั่งอยู่ที่นี่ หากว่านางไม่ใช้โอกาสนี้ให้ดี นางก็คงไม่ใช่เฟิ่งชิงเฉิน"

อยากเห็นทักษะทางการแพทย์ของตนน่ะหรือ? ดีมาก พวกเจ้าเอาเก้าอี้คนละตัวไปนั่งนอกบ้านไม้เถิด ให้พวกเจ้าดูให้พอใจ

เดิมเฟิ่งชิงเฉินสัญญาว่าจะให้เขาเข้าไปดูการผ่าตัดอย่างใกล้ชิด แต่กลับถูกเหยาหวาและซูหว่านทำลาย เขาตื่นเต้นกับวันนี้จนนอนไม่หลับมาทั้งคืน จนเมื่อใกล้รุ่งจึงได้หลับไป

แต่กลับตื่นสายในเช้าวันนี้ จึงทำให้มาที่จวนเฟิ่งช้าเกิดเวลา

"เสด็จอาเก้า องค์หญิงเหยาหวา ท่านซื่อจื่อ คุณหนูซู พวกท่านตามสบาย ชิงเฉินขอลา" เฟิ่งชิงเฉินเดินไปที่บ้านไม้พร้อมรอยยิ้ม

เพื่อความปลอดภัยของผู้คนในจวนเฟิ่ง นางได้ให้ทุกคนในจวนเฟิ่งหยุดงาน จวนเฟิ่งจึงไม่เหลือใครสักคน ท่านอ๋องและองค์หญิงเหล่านี้อยู่ที่นี่ และคิดอยากจะหาเรื่องคนจวนเฟิ่ง หวังชาติหน้าแล้วกัน

"เฟิ่งชิงเฉิน น้ำอยู่ไหน" คนอื่นๆ รู้สึกเขินอายที่จะถาม แต่ตี๋ตงหมิงไม่

แม้ว่านี่ยังเช้าอยู่ แต่แดดแรงอย่างมาก นั่งไปเพียงครู่เดียวเขาก็รู้สึกร้อนอย่างมาก อีกทั้งเขาได้ยินว่าองค์หญิงเหยาหวาและซูหว่านหาเรื่องเฟิ่งชิงเฉิน เขาเร่งขี่ม้ามุ่งมาที่จวน เขากระหายน้ำมานานแล้ว แต่ผ่านไปตั้งนานเฟิ่งชิงเฉินก็ยังไม่สั่งให้ใครเอาน้ำและขนมมาให้

ไม่มีขนมไม่เป็นไร เขาไม่หิวอยู่แล้ว แต่อย่างน้องต้องมีน้ำให้เขาหน่อย

ไม่คาดคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินหยุดที่ประตูบ้านไม้แล้วหันกลับมากล่าวว่า " ท่านซื่อจื่อ ข้าขออภัยอย่างมาก คนใช้ของจวนเฟิ่งกลับบ้านไปแล้ว ตอนนี้ชิงเฉินไม่ว่างจริงๆ หากต้องการสิ่งใด ท่านหยิบด้วยตนเองได้ตามสบาย คิดเสียว่าที่นี่คือจวนของท่าน"

หลังจากพูดจบ นางก็ปิดประตูไม้แล้วล็อกจากด้านใน

"ซือสิง เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเช็กดูว่ายาชาของแม่เจ้าใช้ได้ผลหรือยัง" เฟิ่งชิงเฉินพูดขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า

ก่อนหน้านี้ นางให้ซุนซื่อสิงพาแม่เขาเข้ามา ก็เพื่อให้ดื่มยาชาเสียก่อน และรอให้ยาชาได้ผล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ