เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึงจนอ้าปากค้างเป็นวงกลม ในใจของนางรู้สึกหงุดหงิดมาก เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ไม่รู้ว่าเป็นเช่นนี้แล้วเสด็จอาเก้าจะเห็นนางเป็นคนแบบไหนกัน ไม่แน่ว่าอาจจะน่าขยะแขยงมากกว่าซูหว่านเสียอีก
เกิดเรื่องอะไรกับเสด็จอาเก้ากันแน่ ทำไมเรือนที่เขามาอยู่ถึงไม่มีคนใช้และองครักษ์ คนพวกนั้นไปตายที่ไหนกันหมด จึงไม่มีใครออกมาแจ้งเตือนนางล่วงหน้า
คนรับใช้เหล้านั้นถูกกล่าวหาทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะพวกเขาเองก็ถูกห้ามเอาไว้ แบบนี้ต้องทำให้เสด็จอาเก้ารู้สักหน่อยแล้วว่าคนที่โชคร้ายก็คือพวกเขานั่นแหละ พวกเขาเองก็ไม่มีความคิดที่สูงส่งอย่างการต้องตายแทนผู้อื่น ดังนั้น คุณหนูเฟิ่ง ท่านรักษาตัวเองด้วย
เมื่อเห็นสายตาที่ไม่กะพริบของเสด็จอาเก้าที่กำลังจ้องไปที่นาง เฝ้ารอคำตอบของนาง ผ่านไปสักพักหนึ่งเฟิ่งชิงเฉินก็พูดออกมาอย่างช้าๆ "ข้าไม่ได้ตั้งใจ"
"อืม ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ได้ตั้งใจ" เจ้าตั้งใจ เพื่อที่จะแสดงออกว่าตนเองเชื่อคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม แต่การแสดงออกบนใบหน้าของเขาแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เฟิ่งชิงเฉินลูบหน้าผากอย่างหมดเรี่ยวแรง นางรู้ดีว่านางไม่ได้อธิบายกับเสด็จอาเก้าอย่างชัดเจน นางย่อเข่าและกล่าวขึ้นมา "ชิงเฉินผิดพลาดเอง บังอาจรบกวนความสงบของเสด็จอาเก้า เช่นนั้นชิงเฉินขอลา"
ยั่วโมโหข้าไม่ได้แล้วก็หลบซ่อนไปไม่ได้หรือ เสด็จอาเก้าน่าทึ่งจริงๆ ข้าไม่อยากจะแต่งกับท่าน เพียงแต่ว่า......ข้าสนใจและชอบท่านก็เท่านั้นเอง แค่เพียงท่านไม่มาหายั่วโมโหข้า เวลาผ่านไปความรู้สึกแบบนี้ก็คงจะจางหายไปเอง
ไป?
เสด็จอาเก้าไม่ได้รั้งให้อยู่ต่อ แต่ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังหันหลังกลับ จู่ๆเขาก็ถามขึ้นมา "ซุปไก่ใบบัวคืนนี้อร่อยไหม?"
คืนนี้มีอาหารอยู่มากมายเต็มโต๊ะ แต่เสด็จเก้ากลับถามถึงซุปไก่ใบบัวเพียงอย่างเดียว
เช่นนี้.......
เฟิ่งชิงเฉินก้าวออกมาหนึ่งก้าว
เช่นนี้แล้วนางจะตอบอย่างไรกันล่ะ?
ความสนิทสนมของนางกับหวังจิ่นหลิงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงวันสองวัน ถึงแม้ว่าในวันนี้หวังจิ่นหลิงจะทำอะไรที่เกินเหมาะสมไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้นางเกลียด ถึงอย่างไรการที่มีคนอย่างองค์ชายใหญ่คอยดูแล ก็สามารถตอบสนองเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆได้
นางกับหวังจิ่นหลิงต่างก็ตรงไปตรงมาและเปิดใจกว้างต่อกัน แต่เมื่อถูกเสด็จอาเก้าถามขึ้นมา กลับกลายเป็นเหมือนกับว่านางพยายามที่จะทำเป็นสนิทสนมกับหวังจิ่นหลิงต่อหน้าของเขา จึงทำให้เขาสนใจหรืออิจฉาขึ้นมา
เอาเถอะ นางยอมรับว่านางมีความคิดเช่นนี้ แต่ก็มีเพียงนิดเดียวเท่านั้น และด้วยความระมัดระวังเล็กๆน้อยๆนี้เอง นางไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ แต่นางยังร่วมมือกันกับหวังจิ่นหลิงอีกด้วย น่าเสียดายที่ปฏิกิริยาของเสด็จอาเก้าทำร้ายความตั้งใจของนางไปเสียมาก
แต่เดิมคิดว่าเสด็จอาเก้าไม่ได้สนใจ แต่ชายคนนี้กลับถามขึ้นมา แบบนี้คือสนใจแล้วหรือยัง? ผ่านมานานขนาดนี้เพิ่งจะมาสนใจ ช่างเป็นคนประเภทที่หาได้ยากจริงๆ
เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจยาวๆและหันกลับมา "สิ่งของในจวนเสด็จอาเก้า จะไม่ดีได้อย่างไร"
"ที่แท้ก็เป็นเพราะของที่จวนของข้าดี ข้าคิดไปว่า ซุปที่องค์ชายใหญ่แห่งตระกูลหวังตักให้นั้นจะไม่ธรรมดาเสียอีก" ไม่เพียงแต่น้ำเสียงของเสด็จอาเก้าที่เย็นชา แต่สายตาของเขาก็เย็นชามากเช่นกัน เฟิ่งชิงเฉินตกใจจนต้องก้าวถอยไป นางกะพริบตาอย่างขาดความมั่นใจ และทันใดนั้นสายตาของเขาก็จ้องกลับมาอีก นางไม่เหลือความมั่นใจอะไรแล้ว เสด็จอาเก้าเป็นอะไรของนางกันแน่ สถานะของเขามีสิทธิ์อะไรที่จะมาก้าวก่ายนาง
บนโลกใบนี้คนที่อยู่ในสถานะที่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายนาง มีเพียงพ่อและแม่ของนางเท่านั้น นอกจากสองคนนี้แล้ว ใครก็ไม่สามารถเข้ามายุ่งกับชีวิตของนางได้ ต่อให้เป็นเสด็จอาเก้าก็ไม่ได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เฟิ่งชิงเฉินก็มีความมั่นใจมากขึ้น หันไปทางเสด็จอาเก้าอย่างสงบ และกล่าวออกมาว่า "ซุปที่องค์ชายใหญ่แห่งตระกูลหวังตักให้ชิงเฉิน ถือเป็นเกียรติของชิงเฉิน" ท่านพูดเพ้อเจ้ออะไรของท่านกันเนี่ย ทำไมตอนอยู่ที่โต๊ะอาหารถึงไม่เห็นเติมอาหารให้ข้าบ้างเลย
ดวงตาที่สดใสและกลมโต ส่องสว่างในค่ำคืนที่มืดมิด เชื่อใจและมีความหวังทั้งหมดหัวใจ เสด็จอาเก้ารู้สึกเพียงหัวใจตนเองที่กำลังเต้นแรงและน้ำเสียงของเขาก็นุ่มนวลลง นิ้วของเขาค่อยๆปัดผมที่แตกออกมาอยู่ข้างหูของเฟิ่งชิงเฉิน
กล่าวขึ้นมากึ่งเล่นกึ่งจริงจังว่า "ทำไมล่ะ? เจ้าหึงหรือ? ข้าไม่เคยให้ซูหว่านได้มาอยู่ข้างๆ และไม่เคยให้นางจูงมือของข้าด้วย แม้แต่เสื้อผ้าที่นางสัมผัสโดนข้าก็ทิ้งไปหมดแล้ว"
สายตาของเขาจับจ้องที่ชุดของเฟิ่งชิงเฉิน แสงที่เยือกเย็นส่องสว่างอยู่ในดวงตาของเสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้าแอบคิดอยู่ในใจ ชุดนี้ก็ไม่ต้องใช้แล้ว!
นางหึงหรือ? แต่ทำไมนางถึงรู้สึกว่าคำพูดของเสด็จอาเก้าต่างหากที่ดูหึง? นางต้องฟังผิดไปแน่ๆ ต้องฟังผิดแน่ๆ ถึงเสด็จอาเก้าจะรู้สึกหึง แต่ก็ไม่มีทางแสดงออกมา
แต่ว่า เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ก็ทำให้รู้สึกสบายใจจริงๆ อะฮึ่ม......เฟิ่งชิงเฉินกระแอมในลำคอ ยิ้มที่สวยงามและมีเสน่ห์พูดขึ้นมาว่า "เสด็จอาเก้าพูดเล่นอะไร ชิงเฉินเป็นใคร? อยู่ในสถานะอะไรถึงมีสิทธิ์หึงหวงได้"
"สถานะ? เช่นนั้นข้าให้สถานะนี้กับเจ้าเป็นอย่างไร?" น้ำเสียงของเสด็จอาเก้าราวกับพูดว่าแสงจันทร์ในคืนนี้ช่างสวยเหลือเกิน
อะไร? เฟิ่งชิงเฉินเหมือนไม่ได้สติไปครู่หนึ่ง นางไม่กล้าที่จะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เสด็จอาเก้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอะไร? นางต้องเอ่ยปากถามให้ชัดเจน แต่ว่า......
สถานการณ์แบบนี้ นางถามไปแล้วจะทำอย่างไรได้ ถึงแม้ว่าเสด็จอาเก้าจะชอบนางแต่ก็คงไม่อาจเลือกนาง เมื่อเฟิ่งชิงเฉินได้สติกลับมา นางยิ้มแทบไม่ออก ก้มหน้าลงและพูดขึ้นมา "ชิงเฉินไม่ได้มีสถานะเช่นนั้น ชิงเฉินรับไว้ไม่ได้"
สถานะที่มีสิทธิ์หึงหวง? อนาคตนางสนมของท่านอ๋องเก้าก็ไม่ได้มีสถานะเช่นนี้ แล้วนางนับว่าเป็นอะไร
"ชิงเฉิน เจ้าทรยศความหวังดีของข้า" คำพูดของเสด็จอาเก้านี้เบามาก และดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยากรับความจริง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...