องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 136

การร่วมกินอาหารของจวนเหวินกั๋วกงจะยึดถือหลักที่ชายหญิงห้ามร่วมโต๊ะเสมอ ดังนั้นผู้ชายและผู้หญิงจึงแยกโต๊ะอาหาร

พอหยุนหลิงเข้าห้อง ก็พบว่ามีอาหารจัดวางอยู่เต็มโต๊ะ แต่กลับมีนางและเฉินซื่อนั่งอยู่แค่สองคน

นางเลิกคิ้ว ถาม “ท่านแม่ ทำไมไม่เห็นสองแม่ลูกดอกบัวขาว(*หมายถึงผู้หญิงที่ภายนอกดูดี แต่ที่จริงคิดไม่ซื่อ)ล่ะ”

ทีแรกยังคิดว่าต้องเตรียมทำสงครามอีกยก

เฉินซื่ออึ้งครู่หนึ่ง แล้วจึงนึกขึ้นได้ว่า ‘ดอกบัวขาว’ ที่นางพูดถึงหมายถึงใคร จากนั้นก็อดไม่ไหวเอามือปิดปากหัวเราะพูดขึ้น

“ไป๋เหลียน(*ดอกบัวขาว)คือท่านน้าของเจ้า ต่อให้ไม่ชอบนางอย่างไร ก็ไม่ควรตั้งสมญานามให้นางไปเรื่อย ถ้าพ่อเจ้าได้ยินเข้า ต้องสั่งสอนเจ้าอีกแน่”

น้ำชาในปากหยุนหลิงแทบพุ่ง “ชื่อจริงของเหลียนฮูหยินคือไป๋เหลียนจริงหรือ”

นางแค่พูดส่งเดชไปอย่างนั้นเอง!

เฉินซื่อส่ายหน้าด้วยความจนใจ “หลิงเอ๋อร์ จะเรียกชื่อของท่านน้าเจ้าไม่ได้นะ”

หยุนหลิงแลบลิ้น “รู้แล้วน่าๆ”

เฉินซื่อหลุดหัวเราะมองนาง คีบเนื้อให้นางชิ้นหนึ่ง แล้วจึงอธิบาย “ช่วงก่อนฉู่หยุนหานเสียกิริยาบนเรือ ถึงพ่อเจ้าจะลำเอียง แต่เนื้อแท้ยังให้ความสำคัญกับกฎระเบียบบ้าน ก็เลยกักบริเวณนางจนกว่าจะแต่งงาน”

“ส่วนท่านน้าของเจ้า...”

ราวกับเฉินซื่อนึกเรื่องดีใจอะไรขึ้นมาได้ รอยยิ้มลึกมากขึ้นประมาณหนึ่ง

“ตอนนี้พี่ชายของเจ้าทำงานอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ รับตำแหน่งเป็นลิ่งสื่อ(*ข้าราชการระดับล่าง ทำงานเกี่ยวกับเอกสาร) เจาะลึกศึกษากฎหมายของต้าโจวทุกวัน ช่วงก่อนจึงบอกพ่อเจ้า ว่าตามกฎของต้าโจว อนุและลูกของอนุจะร่วมโต๊ะอาหารกับนายหญิงไม่ได้”

แม้ภายหลังซื่อจื่อเฒ่าจะทำหน้าขมึงตึงกับเฉินซื่อ แต่เพราะไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจึงมีปากเสียงไม่ได้อีก

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องบริสุทธิ์แน่ ไม่อย่างนั้นจิ้งอ๋องจะเข้าข้างเจ้าได้อย่างไร แต่พ่อเจ้ากลับคิดไม่ตก หมดทางเยียวยาแล้วจริงๆ”

หลังจากเฉินซื่อพูดออกมาเป็นพรวนแล้ว สีหน้าก็หม่นหมอง

หยุนหลิงวางตะเกียบทำแก้มป่อง ยิ้มอวดฟันขาว

“ท่านแม่ หนนี้ท่านเข้าใจตาแก่เลอะเลือนผิดแล้วจริงๆ ฉู่หยุนหานนั่นถูกข้าถีบลงไปจริงๆ นั่นแหละ”

ครั้นเฉินซื่อได้ยินก็พุ่งน้ำชาพรวด ความเป็นกุลสตรีอ่อนโยนที่ผ่านมาหลายปี ไปแล้ว ไปลับ ไม่กลับมา

“แค่กๆๆ...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ