เฟิ่งชิงเฉินรู้เพียงว่าหอจู๋เฟิงเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดในราชวงศ์ตงหลิง ในเมื่อจะเชิญใครมารับประทานอาหารสักทีก็ควรจะเลือกสถานที่ซึ่งดีที่สุด แต่กลับไม่รู้ว่าการจะเข้าไปในประตูของหอจู๋เฟิงช่างยากนัก
การที่จะเข้าไปในหอจู๋เฟิงจะต้องต่อกลอนจากคนก่อนหน้า
"ก็แค่กินข้าวไม่ใช่หรือไร เหตุใดจึงวุ่นวายเช่นนี้ ช่างลำบากยิ่งนัก!" เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ที่ปากประตู นางรู้สึกลำบากใจเหลือเกิน "เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ หากข้ารู้ละก็ให้ตายข้าก็ไม่มาที่หอจู๋เฟิงแห่งนี้หรอก!"
บ่าวรับใช้ได้แต่ก้มหน้าก้มตาลง แล้วกล่าวด้วยท่าทางน่าสงสารว่า "ทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดีเจ้าค่ะ"
เช่นเดียวกับงานกวี หากต้องการเข้าไปในงานกวีนั้นก็จะต้องใช้หัวข้อดอกไม้มาประพันธ์กวีหนึ่งบทเพื่อเข้าไปด้านใน หากต้องการเดินทางเข้าไปในหอจู๋เฟิงแห่งนี้ก็จะต้องต่อกลอนเหมือนกัน
หอจู๋เฟิงเป็นสถานที่ซึ่งทุกคนใต้หล้าล้วนให้ความนิยม คนที่เดินทางมารับประทานอาหารที่แห่งนี้ โดยมากมักจะมาด้วยเหตุนี้
"เปลี่ยนสถานที่ได้หรือไม่?" เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าตนเองมีความสามารถเช่นไร ให้ต่อกลอนหรือ นี่ไม่ใช่เรื่องยากธรรมดา
นางสามารถท่องกวีได้หากพยายาม แต่ให้ต่อกลอน อย่าว่าแต่นางจะไม่อาจต่อมันได้ ต่อให้ทำได้ก็อาจจะใช้ไม่ได้ ต้องดูว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขียนกลอนอะไรไว้
บ่าวรับใช้ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม "หากว่าเปลี่ยนสถานที่ล่ะก็ ทุกคนคงจะรู้ว่าคุณหนูท่านไม่สามารถต่อกลอนได้" หลังจากนั้นก็จะมีเรื่องติฉินนินทามากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ที่เดินทางมายังหอจู๋เฟิงและต้องต่อกลอน พวกเขารู้สึกสนใจในเจ้าสิ่งนี้ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่รู้เรื่องเลย "หอจู๋เฟิงเป็นของผู้ใดกัน เหตุใดจึงตั้งกฎบ้าบอเช่นนี้ขึ้น!"
"เอ่อ......" ศีรษะของบ่าวรับใช้แทบจะแทรกเข้าไปในดินเสียแล้ว "หอจู๋เฟิงเป็นกิจการของตระกูลหวัง คุณชายใหญ่เป็นผู้ก่อสร้างมากับมือ และกฎเกณฑ์นี้คุณชายใหญ่เป็นผู้ตั้งขึ้นมาเองเจ้าค่ะ แต่ละคนล้วนภาคภูมิใจที่เขาได้เข้าไปรับประทานอาหารในหอจู๋เฟิงแห่งนี้ อีกทั้งมีบัณฑิตจำนวนมากมีชื่อเสียงเนื่องด้วยต่อกลอน ณ ที่แห่งนี้"
ดังนั้นการที่คนในตระกูลหวังจะจองที่นั่งในหอจู๋เฟิงจึงไม่ใช่เรื่องยาก บ่าวรับใช้ครุ่นคิดแล้วกล่าวเสริมขึ้นอีกหนึ่งประโยคว่า "คุณหนูเจ้าคะ พ่อบ้านหวังจองห้องเอาไว้ที่ชั้นสองให้แก่คุณหนู ที่หน้าประตูนั้นยังมีกลอนอีกหนึ่งคู่ หากสามารถจับคู่ได้ จึงจะได้เข้าไปนั่งด้านใน ไม่เช่นนั้นคงจะนั่งได้เพียงด้านล่าง"
พวกนางพบว่า เรื่องราวต่างๆ มากมายแม้แต่เด็กวัยสามขวบในราชวงศ์ตงหลิงก็ยังรู้ แต่คุณหนูของนางกลับไม่รู้ ด้วยเหตุนี้เองพวกนางจึงอธิบายอย่างว่าง่าย
สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินยิ่งดูดุดันขึ้นเรื่อยๆ นางจ้องมองไปที่ป้ายหอจู๋เฟิง ดวงตานั้นแทบจะแผดเผาเป็นประกายไฟ แล้วกัดฟันกล่าวว่า "หากว่าข้าแต่งกลอนนั้นได้ ก็จะสามารถทิ้งกลอนไว้ได้สองท่อนเช่นกันใช่หรือไม่?"
"เจ้าค่ะคุณหนู" บ่าวรับใช้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกนางพบว่าในที่สุดคุณหนูก็เข้าใจสิ่งนี้แล้ว
"มีใครได้รับข้อยกเว้นหรือไม่?" หากเป็นกิจการของตระกูลหวัง คาดว่าหวังจิ่นหลิงน่าจะเป็นผู้ที่ได้รับยกเว้น เฟิ่งชิงเฉินคิดอยู่ในใจ
"ไม่มีเจ้าค่ะ ต่อให้คุณชายใหญ่เดินทางมาเองก็จะต้องปฏิบัติตามกฎของหอจู๋เฟิงแห่งนี้ และนี่ก็คือเหตุผลที่ผู้คนพากัน แย่งเข้ามาหอจู๋เฟิงนั่นเอง"
"อ๋อ อย่างงั้นหรือ แล้วหากว่าคนก่อนหน้าทิ้งกลอนซึ่งอยากเอาไว้มากๆ จะทำอย่างไรเล่า?" ไหนว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่แน่นอนเสมอไป หากมันยากมากแล้วนางจะทำอย่างไรเล่า
"คุณหนูวางใจเถิด ท่านซูเหยียนคือผู้ดูแลหอจู๋เฟิงแห่งนี้ หากว่ากลอนที่ยากเกินไปจนไม่สามารถต่อได้ ท่านซูเหยียนก็จะออกกลอนมาอันหนึ่ง ท่านซูเหยียนคือหัวหน้าอาจารย์ใหญ่ทั้งแปดแห่งจิ่วโจว" สาวรับใช้กล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงอัน ภาคภูมิใจ ประโยคของนางเมื่อครูช่างเชิดชูยกย่องท่านซูเหยียนยิ่งนัก
"บุคคลเช่นนี้เหตุใดจึงมาเป็นพ่อบ้านให้แก่หอจู๋เฟิงเล่า?" โดยมากแล้วนักปราชญ์มักจะค่อนข้างเย่อหยิ่ง และไม่ยอมก้มหลังให้ใครเพื่อแลกมาด้วยข้าวห้ากระสอบไม่ใช่หรือ? หรือหวังจิ่นหลิงจะให้ข้าวแก่เขาถึงสิบกระสอบ ด้วยเหตุนี้อีกฝ่ายจึงยอมก้มหลังให้?
ดูเหมือนบ่าวรับใช้จะรู้ตั้งแต่แรกว่าเฟิ่งชิงเฉินจะถามเช่นนี้ นางจึงเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "คุณหนูเจ้าคะ เหตุผลที่ท่านซูเหยียนอยู่ที่หอเหวินเฟิงนี้ เป็นเพราะท่านซูเหยียนแข่งกลอนกับคุณชายใหญ่ และคุณชายใหญ่ชนะเขา ท่านซูเหยียนเป็นผู้ที่กล้าได้กล้าเสีย ในเมื่อเขาพ่ายแพ้ก็ต้องยอมรับข้อเสนอของคุณชายใหญ่โดยมาเป็นพ่อบ้านดูแลกิจการที่หอจู๋เฟิงแห่งนี้ แน่นอนว่าท่านซูเหยียนไม่ได้ดูแลเรื่องของการค้าขายในหอจู๋เฟิง เขาดูแลรับผิดชอบเรื่องของความสง่างามเช่นนี้"
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าแล้วตอบว่า "หอจู๋เฟิงของคุณชายใหญ่ไม่เลวเลย แม้แต่เสี่ยวเอ้อยังดูท่าทางสูงส่งเช่นนี้ มิน่าเล่าแต่ละคนจึงอยากเดินทางมา"
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร!" สตรีชุดสีชมพูเงยหน้าขึ้นโดยท่าทางหยิ่งผยอง
"คุณหนูขอรับ ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูคือใครและไม่อยากรู้ หากกล่าวว่าท่านคือใครออกมาเกรงว่าจะทำให้ขายหน้าเปล่าๆ คุณหนูขอรับ พวกเราเปิดร้านเพื่อทำการค้า บัดนี้เชิญคุณหนูขยับไปด้านข้างก่อน เพราะมีแขกอีกคนมาแล้ว" เสี่ยวเอ้อผู้นั้นไม่สนใจและไม่เห็นสตรีนางนี้ในสายตา เพราะแขกเช่นนี้เขาเห็นมามากแล้ว
ดูเหมือนสตรีชุดสีชมพูต้องการจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่ชายหนุ่มซึ่งสวมชุดสีน้ำเงินอยู่ข้างกายนางเข้ามารั้งนางเอาไว้แล้วกล่าวว่า "จิ้งเยวี่ย พอได้แล้ว เจ้าอย่าได้ทำเรื่องราวให้วุ่นวายไปกว่านี้"
"แต่ว่าท่านพี่ ต้องการจะเข้าพบท่านซูเหยียนมิใช่หรือ หากว่าพวกเราไม่อาจเข้าไปได้ตั้งแต่หน้าประตูใหญ่ของหอจู๋เฟิง แล้วจะพบกับท่านซูเหยียนได้อย่างไร?" สตรีชุดสีชมพูเบ้ปากขึ้น ใบหน้าของนางดูห่อเหี่ยวใจ
"ด้วยความสามารถของข้านี้ หากไม่อาจเข้าไปในหอจู๋เฟิงได้แล้วท่านซูเหยียนจะยอมมาพบข้าหรือ?" ชายหนุ่มทำท่าทางห่อเหี่ยว แล้วกล่าวเยาะเย้ยตนเอง
"หาใช่เช่นนั้นไม่ เห็นได้ชัดว่าหอจู๋เฟิงของพวกเขาตั้งใจรังแกเรา กลอนอะไรพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะต่อได้เสียทุกอย่าง พวกเขาตั้งใจให้เราต่อกลอนไม่ได้!" สตรีชุดสีชมพูดูเหมือนไม่พอใจนัก แล้วเหลือบไปมองดูเสี่ยวเอ้อด้วยท่าทางเกลียดชัง
"ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกนางจะสามารถต่อมันได้สำเร็จ ข้าจะคอยดูพวกนางถูกคนของหอจู๋เฟิงขับไล่ไป!" จิ้งเยวี่ยยกมือขึ้นกอดอก แล้วทำท่าทางจ้องเขม็งไปที่เฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าที่นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ในใจนางรู้สึกอึดอัดคับข้องเล็กน้อย เกรงว่าในวันนี้กลอนที่หอจู๋เฟิงนำมาจะไม่ธรรมดา ไม่รู้ว่านางจะสามารถก้าวเข้าไปที่ประตูใหญ่ของหอจู๋เฟิงได้หรือไม่
นางจะเลี้ยงอาหารหวังจิ่นหลิง แต่ทว่าตัวของนางไม่อาจเข้าไปได้แม้แต่ที่ประตู เมื่อถึงเวลาแล้วไม่รู้ว่าหวังจิ่นหลิงจะหัวเราะเยาะนางเช่นไร......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...