เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก อย่าได้เอ่ยว่าหวังจิ่นหลิงไม่อาจควบคุมได้ แม้แต่พวกนักฆ่าก็ยังไม่เข้าใจกับการกระทำของนางเช่นกัน ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อเหล่านักฆ่าได้สติกลับมาแล้วนั้น ม้าที่มีหวังจิ่นหลิงนั่งอยู่ ก็ได้วิ่งออกไปไกลแล้ว แม้แต่เงาก็มิทันได้เห็น
"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าโง่" เสียงด่าของหวังจิ่นหลิงที่ดังมาจากที่ไกล ๆ การที่จะทำให้คุณชายใหญ่ที่เป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนเช่นหวังจิ่นหลิงสามารถตะโกนด่าออกมาเช่นนี้ได้ นับว่าเฟิ่งชิงเฉินมีความสามารถยิ่งนัก
"มิต้องกังวลไปหวังจิ่นหลิง ข้าจะอดทนรอเจ้ากลับมา" เฟิ่งชิงเฉินพลันตะโกนตอบกลับ จู่ ๆ เข็มในมือของนาง ก็แทงเข้าไปที่หน้าผากของหัวหน้านักฆ่าที่อยู่ตรงหน้าในทันที "ฉึก"
"โชะ" เสียงเดียว ทำให้หัวหน้านักฆ่าที่ยังมิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา พลันล้มลงไปในทันที
"ผลลัพธ์ไม่เลว" เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าด้วยความพอใจเล็กน้อย พร้อมกับคว้าดาบจากมือฝ่ายตรงข้ามมา แม้ว่านางจะใช้อาวุธของกองทัพ มิค่อยชำนาญนัก แต่ทว่าดาบที่อยู่ในมือของนาง เป็นประโยชน์ต่อนางเป็นอย่างมาก
"ฆ่า ฆ่าเฟิ่งชิงเฉิน" เมื่อเหล่านักฆ่าได้สติขึ้นมานั้น พลันเหลือห้าคนเอาไว้จัดการกับเฟิ่งชิงเฉิน อีกเจ็ดนายรีบสั่งให้ตามหวังจิ่นหลิงไปในทันที "เร็ว รีบตามไป อย่าปล่อยให้หวังจิ่นหลิงหนีไปได้"
"พวกเจ้าตามไปไม่ทันหรอก" เฟิ่งชิงเฉินพลันกดอาวุธลับที่ข้อมือข้างซ้ายอีกครั้ง สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยซุนเจิ้งเต้า มันคล้ายกับเป็นลูกศร แต่ทว่ามีขนาดเล็กกว่ามาก อีกทั้งมันยังถูกเคลือบไปด้วยยาพิษอีกด้วย
ในฐานะหมอคนหนึ่ง พวกเขาก็ต้องมีสิ่งของไว้คอยป้องกันตัวเองเสียบ้าง แต่ยาพิษที่เฟิ่งชิงเฉินใช้ หาใช่ยาพิษจากสารธรรมชาติไม่ แต่เป็นพิษจากสารเคมี ถึงแม้ว่าจะมิได้ตายจากไป แต่ก็ไม่อาจหาทางช่วยเหลือได้
น่าเสียดายนัก เข็มยาพิษของนางบางเกินไป ความสามารถในการทำลายล้างและระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของมันจึงมีขีดจำกัด ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะกดหลายครั้งเพียงใด มันก็แทงนักฆ่าได้เพียงสองคนเท่านั้น
ฉึก
ฉึก
เมื่อโดนเข็มยาพิษแล้ว เหล่านักฆ่าล้วนแต่มีสภาพเช่นเดียวกับหัวหน้าของพวกมันในทันที เมื่อมีสองคนที่ล้มลงไปแล้ว เหล่านักฆ่าที่ไล่ตามหวังจิ่นหลิงอยู่จึงเหลือเพียงห้าคนเท่านั้น นางไม่สามารถไล่ตามไปได้แล้ว เนื่องจากฝั่งของนาง ก็ยังโดนเหล่านักฆ่าล้อมรอบเอาไว้อยู่เช่นกัน
เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่สวดมนตร์อ้อนวอนต่อพระเจ้าภายในใจ ขอให้หวังจิ่นหลิงวิ่งให้ไวกว่านี้ ขอให้กองกำลังเสริมที่เข้ามาช่วยเหลือไวกว่านี้ มิเช่นนั้น สภาพของหวังจิ่นหลิง หากถูกเหล่านักฆ่าทั้งสี่ตามได้ทันนั้น คงมีแต่หนทางตายรั้งรอเพียงอย่างเดียว
"ทุกคนระวังตัวด้วย สตรีนางนี้นางมีอาวุธลับอยู่" นักฆ่าที่มีร่างกายกำยำดั่งหลังเสือเอวหมี ก็พลันถือดาบวิ่งเข้าใส่ทางด้านหลังเฟิ่งชิงเฉินในทันที เฟิ่งชิงเฉินพลันรีบหันกายกลับไปตั้งรับโดยพลัน
"ปั้ง" เสียงเดียว ดาบทั้งสองเล่มพลันตั้งรับใส่กันในทันที แม้แต่ยามราตรีเช่นนี้ ก็พลันเห็นประกายแสงของดาบที่กระทบกันอย่างชัดเจน เฟิ่งชิงเฉินถูกดันให้ถอยหลังไปสองสามก้าว นิ้วมือของนางพลันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในทันที พร้อมกับของเหลวที่ค่อย ๆ ไหลออกมา
ช่างน่าตาย มือข้าได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินโมโหเสียจนอยากจากก่นด่าคำหยาบคายออกมาในทันที นางเกลียดมากที่สุดคือการที่มีคนทำให้ฝ่ามือของนางเป็นแผล คนพวกนี้ล้วนแต่ต้องตายไปกันให้หมด แต่ก่อนที่พวกเขาจะตาย นางอยากจะรู้ว่า ผูัที่อยู่เบื้องหลังคือผู้ใดกันแน่ "นายของพวกเจ้าคือผู้ใดกัน?"
"เฮอะ เจ้าก็ไปถามยมทูตเสียซิ" น้ำเสียงของนักฆ่าหนักแน่นเป็นอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินมิคิดเลยว่า เพียงแค่นางเอ่ยถามไปเช่นนี้ ฝ่ายตรงข้ามก็จะตอบนางกลับมา
"งั้นหรือ? น่าเสียดายผู้ที่จะต้องไปพบยมทูตก็คือพวกเจ้า ไม่ใช่ข้า " เฟิ่งชิงเฉินกดไปที่อาวุธลับข้อมือด้านซ้ายอีกครั้ง ก็พลันมีเข็มพุ่งออกมาในทันที พร้อมกับทอประกายแสงออกมาแม้แต่ในยามกลางคืน
"เร็ว รีบหนีเร็ว"
อาวุธลับ มักจะทำให้ผู้คนรู้สึกคาดไม่ถึง หากฝ่ายตรงข้ามรู้จักที่ซ่อนของมันแล้วละก็ ย่อมไร้ประโยชน์หากคิดที่จะโจมตีต่อไป การโจมตีในครานี้ เฟิ่งชิงเฉินหาได้ทำร้ายใครสักคนไม่ แต่ทว่า มันกลับทำให้นักฆ่าที่เหลือทั้งสี่คนต่างก็เดินถอยหลังไปแทน
แม้แต่ในยามราตรีที่มืดมิด เฟิ่งชิงเฉินพลันแย้มยิ้มออกมาด้วยความน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก แต่น่าเสียดาย หาได้มีผู้ใดพบเห็นรอยยิ้มเช่นนั้นไม่ "แท้จริงแล้ว อาวุธลับของข้าไม่เพียงแต่จะฆ่าคนตายได้ แต่ก็สามารถทรมานผู้คนให้ตายได้เช่นกัน"
การเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉินราวกับลมก็ไม่ปาน เพียงแค่วูบเดียว ก็เข้าไปปะทะหน้าของนักฆ่าในทันที
ยามที่นักฆ่าพลันถือดาบฟาดลงมานั้น เฟิ่งชิงเฉินก็ยกดาบของตนไปตั้งรับ บาดแผลพลันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิมอีก แต่เฟิ่งชิงเฉินหาได้ถอยหลังไปสักก้าวไม่ เพียงแต่ยกขาขึ้นและกระทืบไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุดของบุรุษผู้นั้นในทันที
"อ๊าก"
อย่าได้ถามว่า เหตุใดเฟิ่งชิงเฉินถึงนำมันออกมาได้ไวถึงเพียงนั้น แท้จริงแล้ว ก่อนที่นางจะเข้าวังในทุก ๆครั้ง นางจะจัดเตรียมสิ่งของที่พอจะสามารถปลิดชีพคนเอาไว้สักสองสามอย่างอยู่เสมอ
แม้จะมีคนเคยเอ่ยว่า การป้องกันตนเองที่ดีที่สุดคือการโจมตี แต่ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉินนั้น การป้องกันตนเองที่ดีที่สุด คือการปลิดชีพคู่ต่อสู้
สิ่งของเช่นกรดซัลฟิวริกนั้น เฟิ่งชิงเฉินหาได้ให้คนจัดการเอาไว้ให้ไม่ นางกลัวว่า หลังจากนางออกจากวังไปแล้ว หนานหลิงจิ่นฝานจะนำสัตว์ป่าอะไรมาจู่โจมนาง กรดซัลฟิวริกตัวนี้ จึงมีไว้เพื่อป้องกันตัวนางจากสัตว์ป่า
หาได้เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินคิดมากจนเกินไปไม่ แต่ทว่า การปราบม้าพยศของนางโด่งดังมากเกินไปแล้ว โดดเด่นเสียนางกลัวว่าคนข้างบนต้องการจะคิดบัญชีของนางเสียได้ นางจึงต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างเอาไว้ ท้ายที่สุดแล้ว นางไม่คิดเลยว่าจะต้องมาใช้กับคนเช่นนี้
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ นางเตรียมปริมาณมาไม่มากพอ มิเช่นนั้นหากเพิ่มปริมาณขึ้นอีกสักนิดละก็ ย่อมสามารถโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้เพียงครั้งเดียว โดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่อาจสังเกตเห็นได้
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินใจเย็นลงแล้วนั้น ก็พลันเห็นว่าองครักษ์ของตระกูลหวังยังคงติดพันกับพวกนักฆ่าอยู่เช่นกัน นางถึงรู้สึกว่าที่นี่มิควรอยู่นานนัก
หากพวกนักฆ่าเหล่านั้น ฝ่าด่านองครักษ์ตระกูลหวังมาได้ นางคงถึงคราวซวยเป็นแน่ แต่ทว่า หากนางไม่บังคับนักฆ่าทั้งสามให้สารภาพ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือผู้ใด นางก็ไม่อาจสบายใจได้เช่นกัน
"พูด ผู้ใดส่งพวกเจ้ามากัน?" เฟิ่งชิงเฉินพลันหยิบดาบที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา พร้อมกับกรีดไปที่ใบหน้าของนักฆ่าในทันที
"อ๊ากอ๊ากอ๊าก" เสียงกรีดร้องของนักฆ่าราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังได้รับบาดเจ็บก็ไม่ปาน "ฆ่าพวกข้าเถอะ พวกข้าพูดไม่ได้ พวกข้าพูดไม่ได้"
กรดซัลฟิวริกมีความเข้มข้นมากเกินไป เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเข้าไปใกล้ ๆ ก็พลันพบว่า ใบหน้าของเหล่านักฆ่าถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว มันดูน่าหวาดกลัวยิ่งนัก โดยเฉพาะยามที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอเช่นนี้ เมื่อมองไปที่ใบหน้าของพวกเขามันคล้ายกับทูตผีก็ไม่ปาน
"ไม่พูดใช่หรือไม่? ไม่พูดก็ไม่พูด ให้ข้าฆ่าเจ้า? ต้องขอโทษด้วย ข้าไม่มีความคิดที่จะฆ่าผู้ใด"
เฟิ่งชิงเฉินพลันยกดาบขึ้น พร้อมกับฟันไปที่แขนขาของเหล่านักฆ่าพวกนั้นในทันที มิรู้ว่าเป็นเพราะมืดเกินไปหรือไม่ หรือว่าเป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินมิได้ควบคุมทิศทางของดาบให้ดี หรือเป็นเพราะความตั้งใจของนาง
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินฟันดาบลงไปแล้วนั้น แขนขาของนักฆ่าก็ขาดออกจากกันในทันทีเหลือไว้แต่เพียงเส้นเอ็นของข้อมือและข้อเท้าเอาไว้ เพื่อเอาไว้ต่อกลับคืนดังเดิม ถ้าหากไม่รีบทำการรักษาพวกเขาละก็ ถึงอย่างไรพวกเขาก็จะตายไปเพราะเลือดหมดตัวอยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...