ในบรรดาทหารองครักษ์ทั้งสิบหกนาย มีเพียงแปดนายเท่านั้น ที่ใช้จัดการกับพวกเหล่าขอทาน รวมสาวใช้ของนางอีกสองคนที่เข้าไปร่วมด้วยนั้น ยังลงมีดกับผู้ที่มีลมหายใจลงไปอีก
"หยุดมือ หยุดมือ" เมื่อหัวหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่พวกนั้นเห็นเข้า ก็พลันรีบวิ่งเข้ามาขัดขวางในทันที
หากคนตาย ตายไปย่อมไม่หลักฐานเหลืออยู่ เขาต้องเหลือพยานเอาไว้
เหลือพยานเอาไว้หรือ?
ความคิดช่างไร้เดียงสายิ่งนัก นางเฟิ่งชิงเฉินลงมือโหดร้ายเช่นนี้ พวกเจ้าคิดว่า ข้าจักเหลือพยานเอาไว้ให้พวกเจ้านำมาใส่ร้ายข้าอีกหรือ
ต้องการให้เหลือพยานเอาไว้? คราวหน้าเจ้าก็มาไว ๆ แล้วกัน
"ขัดขวางเขาเอาไว้" เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจว่าคนภายนอกจะทำเช่นไร นางเพียงออกคำสั่งเท่านั้น
หน้าที่ของเหล่าทหารคือเชื่อฟังในคำสั่ง นางเชื่อว่า ทหารองครักษ์ของจวนซู่ชินอ๋องเข้าใจในเหตุผลนี้ดี
และพวกเขาก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง องครักษ์ของซู่ชินอ๋องพลันนำกำลังคนมาขัดขวางเจ้าหน้าที่พวกนั้นเอาไว้ หากไม่มีคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาย่อมไม่ปล่อยตัวให้เข้ามาโดยเด็ดขาด
แต่เดิมองครักษ์พวกนี้ รังเกียจการที่พวกเขาต้องมาฟังคำสั่งของสตรียิ่งนัก ทว่า เมื่อพวกเขาได้มาเห็นด้านที่มีความเด็ดขาดของเฟิ่งชิงเฉินแล้วนั้น ทั้งสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม พวกเขาจึงเข้าใจได้ในทันทีว่า เจ้านายของพวกเขาหาได้อ่อนแอไม่ การเชื่อฟังคำสั่งของนาง มิได้ทำให้พวกเขารู้สึกอับอายขายหน้าแต่อย่างใด น่าเสียดายนัก ที่นางเป็นสตรี จึงมิอาจออกรบได้
"คุณหนูเจ้าคะ ทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ" เมื่อเสียงโหยหวนครั้งสุดท้ายดังขึ้น สาวใช้พลันรีบเข้ามารายงานเฟิ่งชิงเฉินด้วยความเคารพในทันที
"อืม ปล่อยตัวให้เข้ามา"
ยามที่คำสั่งของเฟิ่งชิงเฉินจบลง พวกเจ้าหน้าที่ขุนนางพวกนั้นถึงได้สามารถเข้ามาได้ เมื่อเห็นซากศพมากมายที่อยู่บนพื้นนั้น พร้อมกับหยาดเลือดที่เอ่อนองคล้ายกับทะเลเลือดก็ไม่ปาน ผู้ที่ขวัญอ่อนพลันส่ายหน้า พร้อมกับวิ่งไปอ้วกที่ข้างกำแพงในทันที
"กระหม่อมจ้าวหวายเฉิง ขอเข้าพบคุณหนูเฟิ่งชิงเฉิน" จ้าวหวายเฉิงย่อมต้องเป็นหัวหน้าของพวกขุนนางเหล่านี้อย่างแน่นอน เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดยิ่งนัก
นี่ถือเป็นการตบหน้าเขาเลยทีเดียว การฆ่าคนกลางเมืองเช่นนี้ ยังมีกฎหมายบ้านเมืองอยู่หรือไม่
"ที่แท้เป็นใต้เท้าจ้าวนี่เอง ขออภัยที่เสียมารยาท" เฟิ่งชิงเฉินหาได้ทำการลงจากรถม้าไม่ อีกทั้งยังไม่มีความคิดที่จะเปิดประตูรถม้าเพื่อทำความรู้จักกับเขาอีก นั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่า นางไม่ต้องการคบค้าสมาคมกับเขา
สกุลจ้าวงั้นหรือ หากเดาไม่ผิด ใต้เท้าจ้าวผู้นี้ คงจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลจ้าว ในยามที่ซุนยี่จิ่นต้องหมั้นหมายกับตระกูลจ้าวกระมัง หากเขามาจากตระกูลยากจน อย่างไรย่อมมิได้มานั่งบนตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าเขามิได้มีความกล้าที่จะออกมาจัดการสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าไม่
คนของตระกูลจ้าว นางไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาผูกมิตรด้วยเลย เพียงแค่ทำให้พวกเขาโกรธเคืองนางไปจนตายก็พอแล้ว
"กระหม่อมมิกล้า ในวันนี้กระหม่อมมาเพื่อจัดการกับคดี ขอให้เฟิ่งซิ่วให้ความร่วมมือด้วย ตามกระหม่อมมาที่จวนท่านผู้ว่ามณฑลด้วยเถิดขอรับ" ประโยคนี้คือ พวกเขาต้องการนำตัวนางไป
เฟิ่งชิงเฉินแสร้งทำเป็นมิได้ยิน "ใต้เท้าจ้าวให้เกียรติกันเกินไปแล้ว ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนั้น มารบกวนรถม้าของข้า ข้าจึงได้สั่งให้คนของข้าลงไปจัดการเท่านั้น ต้องขออภัยด้วย ใต้เท้าจ้าวมาช้าเกินไป องครักษ์ของข้าได้จัดการควบคุมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้แล้ว
ข้ารู้ว่าการที่องครักษ์ของข้าไปแย่งหน้าที่การงานของพวกท่านนั้นไม่ถูกต้อง ในเมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้ งานที่เหลืออยู่ ใต้เท้าจ้าวก็จัดการเถิด ใต้เท้าจ้าวสามารถตรวจสอบได้เลย ว่ามีผู้เหลือรอดชีวิตมาเป็นพยานให้ท่านได้หรือไม่ หากมีละก็ทำการสอบสวนเสีย ข้าก็อยากรู้เช่นกัน ว่าเป็นผู้ใดถึงได้กล้าทำให้เหล่าราษฎรก่อเหตุจลาจลเช่นนี้ได้ ถึงยังมารบกวนรถม้าของจวนขุนนางภักดีอีก"
มิบอกมิได้เลยว่า การที่ฝ่าบาทพระราชทานตำแหน่งนี้ให้กับนางนั้น มันมีประโยชน์มากเพียงใด ถึงแม้ว่ามันจะมิได้มีอำนาจมากนัก แต่ทว่า หากมิได้มีตำแหน่งหน้าที่ไปมาในเมืองหลวง นางก็จักกลายเป็นซาลาเปานิ่ม ๆ ให้ผู้คนจัดการได้
จะพูดได้อย่างไรกัน เฟิ่งซิ่วสั่งฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาเช่นนี้ องครักษ์รอบตัวนางทั้งสิบหกนายต่างก็มีท่าทีดุร้ายราวกับพยัคฆ์ เขาจะไปกล้าล่วงเกินได้อย่างไร
เฟิ่งชิงเฉินแสร้งทำเป็นมิได้ยินสิ่งใดทั้งนั้น พร้อมกับออกคำสั่งต่อองครักษ์ที่อยู่ข้างกายว่า "ฮั่วซาน เจ้าคอยอยู่ช่วยใต้เท้าจ้าวที่นี่เสีย สืบหาให้ดีว่าผู้ที่ลอบสังหารข้ายังมีพยานคนสำคัญเหลืออยู่หรือไม่"
เรื่องตั้งแต่ที่ราษฎรก่อการจลาจลรวมไปถึงการลอบสังหาร เป็นเรื่องที่ต้องการคำอธิบายที่ดี ถึงแม้นางจะมิเห็นความสำคัญของมันเท่าใดนัก แต่คำพูดนี้สามารถบ่งบอกได้ว่า นางไม่ยินยอมที่จะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าราษฎรกลางถนนใหญ่อย่างแน่นอน นางเพียงฆ่าผู้ที่ลอบสังหารเท่านั้น นับว่าเป็นการป้องกันตนเอง ถึงอย่างไร คนตายก็พูดไม่ได้ นางมิปล่อยให้พวกมันนำโอกาสพาพยานออกมาชี้ตัวนางได้แน่
ส่วนหลักฐานงั้นหรือ? ของเช่นนั้นจะไปหาจากที่ใดได้
ถ้าหากมีคนไม่พอใจละก็ ต้องการทำเรื่องใหญ่โตเข้าไปอีกละก็ นางจะยอมร่วมมือด้วยก็ได้ ถึงอย่างไร หากพวกเขาทำลายนางด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ก็ต้องมีเรื่องต่อไปอีก ๆ อย่างแน่นอน
ฮั่วซานเป็นหัวหน้าองครักษ์ที่ตี๋ตงหมิงให้นาง รูปร่างกำยำที่ใหญ่โตสมกับชายชาตรี หากแต่จิตใจอ่อนไหวยิ่งนัก เพื่อให้เขาจดจำเอาไว้ นางจึงต้องชื่นชมเขา
"ขอรับ" ฮั่วซานพลันก้าวไปด้านหน้า เพื่อยืนต่อหน้าจ้าวหวายเฉิง จ้าวหวายเฉิงพลันรู้สึกได้ถึงหินภูเขาที่ค่อย ๆ กดทับตนเองในทันที
พวกเขาเป็นถึงขุนนางที่อยู่ในเมืองหลวง ส่วนใหญ่ล้วนแต่พยายามหาหลุมหลบภัยให้กับตนเอง พวกเขาจึงต้องนับถือคนใหญ่คนโตไว้เสียบ้าง เพื่อที่จะได้นำมาขู่ขวัญชาวบ้านได้ง่าย หากว่าทำการกดขี่ทหารยศผู้น้อยยังพอทำได้ไม่ยาก ทว่า พวกเขาไม่อาจกระทำการกดขี่ต่อเหล่าทหารร่างใหญ่ที่ผ่านการสู้รบมาได้อย่างแน่นอน
"ใต้เท้าจ้าว ท่านสืบความให้ดีเล่า ข้าจะรอพยานของท่าน เช่นนี้จักได้สืบไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ได้ง่าย" ผู้ที่มีชนักติดหลังย่อมต้องรู้สึกหวาดระแวงในตนเอง เพียงเฟิ่งชิงเฉินเอ่ยออกมาเช่นนี้ ขาทั้งสองข้างของจ้าวหวายเฉิงพลันสั่นเทาโดยไม่อาจห้ามได้
หรือว่าเฟิ่งชิงเฉินมีหลักฐานอยู่ในมือกัน ถึงได้รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกนี้คือผู้ใด ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...