โม่เยว่ขมวดคิ้ว "ห๊ะ? เจ้ารู้หรือ?"
"เจ้าลองคิดดู นางได้แตกหักกับจวนยิ่งกั๋วกงมานานแล้ว อยู่ในเมืองจิงก็นับว่าไร้ญาติขาดมิตร ผู้หญิงตัวคนเดียวพาบุตรไปด้วย จะสามารถไปอยู่ที่ไหนได้หรือ?"
โม่เฟยเฟยค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์
"โรงเตี๊ยม?"
ผู้หญิงคนนั้นมีเงินมากมาย สามารถเหมาโรงเตี๊ยมทั้งหมดยังได้เลย!
โม่เยว่ขมวดคิ้ว "ก็เป็นไปได้ นางอาจจะซื้อด้วยทรัพย์สินของตนเอง"
โม่เฟยเฟย: "......"
ยากเกินไปแล้ว
พี่เจ็ดของตนเองบริหารบ้านเมืองได้อย่างราบรื่นดั่งใจคิด จนเสด็จพ่อยังชมเชยว่าเป็น"พรสวรรค์" แต่ในเรื่องความรักความสัมพันธ์ กลับเป็นคนไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง
ไม่คลาดเคลื่อนแน่!
"เช่นนั้นก็ต้องเป็นตระกูลกู้อย่างแน่นอน!"
โม่เฟยเฟยกระทืบเท้าด้วยความโกรธ "นอกเสียจากตระกูลกู้ นางจะสามารถไปไหนได้อีกหรือ?"
ในตอนแรกโม่เยว่ก็ยังไม่เห็นด้วย
แต่พอคิดอีกที......
ถ้าหากเขาออกม้าไปรับ (ไม่สิ) ไปจับนางกลับมา ก็คงจะมีเพียงกู้ป๋อจ้งเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องนางได้!
เมื่อคิดเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้อย่างมากที่นางจะไปที่ตระกูลกู้
เป็นอย่างที่โม่เฟยเฟยกับโม่เยว่คาดเดา ขณะนี้หยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่าอยู่ที่ตระกูลกู้จริงๆ เห็นสองแม่ลูกกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กู้ป๋อจ้งก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดใจ
"นี่คืออ๋องหมิงทำอะไรพวกเจ้าหรือ หิวมากี่วันแล้วเนี่ย? เหมือนกับหมาป่าผู้หิวโหยเสียจริงๆ"
"พวกข้าไม่ได้หิวหรอก เพียงแต่เมื่อคืนข้าโมโหมากไปหน่อย ฉะนั้นจึงไม่ได้กินอะไรเลย"
นางกินข้าวคำใหญ่ไปพลาง ตอบกลับอย่างไม่ชัดเจนไปพลาง "โมโหมาทั้งคืน ในท้องเต็มไปด้วยลม อีกทั้งยังผายลมตลอดทั้งคืน"
"วางแผนพาหยวนเป่าหนีออกมาจากเรือนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ข้าก็รู้สึกหิวแล้ว"
เมื่อคนโมโห ก็มักจะผายลม
ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด ก็เพื่อลมที่อยู่เต็มท้อง......
ฉะนั้น เมื่อคืนหยุนหว่านหนิงที่นอนอยู่ในผ้าห่ม จึงทักทายบรรพบุรุษของโม่เยว่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผายลมครั้งแล้วครั้งเล่า
สุดท้ายกระทั่งหยวนเป่าก็ยังตกใจตื่น ตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นเหม็นผายลมของนางจึงให้นางเก็บข้าวของ พวกเขาต้องการจะออกจาก"ขุมนรก"นั่น
ถูกต้องแล้ว ที่พวกเขาหนีออกมาจากเรือน ทั้งหมดล้วนเป็นความคิดของหยวนเป่า!
เห็นการกระทำที่"ใจกว้าง"ของหยุนหว่านหนิง ได้ฟังคำตอบอัน"หยาบคาย"ของนาง กู้ป๋อจ้งก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
นึกถึงปีนั้น ตอนที่บุตรสาวของเขาออกเรือน ช่างเป็นคนสุภาพอ่อนโยนอย่างมาก
แล้วทำไมหลานสาวถึงได้หยาบคายเช่นนี้ล่ะ?
หญิงสาวที่แสนดี ล้วนถูกจวนยิ่งกั๋วกงทำให้เจ็บปวดจนกลายเป็นอะไรไปแล้วหรือ?
หนิงเอ๋อร์ก็ถูกคนของตระกูลหยุนทำร้าย!
กู้ป๋อจ้งคิดในใจว่า: หากไม่สามารถช่วยชีวิตหนิงเอ๋อร์ได้ ก็เกรงว่าชีวิตนี้จะไม่สง่างามได้เหมือนแม่ของนาง มีเพียงหยวนเป่าเด็กเปรตคนนี้ ที่ยังสามารถ"ช่วยชีวิต"ได้
เขาหันหน้าไปมองหยวนเป่า "เช่นนั้นเจ้าล่ะ?"
"อ๋องหมิงไม่ได้ให้ข้าวเจ้ากินหรือ?"
"ข้ากินแล้ว"
หยวนเป่าวางน่องไก่ในมือลง แล้วตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า "แต่เมื่อคืนเห็นพวกเขาทะเลาะกัน พอข้าโมโห......จึงโมโหจนอาเจียนออกมา"
กู้ป๋อจ้ง: "......."
เป็นแม่ลูกคู่หนึ่งที่น่าสงสารจริงๆ!
"ท่านตาทวด ไม่ว่าอย่างไรท่านก็จะต้องปกป้องพวกเรา"
หยุนหว่านหนิงยื่นมือที่มันวาวออกไป และคว้าแขนเสื้อของกู้ป๋อจ้งอย่างน่าสงสาร "บัดนี้มีเพียงแค่ท่านเท่านั้น ที่จะสามารถปกป้องพวกข้าได้!"
"ถ้าหากไอ้สารเลวโม่เยว่นั่นพาพวกข้ากลับไป จะต้องทรมานพวกข้าจนตายอย่างแน่นอน!"
มองคราบน้ำมันบนมือของนางที่ถูกเช็ดอยู่บนแขนเสื้อของเขา กู้ป๋อจ้งก็แสดงสีหน้ารังเกียจ "ตกลงๆๆ"
"ตาทวดช่างใจดีจริงๆ!"
หยวนเป่าปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ แล้วใช้ปากมันเยิ้มจูบลงไปบนใบหน้าของเขาอย่างแรง
กู้ไป๋จงยิ่งรู้สึกรังเกียจ และกระโดดหนีออกไป
……
ไม่นาน โม่เยว่ก็มาหาถึงที่บ้านจริง
โม่เยว่ไม่ได้โกรธเคือง เพียงแต่ยิ้มเล็กน้อย "ท่านรองกู้มีความสามารถในการพูดจาเช่นนี้ ควรจะเข้าราชสำนักไปเป็นขุนนางจึงจะเหมาะสม"
"ท่านอ๋องชื่นชมเกินไปแล้ว แต่ข้าไม่ได้สนใจหรอก"
มือทั้งสองของกู้หมิงซ้อนทับกัน วางอยู่บนเข่า
พระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว
แสงแดดสาดส่องมาบนใบหน้าของเขา ส่องเห็นถึงความขาวซีดของคนที่มีความผิดปกติทางร่างกายเล็กน้อย แต่ริมฝีปากของเขา ทั้งแดงและดูมีเสน่ห์ยั่วยวนเล็กน้อย
กู้หมิงผู้นี้ ดูเหมือนอ่อนโยน แต่ความจริงก็ยากที่จะรับมือ!
โม่เยว่มองเขาอย่างลึกซึ้ง "ท่านรองกู้ยังไม่ได้บอกข้าเลยว่า หนิงเอ๋อร์และหยวนเป่าอยู่ที่จวนหรือไม่"
"อยู่หรือไม่อยู่ ท่านอ๋องจะสามารถทำอย่างไรได้หรือ?"
กู้หมิงยิ้มเล็กน้อย "ในเวลากลางวันแสกๆ หรือว่าท่านอ๋องจะใช้อำนาจบีบบังคับพาพวกเขากลับไปเช่นนั้นหรือ?"
ความหมายนี้ ก็คืออยู่
ภายในใจของโม่เยว่จึงรู้สึกโล่งอก
เขาโกรธหยุนหว่านหนิงจนกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ไม่อาจไม่แสดงรอยยิ้มต่อหน้ากู้หมิงได้ "ข้าก็ไม่ใช่คนไม่ฟังเหตุผลคนอื่นหรอก! ท่านรองกู้ได้โปรดส่งคนไปสอบถามให้หน่อยว่า นางเต็มใจที่จะกลับไปกับข้าหรือไม่"
คำพูดนี้ฟังดูเหมือนกับขอร้อง และไม่ใช่การออกคำสั่งบัญชาการ
กู้หมิงก็ไม่ได้กลั่นแกล้งเขาอีก ทำได้เพียงออกคำสั่งกับเด็กรับใช้ที่อยู่ด้านหลัง
เด็กรับใช้ไปและกลับมาอย่างรวดเร็ว
เขาชำเลืองมองโม่เยว่อย่างระมัดระวังเล็กน้อย แล้วจึงตอบกลับกู้หมิงว่า "ท่านรอง พระชายาหมิงบอกว่า นางต้องการจะพักยาวอยู่ที่ตระกูลกู้ของพวกเราขอรับ"
กู้หมิงพยักหน้า
"ท่านอ๋องได้ยินแล้วหรือไม่? หนิงเอ๋อร๋ไม่เต็มใจที่จะไปกับท่าน นี่ไม่ใช่ว่าข้าจงใจจะทำให้ยุ่งยากนะ"
โม่เยว่ก็ไม่ใช่คนบังคับจิตใจใคร
"ในเมื่อนางไม่เต็มใจที่จะกลับไปกับข้า ข้าก็ไม่บีบบังคับ ได้โปรดท่านรองกู้ดูแลพวกเขาแม่ลูกให้ดี รอเมื่อไรพวกเขาอยากจะกลับไป ข้าค่อยมารับพวกเขาก็แล้วกัน"
พูดจบ โม่เยว่ก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง!
เมื่อข่าวรู้ถึงหูหยุนหว่านหนิง นางก็ยิ่งโมโหเดือดดาล!
ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะจากไปเช่นนี้เลยหรือ? !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...