ซ่งอวิ๋นเหยาหัวเราะ
"จดหมายที่เขียนกลับเมืองหลวงข้าก็แค่ส่งมาเผื่อๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกลับมาเมืองหลวงแล้วจริงๆ"
"ที่แท้ท่านหญิงอวิ๋นเหยาก็เขียนจดหมายให้จวนอ๋องเจวี้ยน แล้วให้อ๋องเจวี้ยนออกมารับท่านหรือ?"
ซ่งอวิ๋นเหยาพยักหน้า
"ถ้างั้น ข้าไปดูท่านพ่อก่อนว่าจับชีพจรเสร็จแล้วหรือยัง" หลี่จื่อเหยาลุกขึ้นออกวิ่งทันที
"ท่านหญิง แม่นางหลี่ทำไมถึงดูกลัวเสียขนาดนั้น?" สาวใช้เอ่ยกับซ่งอวิ๋นเหยา
ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็เม้มปากยิ้มๆ
"แม่นางหลี่เป็นคนตรงไปตรงมา หลันยวนกลับเมืองหลวง ถ้าเดี๋ยวนางเห็นหลันยวนเข้า อาจจะทำอะไรขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ก็ได้ แล้วหลันยวนเองก็นิสัยเย็นชาด้วย คงจะไม่ไว้หน้าแม่นางหลี่เป็นแน่ คงจะตำหนินางเอา"
ความหมายคำพูดนี้ของนางก็คือ หลี่จื่อเหยาอาจจะเจอกับอ๋องเจวี้ยนแล้ว แล้วถูกความหล่อเหลาของเขาดึงดูดเอา ดังนั้นจึงอยากจะใกล้ชิดเขา แต่ด้วยนิสัยนั้นของอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ยอมให้หญิงสาวคนไหนเข้าใกล้เลย
ดังนั้นเขาคงจะสั่งสอนหลี่จื่อเหยามาแล้ว
หลี่จื่อเหยาจึงกลัวอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาหน่อยๆ กระมัง?
สาวใช้อิ๋นหลิ่วพอได้ยินคำพูดนี้ก็เม้มปากหัวเราะขึ้นมา พูดกับซ่งอวิ๋นเหยาว่า "ดูท่า อ๋องเจวี้ยนคงจะเป็นเหมือนแต่ก่อน เคร่งขรึมกับหญิงสาวคนอื่น แต่พอเห็นท่านหญิงก็จะอ่อนโยนขึ้นมา"
ซ่งอวิ๋นเหยาหัวเราะขึ้นมาเสียงหนึ่ง แอบต่อว่า "สาวใช้อย่างเจ้ากล้ามาจัดลำดับตัวอ๋องเจวี้ยนด้วยหรือ? ระวังข้าจะไปฟ้องเขาให้"
"ท่านหญิงไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถอะ"
พวกนางนายบ่าวคุยจ้อต่อกระซิกกันที่นี่ อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ หมอเทวดาหลี่หน้าผากกลับเหงื่อผุดซึม
คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาและยื่นมือมาให้เขาจับชีพจรอยู่ในชุดคลุมสีขาว คลุมผ้าคลุมไหล่ขนจิ้งจอกบนศีรษะสวมหมวกผ้าคลุม ใบหน้าหลังผ้าเลือนลางดูไม่ชัดเจน
แต่ดูจากรูปร่างของเขาก็หล่อเหลางดงามราวต้นสน ต่อให้มองไม่เห็นหน้าตา ก็ยังรู้สึกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา
"หมอเทวดาหลี่?"
เขาเอ่ยขึ้น น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย ราวกับว่าป่วยเรื่อรังมานานจนเสียงเปลี่ยน ดูอ่อนแอหน่อยๆ
บนตัวชายคนนี้มีกลิ่นยา ดมแล้วกลิ่นไม่ได้แย่นัก
ความบีบคั้นนี้ไม่ใช่ความหวาดกลัว แต่เป็นความรู้สึกต่ำต้อยที่กลัวว่าตนเองจะทำผิดพลาดจนถูกหัวเราะเยาะขณะที่เผชิญหน้ากับคนที่มีความรู้สูงส่งกว่า
คนในเมืองหลวงพอได้รับข่าว ก็คิดกันว่าคนท่านหญิงอวิ๋นเหยาพากลับมาด้วยกันคงมีความสัมพันธ์กับนางไม่เลวนัก เป็นเพื่อนกัน
แต่พอมาถึงี่นี่ หลังจากได้เห็นท่านเสิ่น หมอเทวดาหลี่จึงพบว่าเรื่องราวไม่ใช่เช่นนั้น
ต่อให้นั่งอยู่ในเพิงน้ำชาแห่งนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาก็ยังนั่งห่างจากท่านเสิ่นคนนี้อยู่หนึ่งโต๊ะ
องค์รักษ์ด้านนอกเหล่านั้นก็ล้วนเป็นคนของท่านเสิ่น
เวลาที่ซ่งอวิ๋นเหยาพูดกับท่านเสิ่นก็ดูเป็นพิธีทางการ ฟังแล้วความสัมพันธ์ก็ธรรมดา แต่ไม่ใช่ใกล้ชิดกันแน่ๆ
ถ้าจะบอกว่าท่านเสิ่นคนนี้ติดตามซ่งอวิ๋นเหยามา หมอเทวดาหลี่ไม่เชื่ออยู่หน่อยๆ
กระทั่งซ่งอวิ๋นเหยาที่ก่อนหน้านี้มีความหยิ่งทะนงอยู่ในเมืองหลวง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความสัมพันธ์กับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อไม่เลว ก็ยังต้องมีเคารพมีมารยาทต่อท่านเสิ่น ตัวตนฐานะของท่านเสิ่นทำเอาหมอเทวดาหลี่อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาแล้ว
เดิมทีหมอเทวดาหลี่ก็หยิ่งทะนงเช่นกัน อยู่ต่อหน้าท่านเสิ่นก็ยังต้องพูดจาอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะพูดอะไรผิดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
รอต่อจากตอน 415 นานแล้ว ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว จะให้สนับสนุนยังไงถึงจะลงต่อคะ...
ไม่ลงต่อเหรอค่ะรองนานแล้วค่ะ...
อัพต่อหน่อยจ้า...
ตามอ่านมายังไม่อัพจบสักเรื่องเลยเว็ปนี้อะ😒😒...
ทำยังไงถึงจะได้ต่อคะ สนุกดีค่ะ...
อัพต่อนะคะ...
อัพต่อนะคะ รอนางเอกฟาดนางอิจฉาอยู่ หายไปนานๆใจคอไม่ค่อยดี 😅...
อัพต่อเถอะนะคะ..กำลังรอฟู่จาวหนิงฟาดซ่งอวิ๋นเหยาอย่าให้รอเก้อเลยนะคะ..พรีสสสส😅😅😅😅...
เออ รู้จักคนมากมาย แล้วยังไงต่อ...
คนรักเก่าของท่านอ๋องนี่น่ารังเกียจจริงๆ...