หากเป็นเช่นปกติแล้ว อาศัยแค่พลังวิญญาณ หยุนหลิงสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่ามีคนเข้ามาใกล้ตัว
แต่วันนี้นางใช้พลังวิญญาณทั้งหมดของนางเพื่อปลุกไท่ซ่างหวง ตอนนี้มึนหัวจนแทบจะทนไม่ไหว การรับรู้ของนางอ่อนแอกว่าคนทั่วไปมาก
เดินอยู่ดีๆ จู่ๆ นางก็รู้สึกว่ามีคนผลักตัวเองจากด้านหลัง ล้มลงบนถนนลูกรังโดยไม่ทันระวังตัว
“ผู้ใด?”
“ฮ่าๆ !สมน้ำหน้า!”
องค์หญิงหกกระโดดออกมาจากด้านหลังก้อนหิน มองดูนางอย่างภาคภูมิใจ
ขณะที่หยุนหลิงกำลังจะยืนขึ้น ทันใดนั้นท้องน้อยของนางก็บีบรัดอย่างแรง ตามมาด้วยใบหน้าซีดเซียว
ราวกับว่ามีบางอย่างก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนในท้องน้อยของนาง กลืนกินพลังวิญญาณเล็กน้อยที่นางเหลืออย่างบ้าคลั่ง!
เมื่อเห็นใบหน้าซีดของนาง องค์หญิงหกก็กลอกตา "เฮ้! ข้าผลักเจ้าแค่นี้ เสแสร้งอะไร!"
“จิ๊……”
หยุนหลิงเกิดอาการเวียนหัว จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็มืดลง ปวดมากจนพูดไม่ออก
ภายในใจของนางตื่นตระหนก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
“เลิกเสแสร้งได้แล้ว ที่นี่ไม่มีใครนอกจากเจ้ากับข้า!”
หลังจากพูดจบ ไม้ค้ำก็ลอยออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ฟาดเข้าที่ศีรษะขององค์หญิงหกอย่างแม่นยำ จนทำให้เกิดเสียงที่ไพเราะ
“อ๊ะ!”
องค์หญิงหกกรีดร้องออกมา หน้าผากปูดขึ้นอย่างรวดเร็วบวมจนสามารถมองเห็นชัดได้ด้วยตาเปล่า
เมื่อมองเห็นคนที่เดินเข้ามาอย่างชัดเจน นางเบิกตากว้าง พูดด้วยเสียงเหมือนจะร้องไห้ว่า "เสด็จปู่ ท่านตีหรงเอ๋อทำไม!"
ชายชราตัวเล็กๆ รูปร่างผอมแห้งถือไม้เท้า เบิกตากว้างด้วยความโกรธ
"เฮ้! ปีศาจภูเขาดำมาจากไหน กล้าทำร้ายหลิงเอ๋อ! กินไม้กายสิทธิ์นี่ซะ!"
พูดจบ ก็ใช้ไม้เท้าตีองค์หญิงองค์หกอีกครั้ง องค์หญิงหกกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง ถูกไท่ซ่างหวงตีจนหัวปูด
"ใครก็ได้! มาช่วยข้าเดี๋ยวนี้!"
“อย่ากลัวไปเลยหลิงเอ๋อ พ่อจะสู้กับสัตว์ประหลาดพวกนี้เอง!”
สีหน้าของไท่ซ่างหวงดูน่ากลัวขึ้นมาทันที ดูเหมือนความกล้าหาญของเทพเจ้าแห่งสงครามในตอนนั้น บรรดาขุนนางในวังที่อยู่ไม่ไกลมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม
ไท่ซ่างหวงเลอะเลือนหลงๆ ลืมๆ มานานกว่าสองปี จำภรรยาและลูกหลานของตัวเองไม่ได้เลย แม้ว่าปกติจะอารมณ์เสียอยู่เสมอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้ไม้เท้าตีคน
หยุนหลิงที่ล้มลงไปนั่งกับพื้นไม่รู้ว่าเป็นลมไปตอนไหน เมื่อไท่ซ่างหวงเห็นเช่นนั้นก็ทิ้งไม้เท้าของตัวเอง รับเข้าไปช่วยนางด้วยความตื่นตระหนกและน้ำเสียงที่สั่นเทา
"หลิงเอ๋อ! หลิงเอ๋อที่รักของพ่อ เจ้าอย่าทำให้พ่อตกใจ..."
สายลมที่พัดมาในยามเย็น มีกลิ่นเลือดจางๆ กระจายอยู่
ใครบางคนในระยะไกลตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "อยู่ที่นี่! อยู่ที่นี่ เจอไท่ซ่างหวงแล้ว!"
ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็รีบวิ่งมาที่สวนอย่างลนลาน
เมื่อครู่เป็นเวลาอาหารเย็น เห็นว่าไท่ซ่างหวงยังไม่ตื่น เจาเหรินตี้จึงสั่งให้บรรดาราชวงศ์ที่เฝ้าตลอดบ่ายไปรับประทานอาหารก่อน
เพียงแค่ระยะเวลาชั่วพริบตา ไท่ซ่างหวงตื่นขึ้นแล้วก็หายไป!
เจาเหรินตี้ยังไม่ทันได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก็ถูกไท่ซ่างหวงคว้าแขนเสื้อเอาไว้แน่น
ชายชราร้องไห้น้ำหูน้ำตาเลอะเต็มหน้าไปหมด "หมอ ได้โปรดช่วยหลิงเอ๋อของข้าด้วย! เมื่อครู่นางได้รับบาดเจ็บจากปีศาจภูเขาดำได้โปรดช่วยนางด้วย!"
เจาเหรินตี้คุ้นเคยกับความเลอะเลือนของไท่ซ่างหวงมานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพ่อตัวเองร้องไห้แบบนี้
หมอเองก็ตกใจเช่นกัน สตรีที่หกล้มในระหว่างตั้งครรภ์อาจไม่จำเป็นต้องแท้งบุตรเสมอไป แต่ปริมาณเลือดออกก็มากเท่ากับของหยุนหลิง จะต้องแท้งบุตรอย่างแน่นอนถึงจะถูก
แต่นางไม่เพียงแต่รักษาครรภ์เอาไว้ได้ แต่ทารกในครรภ์ของนางยังคงที่กว่าหญิงตั้งครรภ์ทั่วไปอีกด้วย
เจาเหรินตี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ตบมือสามครั้งแล้วพูดว่า "ดี!"
มันเป็นเพียงแค่อุบัติที่ไม่ได้ตั้งใจ จิ้งอ๋องกำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว?
เซียวปี้เฉิงใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติได้ รีบถามต่อ "ในเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติ ทำไมนางถึงหมดสติไม่ฟื้น?"
“ตอบท่านอ๋อง ดูเหมือนช่วงนี้พระชายาจะทรงงานหนักเกิน ร่างกายของนางอ่อนแอกว่าคนทั่วไปมาก ดังนั้นนางจึงหมดสติไปเพราะความอ่อนล้า”
เจาเหรินตี้โบกมือ รับสั่งให้ไป "นำคำสั่งข้าไปบอกทุกคน ผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องถอยออกไปให้หมด ให้พระชายาจิ้งพักผ่อนรักษาตนห้องอาหารและโรงหมอเตรียมให้พร้อม รอฟังรับสั่ง!"
องค์หญิงหกที่รู้สึกตัวว่าตัวเองก่อเรื่อง หัวปูดหัวบวมร้องไห้ ถูกเจาเหรินตี้ที่มีสีหน้าบูดบึ้งพาตัวไป
ไท่ซ่างหวงเห็นว่าหยุนหลิงยังไม่ตื่น ทำอย่างไรก็ไม่ยอมไป ชายชราพละกำลังน้อย จึงไปนอนบนเตียงนุ่มในห้องโถงด้านข้างและผล็อยหลับไป เจาเหรินตี้ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงเรียกเฉินหมัวมัวมาดูแลที่ห้องโถง
เฉินหมัวมัวอายุประมาณสี่สิบถึงห้าสิบปี เชี่ยวชาญด้านยา มีหน้าที่รับใช้ไท่ซ่างหวง
ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวปี้เฉิงกับนางนั้นไม่ธรรมดา นานมาแล้วในตอนที่เขาถือกำเนิดสูญเสียมารดาไป ได้รับการเลี้ยงดูจากเฉินหมัวมัว
“ท่านอ๋อง ช่วงดวงตารู้สึกดีขึ้นหรือไม่เพคะ” เฉินหมัวมัวมาที่ห้องโถงเอ่ยถามไถ่อาการเซียวปี้เฉิงไปพลาง ห่มผ้าผืนบางให้กับไท่ซ่างหวงไปพลาง
"เหมือนเดิม มองเห็นเป็นเงาพร่ามัว"
“ไม่รู้ว่าอู่อานกงกลับเข้าเมืองครานี้ พบยาใดที่จะรักษาท่านอ๋องทั้งสองพระองค์ได้หรือไม่”
เฉินหมัวมัวเดินไปที่ด้านข้างของหยุนหลิง พูดต่อ "ข้าได้ยินมาว่าพระชายาไม่เพียงรักษาพิษเย็นของท่านเยียนอ๋องได้ แต่ยังปลุกไท่ซ่างหวงที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดได้ หากสามารถรักษาดวงตาของท่านอ๋องได้คงจะดียิ่งนัก "
หยุนหลิงไปที่วังเพื่อพบกับหวงกุ้ยเฟย นางสวมเสื้อผ้าหนักๆ เฉินหมัวมัวกลัวว่านางจะนอนไม่สบายตัว เตรียมเช็ดตัวให้นางแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สบาย แต่ก็ต้องตกใจเมื่อถอดเสื้อผ้าออก .
“ท่านอ๋อง บาดแผลบนตัวพระชายานี่มันอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ