ตอนที่ 532 ไม่ฝืน
วันขึ้นปีใหม่ของปี 2017 เพิ่งผ่านพ้นไป ลู่เฉินบินกลับมาที่ฮ่องกง
การทำเอฟเฟกต์พิเศษของหนังเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ กำลังรีบทำอย่างหามรุ่งหามค่ำ งานเบื้องหลังรวมถึงการตัดต่อ การใส่เสียงและดนตรีประกอบ เขาที่เป็นบุคคลสำคัญของงานจะหายหน้าไปนานไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่องานที่วางแผนไว้
ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงฮ่องกง ลู่เฉินไม่ได้รีบไปที่สตูดิโอทันที กลับไปที่บริษัทซิงฮุยมูฟวี่แทน
เอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ ในเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ ยกให้เป็นหน้าที่ของซิงฮุยมูฟวี่ทำทั้งหมด ซิงฮุยมูฟวี่แม้ไม่ใช่บริษัทผลิตเอฟเฟกต์ภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง แต่มีความสามารถและประสบการณ์มากพอ เคยร่วมงานทำเอฟเฟกต์ให้กับละครฟอร์มยักษ์หลายเรื่องของจีนแผ่นดินใหญ่ มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง
ในฐานะภาพยนตร์รักแฟนตาซีที่ดัดแปลงมาจาก ‘เรื่องเล่าจากห้องหนังสือ’ เรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ มีฉากที่ต้องทำเอฟเฟกต์พิเศษไม่มาก แต่งานเอฟเฟกต์พิเศษนั้นคุณภาพเป็นไปตามราคา ดังนั้นลู่เฉินจึงชัดเจนในเรื่องนี้ เขาตั้งงบประมาณไว้ที่สิบล้าน
หนังหรือละครหลายเรื่องทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง มักไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านนี้ ด้านหนึ่งประกาศว่าใช้มาตรฐานเดียวกับฮอลลีวูด แต่อีกด้านกลับหลอกลวงคนดู จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘เอฟเฟกต์สองสลึง’ ขึ้น ทำให้คนดูผิดหวัง สุดท้ายคือได้ไม่คุ้มเสีย
ลู่เฉินไม่มีทางทำพลาดแบบไร้สมองเช่นนี้แน่นอน
มาตรฐานของซิงฮุยมูฟวี่ถือว่าไม่เลว ผลงานตอนสั้นๆ ที่ทำส่งให้ลู่เฉินดูก่อนล่วงหน้านั้นเป็นที่น่าพอใจ
“ผู้กำกับวั่น ลำบากคุณแล้ว!”
ตั้งแต่ลงมือทำหนัง ‘โปเยโปโลเย’ ผู้กำกับวั่นที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังงานทั้งหมดแทบไม่มีเวลาพักผ่อน แม้แต่วันปีใหม่ยังต้องอยู่ในฮ่องกง เพื่อควบคุมงานเบื้องหลังการตัดต่อหนังเรื่องนี้ทั้งหมด
ถ้าไม่มีความอดทนและความพยายามของเขา ลู่เฉินคงไม่ได้สบายเท่านี้ การถ่ายทำ ‘โปเยโปโลเย’ ต้องมีปัญหาเป็นแน่
ดังนั้นลู่เฉินที่เพิ่งบินกลับมาจากปักกิ่งเมื่อได้พบวั่นเสี่ยวเฉวียนที่ซิงฮุยมูฟวี่ จึงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
ถ้าเป็นเรื่องความรักต่อภาพยนตร์ เขาสู้วั่นเสี่ยวเฉวียนไม่ได้
ทว่าทุ่มเทไปมากมาย วั่นเสี่ยวเฉวียนกลับไม่อาจมีชื่อในหน้าจอภาพยนตร์ได้
แต่วั่นเสี่ยวเฉวียนยอมรับแต่โดยดี เขาหัวเราะพลางบอกว่า “ไม่ลำบากหรอก หนังเรื่องนี้มีโอกาสจะขายดี ลำบากนิดหน่อยยังไงก็คุ้ม เพียงแต่…”
เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อว่า “จากความก้าวหน้าของการตัดต่อตอนนี้ กลัวว่าจะไม่ทันช่วงตรุษจีน”
วันที่ 27 มกราคมเป็นวันส่งท้ายปีเก่าจีน จากตอนนี้จนถึงเทศกาลหยวนเซียวมีเวลาอีกแค่เดือนกว่า แต่คุณภาพงานที่ลู่เฉินต้องการ ต่อให้ทางซิงฮุยมูฟวี่ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีก็อาจจะไม่ทันให้ ‘โปเยโปโลเย’ ได้ออกฉายในช่วงตรุษจีน
เพราะถึงงานตัดต่อเอฟเฟกต์พิเศษเสร็จสิ้นลง การใส่เสียงและดนตรีประกอบสมบูรณ์ ข้างหลังยังมีการยื่นคำร้องขออนุมัติออกฉาย เข้าคิวฉาย การโปรโมตต่างๆ เป็นต้น เวลากระชั้นชิดเกินไป
นอกเสียจากลดคุณภาพในการทำงานเบื้องหลังลง
“ไม่ทันตรุษจีนก็ไม่เป็นไร!”
กับเรื่องนี้ลู่เฉินตอบอย่างชัดเจนว่า “ต้องรักษาคุณภาพของงานให้ดี ผมต้องการแค่ผลงานชั้นยอด”
ตลาดภาพยนตร์ในประเทศเฟื่องฟู ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่ยอดการจำหน่ายตั๋วหนังพุ่งกระฉูด เดิมทีลู่เฉินวางแผนว่าจะอาศัยแผนสนับสนุนภาพยนตร์ของรัฐบาลท้องถิ่นมาช่วยให้เขาได้ฉายในช่วงตรุษจีนนี้
แต่เขาจะไม่ยอมให้มาตรฐานของผลงานถูกลดลงเด็ดขาด
ในโลกแห่งความฝันของลู่เฉิน ‘โปเยโปโลเย’ ฉบับดั้งเดิมเป็นผลงานคลาสสิค วันนี้เขาได้นำหนังเรื่องนี้มาสร้างขึ้นจริง มีแต่จะทำให้ดีกว่าเดิมไม่ยอมให้ผลงานคลาสสิคถูกย่ำยีเด็ดขาด
ช่วงแรกทุ่มเทความพยายามไปมากขนาดนั้น หากงานตอนท้ายทำแบบส่งๆ เพื่อให้เข้าทันฉาย ลู่เฉินคงไม่ยอมให้อภัยตัวเอง
ท่าทีของเขาทำให้วั่นเสี่ยวเฉวียนวางใจ
วั่นเสี่ยวเฉวียนอยู่ในวงการมานานหลายปี ถ่ายทำหนังมาแล้วไม่รู้กี่เรื่อง เคยพบนักลงทุนและผู้ผลิตที่ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จเร็ว เสนอเงื่อนไขที่ไม่สมเหตุสมผลต่างๆ เพื่อรีบถอนทุนคืน
ในความคิดเห็นของวั่นเสี่ยวเฉวียน ภาพยนตร์จีนแย่ๆ ที่เกิดขึ้นมามากมาย คนพวกนี้สมควรที่จะต้องรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง
เขาเคยกังวลว่าลู่เฉินยังเป็นเด็กหนุ่มใจร้อน อาจจะอยากได้เงินทุนคืนเร็วๆ กลัวว่าจะไม่ค่อยใส่ใจกับงานเบื้องหลัง
เธอรายงานแจกแจงอย่างชัดเจนให้ลู่เฉินฟังขณะอยู่ในรถ
“รายการบันเทิงกั่งซิงเชิญคุณไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับแขกของบริษัทพวกเขาคืนพรุ่งนี้…”
“นี่เป็นนามบัตรของประธานกรรมการบริษัทเป่าลู่กรุ๊ป เขาอยากจะพบกับคุณ…”
“แล้วก็ใบนี้ คุณซูจิ้งส่งมาด้วยตัวเองหวังว่าคุณจะไปร่วมงานแถลงข่าวอัลบั้มใหม่ของเธอ”
“แล้วก็…”
“เดี๋ยวก่อน!”
ลู่เฉินขัดจังหวะเธอ “เธอบอกว่าพี่ซูจิ้งเหรอ”
“เอ่อ…ใช่ค่ะ”
หลีเจินอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็คิดตามทัน นำเอาบัตรเชิญใบนั้นออกมายื่นให้ลู่เฉิน
ลู่เฉินรับมาดูอย่างละเอียด งานแถลงข่าวอัลบั้มใหม่ของซูจิ้งเป็นคืนพรุ่งนี้
ซูจิ้งเป็นเพื่อนในวงการคนแรกที่ลู่เฉินได้รู้จักในฮ่องกง เธอเข้าวงการเร็ว หลังจากประสบควาสำเร็จก็แต่งงานเข้าตระกูลใหญ่ ต่อมาหย่าร้างกับสามีแล้วหวนคืนสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง
ซูจิ้งตั้งใจกับงานการกุศลมาก มีเส้นสายมากมายในวงการ เธอยังเป็นเพื่อนกับเฉินเฟยเอ๋อร์อีกด้วย
แม้ยังมีความสัมพันธ์ในชั้นนี้อยู่ แต่เพราะลู่เฉินกับเธอเคยดื่มกาแฟโดยลำพังแล้วถูกปาปารัสซี่แอบถ่าย สุดท้ายกลายเป็นข่าวกอสซิป ตอนหลังลู่เฉินจึงไม่ค่อยได้ติดต่อเธอมากนัก
แต่งานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้มใหม่ของฝ่ายนั้น เกี่ยวข้องกับเขาเสียด้วยสิ
………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar