"ชิงเฉิน หากเจ้ามีเวลาละก็ อย่าลืมมาเที่ยวเล่นที่จวนตระกูลซุนเล่า ข้าจักทำเม็ดบัวหวานเย็นให้เจ้าได้กิน" เมื่อซุนฮูหยินเห็นอาจารย์กับลูกศิษย์พูดคุยกันได้พอสมควรแล้ว จึงเปิดหน้าต่างรถม้าออกมา เพื่อพูดเชิญชวนนางด้วยท่าทีกระตือรือร้น
ซุนฮูหยินพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่อิ่มเอม แม้ว่าหลายวันมานี้ ร่างกายของนางจักดูซูบผอมลงไปบ้าง ทว่า สีหน้ากลับดูดีขึ้นยิ่งนัก
"เจ้าค่ะ ชิงเฉินจักไปอย่างแน่นอน" นางจักต้องไปเยือนจวนตระกูลซุนแน่ ไม่ว่าอย่างไร นางก็จักต้องทำให้ซุนเจิ้งเต้าไปที่ตระกูลเซี่ยให้ได้
นางเชื่อในความอดทนของคนตระกูลเซี่ย อีกทั้ง ซุนเจิ้งเต้าจักสามารถรักษาเด็กในครรภ์ของเซี่ยกุ้ยเฟยไว้ได้อย่างแน่นอน ด้วยความสัมพันธ์ของนางและซุนซือสิงแล้ว ฮองเฮาย่อมไม่มีทางรู้ได้ เซี่ยกุ้ยเฟยช่างเลือกคนได้ดีนัก
สตรี โดยเฉพาะสตรีที่อยู่ภายในวังหลังแล้ว เพียงได้ยุ่งเรื่องของตนเองหน่อย ก็ย่อมไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของผู้อื่นแล้วเช่นกัน
หลังจากที่ส่งซุนฮูหยินกลับไปแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินกำลังคิดที่จะกลับไปนอนพักเอาแรงเสียหน่อย สำหรับหมอนั้น การนอนตอนกลางวันสลับกับตอนกลางคืนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ปกติเป็นอย่างมาก หากมีช่วงเวลาว่างสักนิดเดียว นางจักพยายามหาเวลานอนพักในทันที หากว่าวิธีนอนตอนกลางวันมากไปแล้วกลางคืนจักนอนไม่หลับนั้น วิธีเช่นนี้ไม่อาจใช้ได้กับเฟิ่งชิงเฉิน
ทว่า ยามที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังหันกายกลับเข้าไปในจวนนั้น พลันได้ยินเสียงเกือกม้าดังตามหลังมาในทันที
"หืม มีม้าเร็วในกลางวันแสก ๆ เช่นนี้ มิใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกหรือ? คงมิใช่ว่าหลานจิ่วชิงถูกจับตัวไปหรอกกระมัง?"
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก นางจึงได้แต่ยืนสังเกตการณ์อยู่หน้าประตูจวนเฟิ่ง ทว่า นางมิคิดเลยว่ากองกำลังทหารจักมาหยุดอยู่ตรงหน้าของนางแทน
"คุณหนูเฟิ่งขอรับ" หัวหน้าองครักษ์ระดับห้าพลันพลิกตัวลงมาจากหลังม้า พร้อมทั้งคุกเข่าข้างหนึ่ง เพื่อทำความเคารพนาง
มันคือเสน่ห์ของอำนาจ องครักษ์ระดับห้าเห็นบุตรีของท่านแม่ทัพเฟิ่งเช่นนี้ แท้จริงแล้วมิจำเป็นต้องคุกเข่าเคารพนางก็ได้ ทว่า เมื่อเป็นคุณหนูจวนผู้ภักดี ก็มิจำเป็นต้องทำเช่นนี้เหมือนกัน
เฟิ่งชินเฉินคิดว่า ที่องครักษ์ทำความเคารพนางเช่นนี้ ย่อมต้องเป็นเพราะเสด็จอาเก้า องค์รัชทายาทหรือหวังจิ่นหลิงเป็นแน่ เมื่อเห็นพวกเขาคุกเข่าเคารพนางเช่นนั้น เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่ทำใจ
"ลุกขึ้นเถิด มิรู้ว่าใต้เท้าท่านนี้มีนามว่าอะไรหรือ"
"ขอบพระทัยเฟิ่งซิ่วขอรับ กระหม่อมมีนามว่าหวังเย้ขอรับ" องครักษ์พลันโค้งคำนับสองมือด้วยความหนักแน่นในทันที ดูจากท่าทางแล้ว เขามิใช่คนที่เติบโตในเมืองหลวง จำพวกนายทหารที่พึ่งพาอำนาจของตระกูลตนเองเข้ามาทำงานในกองทัพอย่างแน่นอนเลย
"ใต้เท้าหวัง เป็นคนของตระกูลหวังงั้นหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจได้ในทันที ว่าเหตุเขาถึงได้ทำความเคารพนางเช่นนี้ ที่แท้ ก็เห็นแก่หน้าของหวังจิ่นหลิง
สีหน้าของหวังเย้พลันแสดงความตื่นเต้นออกมา โดยไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้ พร้อมทั้งพยักหน้าออกมาด้วยความจริงใจว่า "กระหม่อมเป็นคนของตระกูลหวังสายรองขอรับ" บางที ชื่อของเขาอาจถูกคุณชายใหญ่รู้จักเข้า นี่ถือเป็นโอกาสที่ดียิ่งนัก หวังเย้พลันรู้สึกว่าหัวใจของตนเองพลันสั่นรัวขึ้นมาในทันที
เฟิ่งชิงเฉินเพียงพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมแย้มยิ้มกล่าวว่า "คุณชายใหญ่มักจะเล่าให้ข้าฟังว่า บุรุษในตระกูลหวังมักจะเก่งกาจทั้งบุ๊นและบู๊ เห็นคุณชายใหญ่ทั้งเฉลียวฉลาดและอ่อนโยนถึงเพียงนั้น ข้าจึงคิดว่าคุณชายใหญ่โกหกมาโดยตลอด ในวันนี้ ข้าได้มาเห็นอีกด้านของบุรุษตระกูลหวังแล้ว คราวหน้าข้าคงต้องไปบอกกับคุณชายใหญ่แล้วละ ว่าข้าเชื่อคำพูดของเขาแล้ว" หวังเย้ให้เกียรตินาง เพราะเห็นแก่หน้าของหวังจิ่นหลิง นางย่อมต้องตอบแทนเขากลับบ้าง
หวังเย้พยายามเป็นอย่างมาก ที่จะสะกดกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้ ถึงแม้ว่า ในยามนี้ น้ำเสียงของเขาจะสั่นเครือมากก็ตาม"กระหม่อม ขอบ ขอบพระทัยเฟิ่งซิ่วขอรับ"
คนในตระกูลหวังมีความสามารถมากมายนัก หากเขาได้เข้าไปอยู่ในสายตาของคุณชายใหญ่ละก็ หน้าที่การงานของเขา ย่อมต้องเติบโตไปไกลอย่างแน่นอน การมาในครั้งนี้ ถือว่าไม่เสียเปล่าเลยจริง ๆ นัยน์ตาที่ดำขลับของหวังเย้พลันเปล่งประกายออกมา พร้อมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย เขาตื่นเต้นเสียจนไม่รู้จะทำตัวเช่นไรดี
เฟิ่งชิงเฉินเพียงยิ้มออกมา เมื่ออารมณ์ของหวังเย้กลับมาสงบดังเดิมแล้ว ก็พลันกวาดตามององครักษ์ที่มาถึงในทันที "ใต้เท้าหวังกล่าวหนักไปแล้ว มิรู้ว่า ใต้เห้าหวังมาหาชิงเฉินมีเรื่องอันใดงั้นหรือ?"
แม้ว่าองค์หญิงอันผิงจักมาระบายอารมณ์ลงที่นางนั้น นางคงได้แต่ต้องอดทนกระมัง ผู้ใดให้นางเป็นบุตรีขององค์จักรพรรดิกัน นางเป็นห่วงอาการขององค์หญิงอันผิงจักดีกว่า "ใต้เท้าหวัง อาการของคุณซูหว่านเป็นเช่นไรบ้างหรือ? ร้ายแรงมากหรือไม่?"
หากมิได้มีอาการรุนแรงมาก คงไม่มาหานางหรอกกระมัง หากแต่ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสงสัยว่า อาการป่วยของซูหว่าน คงมิได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้นหรอกกระมัง
หากพูดถึงฝีมือของซุนเจิ้งเต้าแล้ว การรักษาอาการปวดท้องหาใช่เรื่องที่เป็นปัญหาต่อฝีมือของเขาไม่ นางรู้ดีว่าฝีมือฝังเข็มของซุนเจิ้งเต้าล้ำเลิศเพียงใด เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็พลันรับรู้ได้ว่า ซุนเจิ้งเต้าตั้งใจอย่างแน่นอน ตั้งใจพูดถึงการรักษาเช่นนั้นออกมา ทั้งยังเสนอว่ามีแต่นางที่ทำการรักษาได้
ซุนเจิ้งเต้า ท่านหมอหลวงซุน ท่านช่างเป็นคนที่รักความสนุกสนานเสียจริง มุมปากของเฟิ่งชิงเฉินพลันโค้งขึ้นมาในทันที หากแต่ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ทำได้เพียงก้มหน้าลง แสร้งทำเป็นไม่เห็นสิ่งใด
นับว่าเป็นความโชคดีที่มีพวกเดียวเอาไว้ข้างกายเช่นนี้!
"อาการเริ่มแรกของคุณหนูซูหว่านเริ่มขึ้น เมื่อวานตอนกลางดึกขอรับ คุณหนูซูหว่านจึงเข้าใจว่า เป็นโรคเก่าของนางที่กำเริบขึ้น จึงได้สั่งให้สาวใช้ไปต้มยามาดื่ม ทว่า มิรู้เป็นเพราะเหตุใด มันกลับมิได้ผลดังเดิม ทั้งยังทวีคูณอาการปวดท้องขึ้นมาแทน จึงได้เป็นเชิญหมอหลวงมาดูอาการกลางดึก หากแต่ เมื่อวาน หมอหลวงทั้งหลาย ล้วนแต่อยู่ที่ตำหนักชิงเหยียนจนหมด จนกระทั่งถึงยามฟ้าสาง หมอหลวงซุนจึงได้รีบเดินมาตรวจดูอาการให้ขอรับ" กล่าวอักนัยหนึ่งก็คือ ซูหว่านเป็นเหยื่อคนหนึ่งในอาการแกล้งป่วยของหลีเซี่ยง
"เช่นนั้นหรือ" เฟิ่งชิงเฉินพลันพยักหน้าลง ราวกับทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ หวังเย้พลันมองมาที่นาง หากเป็นแค่อาการปวดท้อง อย่าไง มีหมอหลวงซุนอยู่เช่นนี้ ซูหว่านมิอาจตายได้อย่างแน่นอน
จู่ ๆ เฟิ่งชิงเฉินพลันพบว่าจรรยาบรรณในการแพทย์ของนางลดลงอีกแล้ว นางไม่เคยคิดเลยว่า ตนเองจะเอาบุณคุณความแค้นให้มามีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของนาง ทว่า นางก็ยังเอาอารมณ์ส่วนตัวมาลงที่งานของตนจนได้
หากแต่ นางชอบยิ่งนัก นางหาใช่แม่พระไม่ ซูหว่านวางแผนทำร้ายนางมาหลายครั้งหลายคราแล้ว หานางมาทำตัวเห็นอกเห็นใจซูหว่านละก็ นางคงโง่จริง ๆ ที่โดนคนตบหน้าที่แก้มข้างซ้าย ตนเองก็ยังยื่นแก้มข้างขวาไปให้เขาตบอีก
แต่นางมิรู้ว่า จรรยาบรรณในการแพทย์ของนางจะมีผลกระทบต่อกระเป๋าแพทย์อัจฉริยะหรือไม่ หากนางต้องยุ่งวุ่นวายทั้งชีวิตเช่นนี้ แล้วตนเองเพียงสะสมจรรยาบรรณทางแพทย์ได้ไม่กี่คะแนน แล้วมาถูกหักคะแนนจนหมดเช่นนี้ มันน่าเสียดายยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...