เฟิ่งชิงเฉินกลัวว่า หวังจิ่นหลิงจะพูดอะไรออกมา ที่ทำให้น่าอับอายไปมากกว่านี้ นางจึงเอ่ยตัดบทขึ้นมาว่า "ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจดี เจ้าไม่ต้องอธิบายออกมาหรอก"
ทันทีที่พูดจบ เฟิ่งชิงเฉินก็เช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาในทันที
ฮะ นางพูดอะไรออกมากัน หากผู้ที่ไม่รู้จักหรือสนิทสนมกับนาง ย่อมเข้าใจว่านางเป็นสตรีที่กร้านโลก
เอ่อ เฟิ่งชิงเฉินที่รู้สึกอับอายอยู่นั้น พลันหันหน้าหนีไปในทันที พร้อมกับแอบกร่นด่าตนเองภายในอย่างเงียบ ๆ
เฟิ่งชิงเฉินเจ้าเริ่มที่จะไม่มีความมั่นใจในตนเองเสียแล้ว นางเริ่มคล้ายกับสตรีในยุคโบราณเข้าไปแล้วทุกที นางที่เป็นหมอ มีเรื่องอันใดไม่เคยพบเจอมาบ้างกัน ร่างเปลือยของบุรุษในโลกปัจจุบันนางก็เห็นมานักต่อนักแล้ว หาได้มีความรู้สึกเขินอายอันใดไม่ เรื่องแค่นี้นับว่าเป็นอันใดไปได้
เฟิ่งชิงเฉินเอาแต่ตบหัวตนเองอยู่เช่นนั้น เพื่อเตือนสติตนเองว่า อย่าได้ริเหมือนกับสตรีที่ใสซื่อบนโลกแห่งนี้โดยเด็ดขาด จู่ ๆ ก็พลันนึกไปถึงเหล่าสตรีที่ทำงานอยู่ในแผนกทางเดินปัสสาวะ
พวกนางล้วนแต่เห็นสิ่งของเหล่านั้นทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือจับ หรือการใช้มือรองรับของเหลว หากสตรีบนโลกใบนี้ต้องเหมือนกับคุณหมอหรือพยาบาลระบบทางเดินเช่นนั้น ก็คงไม่ต้องมีชีวิตอยู่กันพอดี
ถึงแม้ว่าภายในรถม้าจะไม่มีไฟ แม้ว่าทุกอย่างจะตกอยู่ในความมืดมิด แต่หวังจิ่นหลิงกลับรับรู้ทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งนัก
อย่าได้หลงลืมไป ว่าก่อนหน้านั้นดวงตาของหวังจิ่นหลิงไม่อาจมองเห็นได้ แม้ในยามที่ตกอยู่ในความมืดมิด เขากลับมีประสาทสัมผัสรับรู้ได้ดีกว่ามาก การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเฟิ่งชิงเฉินนั้น หวังจิ่นหลิงย่อมรับรู้ได้เป็นอย่างดี แต่หวังจิ่นหลิงหาได้หัวเราะออกมาไม่ เพียงแต่ค่อย ๆ ซึมซับสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้ในห้วงความทรงจำของตนเองแทน
ระหว่างทางไปเมืองชิงสุ่ย คงไม่เหงาอีกต่อไป ขอเพียงแค่เขาจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ได้ เขาก็คงมีความสุขไปอีกนาน
บรรยากาศภายในรถม้าดูอบอุ่นยิ่งนัก แต่ทว่า บรรยากาศภายนอกรถม้ากลับมีกลิ่นคละคลุ้งของเลือดมากมาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาสู้กันภายในเมืองหลวงเป็นเวลานานเช่นนี้ แต่กลับไม่มีสายตรวจที่คอยตรวจตราบ้านเมืองมาพบเห็นเหตุการณ์เลยแม้แต่น้อย
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ช่างร้ายกาจยิ่งนัก!
ดูเหมือนว่า ความริษยาของฝ่าบาทที่มีต่อตระกูลหวังจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้ว
"ท่านผู้นำขอรับ พวกเราเริ่มจะรับมือกับนักฆ่าได้ยากแล้วขอรับ องครักษ์เงาหวังว่าพวกเราจะรีบหนีไปก่อน ที่นี่อันตรายเกินไปขอรับ" น้ำเสียงของคนขับรถม้าพลันเจือไปด้วยความกังวลอยู่หลายส่วน ดูเหมือนว่า เรื่องราวจะค่อย ๆ ยุ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
หวังจิ่นหลิงพลันเก็บอารมณ์ดีเมื่อครู่ลงไปในทันที เขารู้จักฝีมือขององครักษ์เงาเป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะจัดการได้ยาก หวังจิ่นหลิงจึงลังเลไปครู่หนึ่ง พร้อมกับออกคำสั่งว่า "ไปจวนตระกูลซู่ชินอ๋อง"
"ขอรับ" คนขับรถม้าพลันรีบกลับไปประจำที่ในทันที พร้อมกับสะบัดแส้ใส่ม้าโดยไว "ไป"
เมื่อรถม้าพุ่งออกไปจากวงล้อมของเหล่านักฆ่าได้นั้น ก็พลันถูกเงาในยามราตรีปกคลุมไปโดยพลัน
"ตามไป ฆ่าผู้นำตระกูลหวังได้ ย่อมได้รับรางวัลอย่างงาม!"
น้ำเสียงที่เย็นชา พลันพัดผ่านเข้าหูของหวังจิ่นหลิงและเฟิ่งชิงเฉิน !
ที่แท้คนพวกนี้ มีเป้าหมายคือหวังจิ่นหลิง!
"ชิงเฉิน ข้าขอโทษ ข้าทำให้เจ้าลำบากแล้ว" สีหน้าของหวังจิ่นหลิงพลันรู้สึกผิดยิ่งนัก แต่เดิมเขาต้องการส่งเฟิ่งชิงเฉินกลับจวนอย่างปลอดภัย แต่กลับเป็นการลากเฟิ่งชิงเฉินเข้าสู่ความอันตรายเสียได้
"อย่าได้พูดถึงความลำบากหรือไม่ลำบากเลย พวกนักฆ่าคงมิได้มีแต่กลุ่มเดียวแน่ เกรงว่าอีกกลุ่มหนึ่ง เป้าหมายของพวกมันคือข้ากระมัง"นางและหวังจิ่นหลิงออกมาจากวังพร้อมกันเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการขอร้องให้หวังจิ่นหลิงช่วยคุ้มครองนาง ในยามนี้ ผู้ที่ต้องมาพบเจอกับความยากลำบากก็คือหวังจิ่นหลิง นางจะรับผิดชอบหวังจิ่นหลิงได้อย่างไร คงต้องบอกว่านางถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยจะดีกว่า
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินพูดจบ ก็พลันได้ยินคนขับรถม้าพูดขึ้นมาว่า "ท่านผู้นำ ด้านหน้ามีนักฆ่าอีกกลุ่มหนึ่งอีกแล้วขอรับ"
นั่นหมายความว่า คืนนี้ ต้องมีนักฆ่าอย่างน้อยสามกลุ่มที่รอปลิดชีพพวกเขา
"หน้าตาของพวกเราช่างใหญ่เสียจริง" เฟิ่งชิงเฉินพลันกล่าวออกมาด้วยความเย้ยหยันในชะตาชีวิตของตน
"ได้ ข้าจะให้คนขับรถม้าหยุดม้าเสีย" หวังจิ่นหลิงรู้ดีว่าฝีมือการขี่ม้าของเฟิ่งชิงเฉินเป็นเลิศ
"ไม่ต้อง เช่นนั้นมันจะเสียเวลาเกินไป พวกเรากระโดดลงไปกันเถอะ" แม้ว่ารถม้าจะวิ่งได้เร็ว แต่ทว่า ความเร็วเช่นนี้ หาได้อยู่ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉินไม่ แม้ว่ารถม้าจะวิ่งเร็วมากเพียงใด ก็คงไม่อาจเท่ารถยนต์ในโลกปัจจุบันได้ แม้แต่รถยนต์ที่วิ่งไว ๆ นางยังกล้ากระโดด นับประสาอะไรกับรถม้ากัน
"จิ่นหลิงกระโดด" หลังจากเตรียมเสร็จแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็จับมือหวังจิ่นหลิงเอาไว้ และกระโดดลงไปในทันที
ยามที่กระโดดลงไปนั้น ตัวของหวังจิ่นหลิงเมื่อเท้าถึงพื้น ตัวก็คล้ายจะเอนล้มไปด้านหน้าในทันที แต่เขากลับถูกเฟิ่งชิงเฉินลากให้ออกวิ่งมาเสียก่อน แม้ว่าจะเสียการทรงตัวไปบ้าง แต่ก็มิได้ถึงขนาดล้มลงไป
เมื่อขาของทั้งสองคนถึงพื้นแล้วนั้น เมื่อเห็นว่าหวังจิ่นหลิงมิเป็นอันใด เฟิ่งชิงเฉินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในทันที แม้ว่าเทคนิคการกระโดดลงจากรถของนาง จะเก่งพอ ๆ กับทีมกู้ระเบิด แต่นาง ก็ไม่เคยพาคนกระโดดลงมาด้วยเช่นนี้มาก่อน นางมักจะถูกผู้อื่นปกป้องเสียมากกว่ายามที่อยู่ในสนามรบ
"เร็ว หวังจิ่นหลิงและเฟิ่งชิงเฉินกระโดดลงจากรถม้าแล้ว รีบไปหยุดพวกเขาเอาไว้ อย่าให้หลุดออกไปได้" เมื่อนักฆ่าเห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนกระโดดลงมาจากรถม้านั้น ก็รีบไล่ตามราวกับถูกทุบตีในทันที
"ท่านผู้นำ พวกเราไม่อาจรั้งพวกมันไว้ได้นาน" องครักษ์ของหวังจิ่นหลิงมีอีกครึ่งหนึ่ง ที่กำลังขัดขวางพวกนักฆ่ากลุ่มที่สองอยู่ เมื่อถูกกลุ่มนักฆ่าพวกที่สามเข้ามาขวางไว้นั้น ข้างกายของหวังจิ่นหลิงจึงเหลือเพียงแค่องครักษ์สองนาย รวมคนขับรถม้าไปด้วยอีกหนึ่งคน
การต่อสู้เช่นนี้ ไม่อาจปกป้องหวังจิ่นหลิงไปได้แน่
"พี่น้องข้า ฆ่าเสีย ผู้นำตระกูลหวังไม่รู้จักวรยุทธ์ ฆ่าองครักษ์พวกเขาแล้ว ภารกิจพวกเราก็จะสำเร็จ" น้ำเสียงของหัวหน้านักฆ่านั้น ราวกับรู้จักจิตวิทยาในสนามรบเป็นอย่างดี เพียงแค่คำพูดของเขาประโยคเดียวเท่านั้น เหล่านักฆ่าก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาโดยพลัน
แม้ว่าองครักษ์ของหวังจิ่นหลิงจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่กำปั้นเพียงสองมือก็ไม่อาจทำร้ายเหล่าศัตรูที่มีถึงสี่มือไปได้ เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่านักฆ่าเป็นสิบคนเช่นนี้ ทั่วร่างขององครักษ์ก็กลายเป็นเลือดในทันที
การต่อสู้ด้านหลังของพวกเขาช่างหดหู่ยิ่งนัก เฟิ่งชิงเฉินมิต้องหันหลังกลับไปมองก็รับรู้ได้เป็นอย่างดี แต่ทว่า ในยามนี้นางไม่มีเวลามาสนใจพวกเขา การเอาชีวิตรอดในยามนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เช่นนั้น มันจะเป็นการทำให้ชีวิต ที่เหล่าองครักษ์ต้องเสียไปยามปกป้องพวกนางต้องเสียเปล่า
"จิ่นหลิง ข้าจะปีนขึ้นไปบนหลังม้า เจ้ารีบวิ่งไปข้างหน้า อย่าได้หยุดเป็นอันขาด" เฟิ่งชิงเฉินปล่อยหวังจิ่นหลิงในทันที พร้อมกับปรับลมหายใจตนเองครู่หนึ่ง พร้อมกับวิ่งไปด้วยความเร็วพร้อม ๆ กับม้า จากนั้นก็ใช้วิธียามปราบม้าพยศ กระโดดขึ้นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...