ท่าทางอันรู้สึกถ่อมตนของเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ให้ความรู้สึกดีต่อหมอหลวงยิ่งนัก ประกอบกับบัดนี้ไม่มีผู้ใดอยากจะรุกรานนาง ดังนั้นจึงสามารถกล่าวถึงสถานการณ์ทั่วไปของหลี่เซี่ยงได้อย่างราบรื่น ไม่มีผู้ใดสร้างปัญหาหรือปกปิดข้อมูลจากนางเลย
ซุนเจิ้งเต้าพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาชื่นชมในเหตุผลของเฟิ่งชิงเฉินเสมอมา นางรู้ดีถึงของตัวตนของนาง รู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร
มองจากภายนอกแล้วเฟิ่งชิงเฉินอาจจะเข้ากับคนได้ง่าย แต่เมื่อไรที่เข้ากับนางได้ก็จะพบว่าแท้จริงแล้วนางเป็นคนฉลาดยิ่งนัก คนเช่นไรพูดอย่างไรต่อหน้านาง นางล้วนเข้าใจดี
นางมีความภาคภูมิใจเย่อหยิ่งและสูงส่ง แต่ไม่เคยป่าวประกาศตนเอง เมื่อไหร่ที่ต้องหยิ่งผยองนางก็จะหยิ่งผยองเสียจนไร้ขอบเขต แต่เมื่อไหร่ที่ควรก้มศีรษะนางก็จะก้มศีรษะลงได้ สายตาในการตัดสินใจถึงสถานการณ์ต่างๆ เช่นนี้ สามารถทำท่าทียืดได้งอได้ แม้แต่ชายหนุ่มบางคนยังทำไม่ได้
การให้ซุนซือสิงไปคารวะเฟิ่งชิงเฉินเป็นอาจารย์ ประการแรกเนื่องจากทักษะด้านการรักษาผู้คนของนาง แต่แท้จริงแล้วซุนเจิ้งเต้าหวังว่าซุนซือสิงจะเรียนรู้ทัศนคติของเฟิ่งชิงเฉินได้มากกว่า ในอนาคตไม่ว่าจะจัดการกับเรื่องใดก็ตามจะได้ราบรื่น ไม่ได้เป็นเพียงแค่หมอธรรมดา
เมื่อมีข้อมูลก่อนหน้านี้ของหลานจิ่วชิง ประกอบกับการวินิจฉัยของหมอหลวงเหล่านี้ เฟิ่งชิงเฉินจึงมั่นใจว่าหลี่เซี่ยงเพียงแค่แกล้งเจ็บ และแสร้งทำเป็นเหมือนจะตาย
คิ้วของเฟิ่งชิงเฉินเลิกขึ้นเล็กน้อย แต่ใบหน้าของนางยังคงตึงเครียด ท่าทางของนางเผยให้เห็นอารมณ์ของการเคร่งครัดมั่นใจและเป็นมืออาชีพ บรรยากาศเช่นนี้ทำให้หมอหลวงทุกคนดูพออกพอใจมากขึ้นกว่าเดิม
ต้นกล้าที่ดีต้นนี้จะประสบความสำเร็จแน่นอนในอนาคต แค่กๆๆ…… เหล่าหมอหลวงจะไม่ยอมรับว่าบัดนี้เฟิ่งชิงเฉินเป็นหมอที่มีชื่อเสียงเด็ดขาด
"ถ้าเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนร่างกายของคุณชายหลี่จะอยู่ในอาการที่เรียกว่าแสร้งตาย เฟิ่งชิงเฉินก้าวไปด้านหน้าเพื่อตรวจชีพจร จากนั้นสรุปข้อวินิจฉัยให้แก่หมอหลวงฟัง
"ใช่แล้ว พวกเราเองก็แน่ใจว่าคุณชายหลี่น่าจะอยู่ในสภาวะแสร้งตาย ในคราวนั้นพวกเราได้ยินมาว่าเจ้าสามารถช่วยคุณชายรองซูให้ฟื้นจากอาการเช่นนี้ได้ ดังนั้นจึงให้เจ้าเดินทางมาหวังว่าเจ้าจะมีวิธีช่วยให้คุณชายหลี่รอดชีวิตได้"
คนกล่าวเป็นหมอหลวงชราที่มีหนวดเคราสีขาว มองไปแล้วสถานะของเขาคงไม่ต่ำ ดังนั้นสิ่งที่เขากล่าวออกมาจึงเต็มไปด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นระบบระเบียบ
เฟิ่งชิงเฉินมองไปทางหลี่เซี่ยงแล้วกล่าวด้วยท่าทางอึดอัดใจว่า "สถานการณ์ของคุณชายรองซูและคุณชายหลี่ไม่เหมือนกัน ข้าคิดว่าวิธีเดียวกันนั้นคงจะใช้ไม่ได้ผล"
"อย่างนั้นหรือ หมายความว่าเช่นไร?" หมอชราไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นในห้องเก็บศพ รู้เพียงว่าเฟิ่งชิงเฉินสามารถช่วยชีวิตซูเหวินที่ตายแล้วขึ้นมาได้ และคิดว่าหลี่เซี่ยงก็คงจะเป็นเช่นกัน"
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตอบกลับ แต่โค้งคำนับไปที่หมอหลวง "ทุกท่าน ในห้องนี้ค่อนข้างร้อนและอึดอัด การสนทนาของพวกเราเสียงค่อนข้างดังเกรงว่าจะไม่ดีต่อสุขภาพของคุณชายหลี่ พวกเราออกไปสนทนากันข้างนอกเป็นอย่างไร?"
ล้อเล่นหรือ จะให้นางกล่าวถึงแผนการรักษาต่อหน้าหลี่เซี่ยงได้อย่างไร คาดว่าหลี่เซี่ยงผู้นั้นคงจะไม่แกล้งตาย แล้วรีบลุกขึ้นกระโดดจากเตียงน่ะสิ
"ชิงเฉินกล่าวได้มีเหตุมีผลนัก คุณชายหลี่ควรจะนอนพักผ่อนอย่างสงบ" ซุนเจิ้งเต้าไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินมีแผนการอะไรอยู่ แต่ก็พยายามฉวยโอกาสช่วยเหลือนาง
เดิมทีหมอหลวงที่ไม่พออกพอใจ เมื่อได้ยินซุนเจิ้งเต้ากล่าวดังนั้นก็ได้แต่หุบปากลง
เมื่อทุกคนเดินออกมาจากประตู ขันทีคนหนึ่งก็เข้ามารายงานว่า "ฝ่าบาทให้มาเชิญหมอหลวงทุกท่านออกไปหารือเกี่ยวกับเรื่องสภาพการเจ็บป่วยของเขา ฝ่าบาทเองก็ต้องการรับฟังว่าทุกท่านมีวิธีจัดการที่ดีเช่นไร"
บัดนี้องค์จักรพรรดิให้ความสำคัญกับหลี่เซี่ยงรองมาจากตัวเอง
จะทำอย่างไรได้เล่า เจ้าหลี่เซี่ยงยังไม่ได้สร้างสิ่งใดออกมาเลยกลับมีท่าทางเหมือนคนกำลังใกล้ตาย ฝ่าบาทจะพอพระทัยได้เช่นไร
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นรู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินเคยช่วยคุณชายรองซูที่ตกอยู่ในสภาวะแสร้งตายมาแล้ว ทำนองเดียวกันนางน่าจะมีวิธีการรักษาคุณชายหลี่
หมอหลวงทั้งหลายหลีกทางให้แก่เฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ได้ทำท่าทางเย่อหยิ่งผยอง นางเดินจากด้านหลังไปด้านหน้า "ทูลฝ่าบาท สถานการณ์ของคุณชายหลี่และคุณชายรองซูแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนั้นวิธีเดิมๆ ไม่อาจใช้ได้ผล"
"แตกต่างกันหรือ เหตุใดจึงว่าเช่นนั้น?" องค์จักรพรรดิดูให้ความสนใจมาก แต่เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจดี องค์จักรพรรดิกำลังแสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในตัวนางและอย่าทำให้เขาต้องผิดหวัง
น่าเสียดายเหลือเกินนางตั้งใจแล้วว่าจะต้องทำให้ฝ่าบาทผิดหวัง การที่ฝ่าบาทเชิญนางมาให้รักษาหลี่เซี่ยง นางจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร การที่หลี่เซี่ยงพบเข้ากับเฟิ่งชิงเฉินนับว่าโชคร้ายยิ่งนัก
หลี่เซี่ยง วันนี้เรามาดูกันเถิดว่าใครจะได้เปรียบในหมากกระดานนี้ เจ้าจะจัดการข้า หรือข้าจะทำลายล้างเจ้าเสียก่อน
เฟิ่งชิงเฉินเพียงคิดเรื่องราวเหล่านี้อยู่ในใจ โดยไม่ได้ปรากฏออกมาบนใบหน้า นางตอบกลับอย่างเคร่งขรึมว่า "ทูลฝ่าบาท ในวันนั้นเหตุผลที่คุณชายรองซูมีสภาวะแสร้งตาย นั่นเป็นเพราะว่ามีลูกปัดติดอยู่ในลำคอของเขาจนทำให้ไม่อาจหายใจได้ ชิงเฉินจึงได้ทุบไปที่หลังของเขา เมื่อลูกปัดนั้นหลุดออกมาจึงได้รอดชีวิต"
"แต่คุณชายหลี่แตกต่างกันไป เขาได้รับบาดเจ็บเพราะระเบิด จากที่ชิงเฉินวินิจฉัยโรคแล้ว พบว่าร่างกายของคุณชายหลี่แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด แต่การโจมตีของระเบิดนั้นทำให้เส้นเลือดของเขาถูกปิดกั้น" เหตุผลนี้แม้จะข้างเข้าใจยากแต่เฟิ่งชิงเฉินก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจัง
"เหตุใดจึงว่าเช่นนั้น?" องค์จักรพรรดิค่อนข้างสงสัยมากขึ้น แต่บัดนี้ไม่มีข้อสรุปที่ดีกว่านี้แล้วเขาจึงทำได้เพียงเลือกที่จะเชื่อเฟิ่งชิงเฉิน
"ฝ่าบาทเพคะ เมื่อกลางวันชิงเฉินอยู่ในเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้นด้วย แรงของระเบิดเป็นเพียงชั่ววินาที ชิงเฉินกำลังสงสัยว่าชั่ววินาทีนั้นแรงของระเบิดได้โจมตีทำให้เส้นเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งของคุณชายหลี่ถูกอุดตัน จึงทำให้คุณชายหลี่เกิดสภาวะแสร้งตาย"
"เมื่อตอนกลางวันมีชาวบ้านไม่น้อยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเป็นลมล้มไป ชิงเฉินสงสัยว่าสถานการณ์ของคุณชายหลี่จะคล้ายคลึงกับชาวบ้านเหล่านั้น เพียงแต่คุณชายหลี่มีอาการที่หนักกว่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...