องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 5

อวบอิ่มนุ่มนิ่ม เหมือนว่าจะไม่ใช่คอ

เขารู้สึกตัวดึงมือกลับ จากนั้นก็ถอยหลังพรวดพราดหลายก้าว แทบอยากจะออกห่างให้ไกลจากหยุนหลิงแปดจั้ง(*1 จั้นเท่ากับ 3.3333333 เมตร) กระทั่งชนกับโต๊ะไม้ที่อยู่ข้างหลังแล้วจึงจะหยุด

“เจ้า...เจ้ามันผู้หญิงไม่รู้จักยางอาย! ในที่โล่งโจ้งเช่นนี้กลับไม่ใส่เสื้อผ้า!”

เสียงฉุนเฉียวของจิ้งอ๋องดังขึ้นในห้อง สีหน้าขมึงตึงของเขาระคนสีแดงจางๆ คล้ายก้นหม้อที่ตบแป้งผัดแก้ม

หยุนหลิงดึงสติกลับ ยักไหล่ สีหน้าเฉยเมย

“เป็นเจ้านั่นแหละที่บุกเข้ามาตอนที่ข้ากำลังใส่ยา ยังกล้าโยนความผิดอีก”

นางหัวเราะเยาะเบาๆ “อีกอย่างก็ไม่ใช่ไม่เคยร่วมหลับนอน ยังทำเป็นไร้เดียงสาอะไรอีก”

ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเคยหลับนอนกับเจ้าของร่างแล้ว มีความทรงจำอยู่ในหัวนาง

ตงชิงนั่งอยู่กับพื้น อ้าปากกว้างจนยัดไข่ไก่เข้าไปได้ เห็นชัดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่สะเทือนทัศนคติทั้งสาม (*ทัศนคติต่อโลก ชีวิตและคุณค่า)ของนางซึ่งยังเป็นเด็กอย่างมาก

“ฉู่! หยุน! หลิง!”

ใบหน้าเซียวปี้เฉิงบิดเบี้ยว แก้มแดงราวกับกุ้งต้มสุก

เขาไม่เคยรู้สึกโชคดีที่ตนเองตาบอดขนาดนี้มาก่อน มิเช่นนั้นเห็นฉู่หยุนหลิงแล้วต้องนอนฝันร้ายติดต่อกันหลายคืนแน่นอน

ด้านนอกประตู เสียงที่ระมัดระวังของลู่ชีทำลายความเก้อเขินในยามนี้

“ท่านอ๋อง เมื่อครู่มีคนมารายงาน บอกว่าท่านเยียนอ๋องฟื้นแล้วขอรับ”

เซียวปี้เฉิงหมุนตัวจะจากไป

เขาค้นหาปากประตูจากความทรงจำ ขณะที่เขาคิดจะเปิดประตูก็หยุดอีก

“ให้นางใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าค่ะ! บ่าวจะรับใช้คุณหนู...พระชายาใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!”

ตงชิงตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นด้วยมือและเท้า หยิบชุดกระโปรงที่อ่อนนุ่มออกมาจากตู้อย่างว่องไว

รอจนหยุนหลิงแต่งตัวเสร็จ เซียวปี้เฉิงจึงหน้าตึงเปิดประตู จากไปด้วยการนำของลู่ชี

วิญญาณของตงชิงที่ตกใจจนเตลิดออกจักรวาลกลับคืนสู่ร่างในที่สุด

“คุณหนู ท่านลงมือลงไม้กับท่านอ๋องได้ยังไงเจ้าคะ! บ่าวก็เพิ่งจะบอกคำกล่าวของคุณชายใหญ่ ท่านทำแบบนี้ แม้แต่จวนเหวินกั๋วกงก็จะคุ้มครองท่านไม่ได้นะเจ้าคะ!”

“คุ้มครองไม่ได้ก็ช่างเถอะ อย่าพูดมาก รีบเทน้ำให้ข้าสักจอกเถอะ”

ไม่ได้ดื่มน้ำทั้งคืน ทั้งยังกินหมั่นโถวติดต่อกันอีกสองลูกใหญ่ หยุนหลิงคอแห้งจะเป็นผุยผงแล้ว

โดยรวมคงคิดว่าหยุนหลิงหมดทางเยียวยาแล้ว ตงชิงจึงมีสีหน้าสิ้นหวัง

“ท่านเยียนอ๋องฟื้นแล้ว เดี๋ยวท่านอ๋องถามความแล้วต้องกลับมาลงโทษคุณหนูแน่ จะทำยังไงดี”

“ลงโทษ?”

หยุนหลิงยิ้มน้อยๆ วางจอกเปล่าในมือ หันไปมองนอกหน้าต่าง หลับตาพัก

“เดี๋ยวเจ้าหมอนั่นก็ต้องมาขอร้องข้าแล้ว”

นี่คุณหนูได้รับความกระทบกระเทือนจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วกระมัง

ตงชิงถอนหายใจยาว วิตกกังวล รู้สึกเพียงอากาศด้านนอกเหมือนกับอารมณ์ของตนในตอนนี้เปี๊ยบ

นอกห้อง สายฝนเย็นเยือกไม่ขาดสาย หนาวเหน็บเข้ากระดูก

เรือนเยี่ยนหุย

ครั้นเซียวปี้เฉิงย่างเข้าลานบ้าน ขุนนางในบ้านนามเฉียวเย่ก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นใบหน้าเซียวปี้เฉิงมีรอยฝ่ามือใหญ่ๆ สองรอยก็ตกตะลึง

“ท่านอ๋อง ใบหน้าท่าน...”

ไม่รอให้เฉียวเย่ตอบ ลู่ชีก็โพล่งปากขึ้นมาด้วยความคับแค้นเต็มอก

“ใต้เท้าเฉียว พระชายาบ้าไปแล้ว! ไม่เพียงลงไม้ลงมือกับท่านเยียนอ๋อง ตอนนี้แม้แต่ท่านอ๋องก็กล้าตบด้วย! ”

เฉียวเย่อึ้ง คิ้วขมวดมุ่น

เซียวปี้เฉิงโบกมือ “อย่าเพิ่งพูดเรื่องพวกนี้ ไปดูอวี้จือก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง”

เยียนอ๋องฟื้นจากการสลบแล้ว ดูท่าทางไม่ค่อยดีนัก สีหน้าเหมือนกำลังพยายามอดทนกับอะไร

หลินซินกำลังฝังเข็มที่ขาให้เขา ด้านข้างเป็นถังยาแช่เท้าร้อนควันโขมง

เพื่อขจัดพิษเย็นในร่างเยียนอ๋องให้หมดสิ้น สองปีมานี้อู่อานกงท่องพเนจรอยู่ข้างนอกตลอด ค้นหายาวิเศษที่จำเป็น

เซียวปี้เฉิงสีหน้างุนงง นึกถึงวิธีการที่หยุนหลิงจี้จุดได้อย่างว่องไวแม่ยำ เอ่ยปากขึ้นหนักๆ

“อาจารย์แม่ บางทีฉู่หยุนหลิงอาจจะเก็บงำซ่อนเร้นจริงๆ พวกเราต่างมองนางผิดแล้ว”

หลินซินตัวสั่นระริก ขยับริมฝีปากแต่พูดไม่ออก

เซียวปี้เฉิงไม่ใช่คนที่จะสรุปอะไรโดยง่าย

เยียนอ๋องอดกลั้นหึหลายหน มองเซียวปี้เฉิงที่ยิ้มเจื่อนด้วยความจนปัญญา

“พี่สาม ข้ารู้ว่าท่านเกลียดฉู่หยุนหลิง ข้าก็แค้นที่นางทำท่านกับหยุนหานเสียเรื่องเหมือนกัน แต่ตอนนี้...”

ความทุกข์จากพิษเย็นทรมานเขานานแสนนานมาแล้ว

“อวี้จือ เจ้าไม่ต้องพูด ข้าจะไปตามนางมาขจัดพิษเย็นให้เจ้า”

“พี่สาม ข้าผิดต่อท่าน” เยียนอ๋องยังคงรู้สึกผิดเล็กน้อย “ฉู่หยุนหลิงทำร้ายท่านถึงเพียงนี้ แต่ข้ากลับให้ท่านไปขอร้องนางเพื่อข้า”

เมื่อกล่าวถึงฉู่หยุนหาน เซียวปี้เฉิงก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ในหัวผุดเสียงฉู่หยุนหลิงขึ้นมา

คืนวันวิวาห์ ในถ้อยคำที่ก่นด่าฉู่หยุนหานระคนไปด้วยความโกรธและความเคียดแค้นที่สิ้นหวังยิ่ง

ความผิดปกติและความซับซ้อนปราดผ่านสีหน้าเซียวปี้เฉิงและหายไปในพริบตา

จากนั้นเขาก็หึเย็นเสียงหนึ่ง “ฉู่หยุนหลิงทำร้ายเจ้า เดิมก็ควรทำคุณถ่ายโทษอยู่แล้ว”

เพราะเซียวปี้เฉิงยังกลับเรือนหลั่นชิงด้วยรอยฝ่ามือแดงสองรอยมาเลย สีหน้าเย็นเยียบจนสามารถทำให้คนหนาวตาย

“อ้าว แขกผู้สูงส่ง”

หยุนหลิงนอนตะแคงด้วยความเกียจคร้านบนเก้าอี้โยก ยิ้มตาหยีกวักมือกับเขา แม้รู้ว่าเซียวปี้เฉิงมองไม่เห็นก็ตามที

ตงชิงสะดุ้งโหยง หัวใจที่กำลังวาบหวิวในตอนแรกชักขึ้นถึงคอหอย บังเกิดความสิ้นหวังไร้ขอบเขต

มาแล้วๆ! มหันตภัยมาเยือนแล้ว!

แต่กลับคิดไม่ถึง หลังจากเซียวปี้เฉิงนิ่งงันครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็เอ่ยเสียงหนัก “ก่อนหน้านี้เป็นข้าที่เข้าใจเจ้าผิด ข้าขอโทษเจ้า”

ตงชิงตะลึงงัน เบิกตาโพลงอย่างเหลือเชื่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ