ผู้เฝ้าประตูเดินอยู่ด้านหน้าด้วยอาการเหนื่อยหอบ เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็หอบเช่นกัน มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินที่ใบหน้าแดงเรื่อเล็กน้อยเท่านั้น
ทันทีที่นางเดินเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจได้ว่าตระกูลเซี่ยต้องการทำให้นางอับอายขายหน้า
คนที่มิเคยกินหมู จะมิเคยเห็นหมูเชียวหรือ?
จวนเช่นนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่าหนึ่งหมื่นหมู่ ซึ่งมีรถม้าอยู่ภายในจวนเป็นแน่ มิฉะนั้น คนที่อยู่ชั้นในสุดวันๆ คงก็มิต้องทำงานอะไร เพียงเดินออกจากจวนก็ปาไปครึ่งวันแล้ว
คนรับใช้ของตระกูลเซี่ยคงคิดว่านางมิสามารถเดินได้มาก เช่นเดียวกับสตรีของตระกูลใหญ่ที่เท้าจะต้องถูกมัดให้เล็กเรียว จากนั้นก็รอให้นางร้องอ้อนวอนด้วยความเหนื่อย แต่คงคาดมิถึงว่าเป็นเพราะนางเสียมารดาไปตั้งแต่เล็ก จึงมิได้ผูกเท้าให้เล็กเรียว
เฟิ่งชิงเฉินมีเท้าที่เป็นธรรมชาติ ประกอบกับการฝึกฝนในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มิต้องกล่าวถึงการเดินทางเป็นเวลาสี่สิบห้าสอบนาที แม้นจะเดินเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงนางก็ยังสามารถเดินได้โดยหน้ามิแดงและหายใจสะดวก
ล้อเล่นหรือ ความแข็งแรงทางกายภาพของศัลยแพทย์ต้องยอดเยี่ยมอยู่แล้ว มิฉะนั้นพวกเขาจะมิตายหรือหากทำการผ่าตัดใหญ่เป็นเวลาสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมง
เมื่อถึงตอนนั้น การเป็นลมบนโต๊ะผ่าตัดมิใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นการสูญเสียถึงชีวิต!
อีกฝ่ายคิดผิดไปแล้วละ
ฟู่......
"คุณหนูเฟิ่ง ไหวไหมขอรับ?" เจ้าหน้าที่ทั้งสองเหนื่อยหอบจนใช้มือโบกตามลม
พวกเขาทั้งเหนื่อยและกระหายน้ำ
จวนเซี่ยนี้ทำเกินไปแล้วจริงๆ
"ข้ามิเป็นไร หากเจ้าทั้งสองเหนื่อยก็พักก่อนเถิด หากมีเขานำทางข้าคงมิหลง" เฟิ่งชิงเฉินตอบเบาๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองชื่นชมนางมาก ส่วนคนเฝ้าประตูที่อยู่ด้านหน้าเหนื่อยเสียจนกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
นางเป็นสตรีหรือ? เป็นสตรีจริงหรือ?
นางสามารถเดินได้มากกว่าชายทั้งสามอีกหรือ?
ฟู่...... ตลอดทางมานี้เขาเดินอย่างรวดเร็ว บัดนี้เขามิมีกำลังพอที่จะดุด่าใคร โชคดีที่เขากำลังจะไปถึงเรือนรองแล้ว
หลังจากเดินไปอีกประมาณหนึ่งเล่มธูป ผู้เฝ้าประตูและเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็เหงื่อออกมากท่วมตัว ช่างทรมานยิ่งนัก
ทันใดนั้นเอง น้ำเสียงอันโกรธของเซี่ยซานก็ดังออกมาจากลานข้างใน
"ส่งคนไปดูสิ เหตุใดเฟิ่งชิงเฉินยังมามิถึงอีก? ช่างทะเยอทะยานจริง นางไปกินดีหมีดีเสือมาหรือไร? กล้าละเลยตระกูลเซี่ยของข้าได้อย่างไร! นางคิดว่าชีวิตยืนยาวไปหรือ? ส่งคนไปดูนางว่าตายแล้วหรือยัง?"
เมื่อคนเฝ้าประตูได้ยินดังนั้น เขาก็หยุดอยู่กับที่ เท้าของเขาสั่นหน้าซีดจากความเหนื่อยล้า มองไปช่างซีดเซียว
เฟิ่งชิงเฉินมิได้แสดงความเห็นอกเห็นใจใดออกมา นางเดินผ่านคนเฝ้าประตูไปแล้วกล่าวว่า "มิจำเป็น ข้าอยู่นี่แล้ว"
เฟิ่งชิงเฉินผลักประตูเข้าไปและเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา
ดวงตาของนางกวาดมองไปมองสถานการณ์ในห้องนั้น รอยยิ้มเยาะเย้ยก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
"ชิงเฉินคารวะใต้เท้าเว่ยและคุณชายทั้งสอง" นางกล่าว แต่ร่างกายของนางมิได้ขยับเขยื้อนเลย มิได้แสดงท่าทีของความเคารพแม้แต่น้อย
ส่วนคนอื่นๆ เฟิ่งชิงเฉินเพิกเฉยต่อพวกเขาทั้งสิ้น
"เฟิ่งชิงเฉิน ช่างลีลายิ่งนัก พวกเรารอเจ้ามาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว" เห็นได้ว่าคุณชายเซี่ยซานอารมณ์มิดีและมีความอดทนต่ำ เขาตะโกนดุด่าออกมาทันที
คราวนี้เฟิ่งชิงเฉินมิได้ปล่อยไปเช่นนั้น แต่นางกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า "คุณชายสาม ดูเหมือนจะมองชิงเฉินผิดไปหรือไม่? มิใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินลีลาชักช้า แต่จวนเซี่ยของเจ้าใหญ่โตเสียเกินไป นับจากประตูเข้ามายังที่นี่ใช้เวลาอยู่ถึงสี่ห้าสิบนาที หากมิใช่เพราะมารดาของชิงเฉินจากไปแต่เล็ก ดังนั้นชิงเฉินจึงมิได้ผูกเท้าให้เล็ก ในวันนี้อย่าว่าแต่เดินทางมาช่วยคุณชายสามแบ่งเบาภาระเลย เกรงว่าหากสามารถมีชีวิตรอดออกไปจากจวนเซี่ยได้ ชิงเฉินก็คงคิดว่าเป็นเรื่องตลกแล้ว"
"เกิดอะไรขึ้น?" เซี่ยซานรู้สึกหงุดหงิดทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้และหันไปถามคนที่อยู่ข้างๆ
"ข้าน้อยจะไปสอบถามดูเดี๋ยวนี้ขอรับ" บ่าวข้างกายเฉลียวฉลาด เขารีบวิ่งออกไปทันที
"มิจำเป็น หากปราศจากคำสั่งของนาย ข้าคิดว่าบ่าวเหล่านี้คงมิกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวาย ในเมื่อตั้งใจทำแล้ว เหตุใดจึงได้ทำท่าทางเป็นมิรู้เรื่องราว น่าสะเอียนใจยิ่งนัก"
เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเรื่องนี้มิเกี่ยวข้องกับเซี่ยซาน แต่นางก็ดูมีความสุขที่ได้โยนความผิดนี้ให้กับเซี่ยซาน จะทำไมเล่า
"คนรับใช้ของตระกูลเซี่ยนั้นไร้มารยาทนัก" หวังชีเห็นด้วย เขามิได้ช่วยเฟิ่งชิงเฉิน เขาแค่อยากจะเหยียบเซี่ยซานซ้ำเท่านั้น
เซี่ยซานโกรธมาก เขากำลังจะอ้าปากด่าทอกลับ แต่ข้างหลังเขาปรากฏชายวัยกลางคนในชุดสีน้ำตาลเดินออกมาอย่างรวดเร็วเขายกมือคำนับไปทางเฟิ่งชิงเฉินอย่างมิได้ใส่ใจแล้วกล่าวเบาๆ ว่า
"คุณหนูเฟิ่งต้องมารับความอับอายเช่นนี้ เป็นเพราะการละเลยในตระกูลเซี่ยของข้า หลังจากนี้ตระกูลเซี่ยจะส่งมอบชิ้นโตของไปให้คุณหนูเฟิ่งเพื่อรับขวัญ"
เฟิ่งชิงเฉินยังคงนิ่งเฉยและไม่เอาความดูถูกของทุกคนมาใส่ใจ
นางมิแปลกใจกับท่าทางเช่นนี้ของพวกเขา
แววตาที่โหดร้ายกว่านี้นางก็ได้เห็นมาแล้ว แต่ท้ายที่สุดนางก็ยังมีชีวิตอยู่อย่างสุขดีมิใช่หรือ
เมื่อยืนอยู่ในหุบเหว ข้าเฟิ่งชิงเฉินมิต้องการให้คนอื่นมองมาที่ข้า ข้าแค่ต้องเงยหน้าขึ้นมองตัวเองก็พอแล้ว
เมื่อบินขึ้นมาได้ ข้าเฟิ่งชิงเฉินก็มิต้องการคำชมเชยและการเยินยอของผู้อื่น ข้าแค่ต้องเข้าใจตัวเองเป็นพอ
หึ......
"เจ้า เจ้าคนสร้างปัญหา!" ใต้เท้าเว่ยโกรธเฟิ่งชิงเฉินมากจนคิ้วทั้งสองของเขาบิดเป็นเกลียวเหมือนหนอนผีเสื้อ
กล้าดีอย่างไรให้เขาขายหน้าต่อหน้าคุณชายทั้งสองตระกูลนี้ได้ เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วหรือ?
"สร้างปัญหาหรือ? ใต้เท้า ข้าเฟิ่งชิงเฉินมิได้ไปตีกลองร้องทุกข์ มิได้เข้าไปหยุดรถม้าเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียน ข้าสร้างปัญหาที่ไหน กัน? หากจำมิผิด ข้ามิต้องการเดินทางมาที่จวนเซี่ยเสียด้วยซ้ำ คำว่าสร้างปัญหานี้ทำให้ข้าปวดใจยิ่งนัก"
คำกล่าวของเฟิ่งชิงเฉินเป็นพิษอย่างยิ่ง
จริงอยู่ว่าคนที่ตีกลองร้องทุกข์และร้องเรียนคือคนที่สร้างปัญหา แต่เป็นเพราะขุนนางบีบบังคับชาวบ้านให้ทำเช่นนั้น
"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ากล้าหาญมาก ทหาร...…" ใต้เท้าเว่ยโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว เขาโบกมือขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ เซี่ยซานก็ก้าวไปข้างหน้าทันที "ใต้เท้าเว่ย อย่าได้ใจร้อนไป ถึงอย่างไรเฟิ่งชิงเฉินก็เป็นบุตรสาวของนายพลเฟิ่ง และเป็นความจริงที่จวนเซี่ยของเรามิได้ให้การต้อนรับนางอย่างที่ควร"
จวนเซี่ยมิกลัวจะทำให้ใต้เท้าเว่ยขุ่นเคืองใจ เขาเพียงแต่คิดว่ามันมิจำเป็น
นอกจากนี้ หากเรื่องในวันนี้วุ่นวายขึ้นละก็ ทั้งสองฝ่ายคงจะต้องลงจากตำแหน่ง
หากเบื้องบนรู้ว่าในวันที่รอรับแม่ทัพอวี่เหวินกลับราชวงศ์ กลับเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในจวนเซี่ยละก็ เกรงว่าจวนเซี่ยคงจะขายหน้านัก
เขามองไปทางเฟิ่งชิงเฉินอย่างไร้ความปราณี จากนั้นส่งสายตาให้นางหยุดก่อน หากว่ายังรั้งต่อไป คนที่จะเสียเปรียบคือนางเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...