เรือนเยี่ยนหุย
เยียนอ๋องกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้นอนที่ทำจากไม้ สีหน้าอดทนต่อความทรมาน เจ็บขาขวามากชัดเจน
ครั้นเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นหยุนหลิง นึกถึงสภาพดูไม่ได้ของตัวเองที่ถูก ‘ผีร้ายชุดแดง’ มัดในคืนนั้นแล้วก็แยกเขี้ยวยิงฟัน
“นังหญิงอัปลักษณ์ ออกบ้านทำไมไม่รู้จักใส่ผ้าคลุมหน้าฮะ!”
ความหมายจากถ้อยคำคืออัปลักษณ์ให้เขาเห็นแล้ว
เซียวปี้เฉิงชะงักเล็กน้อย ฉู่หยุนหลิงไม่ใส่ผ้าคลุมหน้า?
พวกเขาไม่ได้ไปมาหาสู่กันมาก ในความทรงจำ ฉู่หยุนหลิงมักต้องใส่ผ้าคลุมหน้าจึงยอมพบคนเสมอ กระทั่งว่ายังจงใจทิ้งปอยผมตรงหน้าผาก แทบอยากซ่อนเร้นใบหน้าทั้งดวง
เมื่อก่อนหากผู้ใดกล้าแตะต้องผ้าคลุมหน้า เช่นนั้นก็เหมือนกับการเอาชีวิตของนาง
ตอนเด็กๆ องค์หญิงหกเคยอยากรู้อยากเห็นดึงผ้าคลุมหน้าของฉู่หยุนหลิงออก ถูกนางผลักล้มไม่เป็นท่า เป็นที่อับอายขายหน้าอย่างใหญ่หลวง
หยุนหลิงนั่งลงบีบขาทั้งสองของเยียนอ๋อง ตรวจสภาพการณ์ของเขา ไม่เงยหน้าสักครา
“ใส่แล้วเกะกะ ส่งผลกับการฝังเข็มเจ้า”
เยียนอ๋องคิดไม่ถึงว่าหยุนหลิงจะทำเพื่อตน นึกถึงที่เมื่อครู่เรียกนางว่าหญิงอัปลักษณ์แล้วสีหน้าก็มีความไม่เป็นธรรมชาติแวบผ่านเล็กน้อย
“ผลลัพธ์การฝังเข็มครั้งที่แล้วไม่เลว ตอนนี้เริ่มฝังเข็มครั้งที่สองกันเถอะ”
หยุนหลิงลุกขึ้นยืนมองหลินซินที่มองสำรวจตรวจสอบนางอยู่ด้านข้างเงียบๆ มาตลอด
“รบกวนอาจารย์หลินออกไปก่อน วิชาฝังเข็มของข้าไม่เผยแพร่ให้ผู้อื่น”
คนผู้นี้รู้วิชาการแพทย์ หยุนหลิงไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นอะไรขณะที่นางกำลังฝังเข็ม
หลินซินขมวดคิ้วไม่พอใจนิดๆ แต่ก็ผ่อนคิ้วอย่างรวดเร็ว นางมีความสงสัยอยู่เต็มอก แต่การขับพิษให้เยียนอ๋องในตอนนี้สำคัญกว่า
เซียวปี้เฉิงเป็นคนตาบอด ไม่ต้องออกไป รอจนหลินซินออกไปอยู่ที่ห้องโถงด้านข้างแล้ว หยุนหลิงก็เริ่มเปิดห่อเข็มที่เตรียมอยู่บนโต๊ะแต่แรกออก
เยียนอ๋องมองนางปั่นเข็ม อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
“คงไม่เจ็บเหมือนคราวที่แล้วกระมัง เจ้าอย่าเพิ่งฝังเข็มนะ ให้ข้าทำใจก่อน”
ความรู้สึกนั้น ทรมานยิ่งกว่าพิษเย็นกำเริบนัก
หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นถูกซาลาเปาอุดปาก ดีไม่ดีเขาอาจทนไม่ไหวกัดลิ้นตัวเองตายไปเลย
หยุนหลิงมองเขาอย่างขบขัน “เจ็บแค่ครั้งแรกเท่านั้น การรักษาหลังจากนั้นเจ้าจะรู้สึกสบายมาก”
เพราะสัมผัสพลังวิญญาณเป็นครั้งแรก ร่างกายและสมองจึงป้องกันตามสัญชาตญาณ
“จริงหรือ”
สีหน้าเยียนอ๋องยังแคลงใจ เข็มเงินก็ปักลงตรงจุดฝังเข็มแต่ละจุดบนขาซ้ายเรียบร้อยแล้ว
หยุนหลิงไม่ได้ตอบ ขณะที่นางกำลังทำเรื่องอย่างนี้จะตั้งใจมาก เพราะการควบคุมพลังวิญญาณจำเป็นต้องสงบจิตรวบรวมสมาธิให้ดี
นางถ่ายพลังวิญญาณหลายสายลงบนเข็มเงิน แล้วให้มันเข้าสู่ร่างกายเยียนอ๋องช้าๆ
แค่ไม่จงใจใช้พลังวิญญาณทำลายอวัยวะและเส้นประสาทของเยียนอ๋อง เยียนอ๋องก็จะไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่นิดเดียว
เยียนอ๋องรู้สึกเพียงจุดฝังเข็มแต่ละจุดมีความรู้สึกชาๆ ถ่ายทอดมา คันนิดๆ จากนั้นขาทั้งสองก็เหมือนจะอบอุ่นขึ้น คิ้วที่ขมวดมุ่นของเขาผ่อนออกช้าๆ
“เจ้านี่ก็มีความสามารถอยู่เหมือนกันนะ”
เซียวปี้เฉิงมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ความผ่อนคลายจากน้ำเสียงของเยียนอ๋องทำให้เขารู้ ว่าการฝังเข็มของฉู่หยุนหลิงสัมฤทธิผลรวดเร็ว ผลลัพธ์ดีเยี่ยม
เขาทึ่ง แม้แต่อู่อานกงก็ยังปวดเศียรเวียนเกล้ากับพิษเย็น แต่นางกลับแก้ไขได้โดยง่ายดาย
หยุนหลิงยังคงตั้งสมาธิไม่พูดจา รอจนเตรียมการพร้อมสรรพ นางก็ใช้แขนเสื้อบดบังการมองเห็นของเยียนอ๋องแบบเนียนๆ รวมพลังวิญญาณจนกลายเป็นเข็มยาวสีขาวจางปรากฏอยู่ในมืออีกครั้ง
เซียวปี้เฉิงที่เงียบอยู่แต่เดิม จู่ๆ ก็หันไปมองหยุนหลิง นัยน์ตาหดเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้เอง คลองจักษุที่เดิมมืดมิดของเขาจู่ๆ ก็ปรากฏแสงนวลสีขาวสายหนึ่ง แต่แพล็บเดียวก็หายไปแล้ว
เขาคิดไปเองหรือ
เยียนอ๋องสูดลมเย็น แต่ไม่ใช่เพราะเจ็บ
แต่เซียวปี้เฉิงกลับรู้สึกว่าการที่ฉู่หยุนหลิงเรียนวิชาแพทย์ไม่เหมือนนิสัยของนาง ในความทรงจำของเขานางรักการใช้แส้มากกว่า
หากสาวใช้บ่าวไพร่คนไหนวิพากษ์วิจารณ์ใบหน้าของนางก็จะต้องถูกเฆี่ยนตี และนี่ก็คือสาเหตุหนึ่งที่เขาไม่ชอบฉู่หยุนหลิง
“ทำไมเจ้าถึงเรียนวิชาแพทย์”
“ทำไมถึงเรียน”
หยุนหลิงชะงักเล็กน้อย ในหัวพลันปรากฏใบหน้าสองสามดวง ในใจเกิดคลื่นอารมณ์เล็กน้อย
หลังจากนิ่งงันไปพักหนึ่ง นางก็เปิดริมฝีปากแดง
“เพราะข้ามีคนที่ต้องการปกป้อง”
เพื่อให้พวกนางไม่ต้องทนทุกข์จากความทรมานของการฉีดยา เพื่อจะได้หลุดพ้นจากการควบคุมขององค์กร
เสียงของหยุนหลิงแผ่วเบายิ่ง แต่กลับอ่อนโยนและแน่วแน่
เซียวปี้เฉิงไม่เคยคิดว่าจะได้รับคำตอบอย่างนี้ สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ราวกับได้รู้จักกับนางเป็นครั้งแรก
“ฉู่หยุนหลิง! พูดตามจริง เจ้าทำให้ข้าต้องมองดูเจ้าใหม่อยู่บ้างแล้ว”
เยียนอ๋องมองนาง แววตาสว่างไสวแฝงรอยยิ้มและความจริงจังสองส่วน “ถ้าเจ้าไม่ได้ทำเรื่องอย่างนั้นในงานเลี้ยงเทศกาลโคมไฟ ไม่แน่ว่าพวกเราจะคบหากันอย่างมีความสุขมาก”
หยุนหลิงเหลือบตามองเขาทีหนึ่ง พูดเรียบ “ข้าก็บอกแต่แรกแล้วว่าฉู่หยุนหานเป็นคนทำเรื่องในคืนงานเลี้ยง ไม่ใช่ข้า”
สมองของนางมีความทรงจำของฉู่หยุนหลิง ไม่ใช่เจ้าของร่างทำจริงๆ
รอยยิ้มในดวงตาเยียนอ๋องชะงัก บรรยากาศในห้องผ่อนคลายในตอนแรกหายไปในพริบตา
“ฉู่หยุนหลิง เข้าขับพิษเย็นให้ข้า เข้าซาบซึ้งใจนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอาศัยเรื่องนี้ปรักปรำหยุนหานได้นะ!”
หยุนหลิงกลอกลูกตาในใจ
เจ้าเด็กน่าตายนี่ เมื่อกี้น่าจะจิ้มเข้าให้ตายไปเสียเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ