ตำหนักคุนหนิง
หลังจากเหล่านางสนมน้อมทักทายเสร็จ ก็นั่งไปสักพักแล้วต่างจากไปอย่างของใครของมัน
ฮองเฮาจ้าวอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
ตั้งแต่หยุนธิงหลานตั้งครรภ์ นางก็อารมณ์ดีมาโดยตลอด เมื่อวานนี้ยังเรียกหยุนเจิ้นซงเข้าพบ และปรึกษาหารือกับเขาเกี่ยวกับเรื่องที่รับหยุนธิงหลานเข้าจวนอ๋องหยิง
มีฉินเฉิงเซี่ยงอยู่
ดังนั้นจึงไม่สามารถมิให้หน้าฉินซื่อเสวียและฉินเฉิงเซี่ยง และรับหยุนธิงหลานเข้าจวนอ๋องหยิงโดยตรงเช่นนี้
หลังจากฮองเฮาจ้าวกับหยุนเจิ้นซงปรึกษาหารือกันเสร็จ รอสามารถตรวจดูได้ว่าเด็กในท้องของหยุนธิงหลานนั้นเป็นชายหรือหญิง จากนั้นก็ค่อยรับนางเข้าจวนอ๋องหยิงก็ไม่สาย
ถ้าเป็นลูกสาว ก็จัดแบบธรรมดาก็พอ
ถ้าเป็นลูกชาย ไม่เพียงแต่ต้องรับหยุนธิงหลานเข้าจวนอ๋องหยิงอย่างอลังการ แต่ยังจะให้ตําแหน่งพระชายารองแก่นางโดยตรง!
หยุนเจิ้นซงตอบตกลงอย่างดีใจ
ลืมเรื่องทั้งหมดที่เขาสั่งให้หยุนธิงหลานตัดขาดกับโม่หุยเฟิงในเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้
และลืมไปว่าเขาคือยิ่งกั๋วกง ลูกสาวของเขากลับต้องตั้งครรภ์ ถึงจะได้แต่งงานกับโม่หุยเฟิงและเป็นพระชายารองในภายใต้สายตาที่แปลกประหลาดของทุกคน……
หยุนธิงหลานมีค่าจึงจะไม่ถูกทอดทิ้ง
ต่อให้จะเป็นได้เพียงพระชายารองของโม่หุยเฟิงก็ตาม
หยุนเจิ้นซงไม่รู้สึกขายขี้หน้า กลับกันยังตอบตกลงด้วยความดีใจ
เห็นได้ว่าการตกอับของจวนยิ่งกั๋วกง มีสังหรณ์ตั้งแต่วันนี้……
ในเวลานี้ ฮองเฮาจ้าวได้เชิญหมอหลวงที่ดูแลหยุนธิงหลานมา หลังสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของนางเสร็จ จึงค่อยยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้เขาถอยออกไปด้วยความพอใจ
สั่งให้คนรับใช้ในวังส่งอาหารเสริมล้ำค่ามากมายให้กับหยุนธิงหลาน
กําลังจะออกไปเดินเล่น ซูเฟยก็เข้ามาอย่างรีบร้อน
"เหนียงเหนียง"
นางเดินตรงไปข้างกายของฮองเฮาจ้าวและคุกเข่าลง "เหนียงเหนียง หม่อมฉันจงรักภักดีต่อเหนียงเหนียง!" คราวนี้เรื่องของซุนตายิ่งนั้น ขอให้เหนียงเหนียงโปรดปกป้องหม่อมฉันด้วย! "
"ลุกขึ้นพูด ซูเฟยนี่เจ้าทำอะไรกัน?"
ร่องรอยของความหมดความอดทนแวบผ่านจากตาของฮองเฮาจ้าว
แม้ครอบครัวทางฝ่ายแม่ของซูเฟยจะมีอิทธิพลมาก แต่นางไม่ได้รับความโปรดปราน ตลอดหลายปีมานี้ก็ไม่ได้ให้กําเนิดลูกชายหรือลูกสาวแก่โม่จงหราน
ท้ายที่สุดซูเฟยก็ยังคงรู้สึกว่าความมั่นใจไม่เพียงพออยู่ดี
ไม่ได้รับความโปรดปรานจากโม่จงหราน นางก็จะต้องเอาใจฮองเฮาจ้าวผู้มีอำนาจนี้ไว้ให้ได้
ฝีมือของฮองเฮาจ้าวนั้น นางเคยเห็นมาก่อนแล้ว
หากล่วงเกินนาง เกรงว่าตายอย่างไรก็ยังไม่รู้……
"เหนียงเหนียง แม้ว่าซุนตายิ่งจะตายไปแล้ว แต่หม่อมฉันกลัวว่าฝ่าบาทจะสืบมาถึงตัวหม่อมฉัน! เหนียงเหนียง ท่านต้องช่วยหม่อมฉัน! "
ซูเฟยกลัวจนใจเต็วรัว สายตาของนางมองไปมาด้วยความหวาดระแวง
"ในเมื่อคนตายแล้ว คนตายย่อมไม่สามารถให้การได้ เจ้ากลัวอะไร?"
ฮองเฮาจ้าวหัวเราะเยาะเย้ย "ก่อนนางตาย ก็ไม่ได้ขายเจ้าไม่ใช่หรือ?"
"แต่หม่อมฉันก็ยังกลัวอยู่ดี!"
ซูเฟยกำมือไว้แน่นๆ จนข้อนิ้วซีตขาวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางใช้กำลังมากเพียงใด
เมื่อครู่หลังน้อมทักทายฮองเฮาจ้าวเสร็จ นางก็จากไปกับเหล่านางสนมทั้งหลาย
ก็เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นสงสัย
ตอนนี้แอบเข้ามาในตำหนักคุนหนิง เพื่อมาปรึกษาหารือเรื่องนี้กับฮองเฮาจ้าว
"เหนียงเหนียง หม่อมฉันทําตามคําแนะนําของเหนียงเหนียง ถึงจะสั่งให้ซุนตายิ่งไปวางยาพิษให้เต๋อเฟย ขอเพียงกําจัดเต๋อเฟยทิ้ง ฝ่าบาทก็จะหันมาสนใจพวกข้ามากเท่านั้น"
"เหนียงเหนียง ท่าน……"
ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกท่าทางที่หน้าตาถมึงทึงของฮองเฮาจ้าวขัดจังหวะ "ซูเฟย! นี้เจ้ากําลังข่มขู่ข้าหรือ?! "
"ข้าเคยให้คำแนะนำให้เจ้าไปยั่วยุซุนตายิ่งไปวางยาพิษให้เต๋อเฟยเมื่อไหร่?!"
เมื่อเห็นนางโกรธ สีหน้าของซูเฟยก็เปลี่ยนไป
นางลืมไปได้อย่างไร
ผู้นี้คือ "ผู้ชนะเลิศ" ที่ยืนหยัดบนบัลลังก์ฮองเฮาอย่างมั่นคง และคงอยู่ในวังมาหลายปี!
ฮองเฮาจ้าวโหดเหี้ยมอำมหิต ต้องการกำจัดใครมักระงับอารมณ์และคำพูดเอาไว้
ฝีมือของหล่อน นางจะลืมได้อย่างไร?!
ซูเฟยรีบลุกขึ้น "เหนียงเหนียง หม่อมฉันพูดพลั้งปากไป! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเหนียงเหนียงแม้แต่สักนิด เป็นหม่อมฉันกับซุนตายิ่ง……"
"ไม่เกี่ยวข้องกับเข้าเช่นกัน"
สีหน้าของฮองเฮาจ้าวคลี่คลายลงเล็กน้อย
ถึงจะเป็นสามีภรรยาจอมปลอมแต่ก็ยังใจตรงกันอยู่บ้าง
โม่เยว่ก็เอ่ยปากทันทีว่า "เสด็จพ่อ ในเมื่อทางค่ายห้ากองพลนั้นยังมีเรื่องต้องจัดการ เช่นนั้นก็ให้พี่ใหญ่กับพี่รองไปจัดการเรื่องนี้ก่อนเถอะ"
ฟังออกว่าเขาจงใจหลบโม่หุยเหยียนกับโม่ฮั่นอี่ว์ออก โม่จงหรานก็จิกตาใส่เขา
"พวกเจ้าสองคนออกไปก่อน"
เขาพูดอย่างเฉยชาว่า "หากครั้งต่อไปยังเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ข้าจะลอกหนังของพวกเจ้าทั้งสองแล้วเอามาทำเป็นเบาะเก้าอี้!"
โม่หุยเหยียนรีบก้มหัวลงแล้วตอบรับ
โม่ฮั่นอี่ว์ตัวสั่น และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เสด็จพ่อ จะลอกหนังก็ลอกของพี่ใหญ่เถอะ! หนังของหม่อมฉันหนาเกินไป อยากลอกหนังคงต้องลำบากหน่อย"
โม่หุยเหยียน:“……”
ช่างเป็นน้องชายที่แสนดีของเขาจริงๆเลย!
"ข้าเล่นกับเจ้าหรือ? ไปให้พ้น"
โม่จงหรานโบกมือด้วยความหงุดหงิด
"ขอรับ เสด็จพ่อ"
สองพี่น้องถอนตัวออกไปด้วยความเคารพ และทันทีที่ออกมาจากประตูห้องทรงพระอักษร ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทดั่งขึ้นที่นอกประตู
แต่ฟังจากเสียงแล้ว เป็นเพียงโม่ฮั่นอี่ว์เพียงฝ่ายเดียวที่ทะเลาะกับโม่หุยเหยียน……
"ว่ามาสิ พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกัน?"
โม่จงหรานนั่งลง และเหลือบมองทั้งสองคนอย่างหนักหน่วง
"เสด็จพ่อ"
ดูออกว่าวันนี้ฝ่าบาทอารมณ์ไม่ดี หยุนหว่านหนิงก็ยิ้มอย่างกระตือรือร้น "คืออย่างนี้ ลูกกับท่านอ๋องได้พูดคุยกันเสร็จแล้ว อีกไม่กี่วัน……"
ยังไม่ทันพูดจบ ซูปิ่งซ่านก็วิ่งเข้ามาในห้องทรงพระอักษรด้วยสีหน้าที่กังวล
"ฝ่าบาท แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!"
เขาหอบ สีหน้าตื่นตระหนก บนหน้าผากมีเหงื่อไหลเต็ม
ซูปิ่งซ่านติดตามโม่จงหรานมาเป็นเวลาหลายปี และในฐานะหัวหน้าขันที ก็ได้ฝึกนิสัยที่ "ภูเขาไท่ถล่มต่อหน้าก็ไม่เปลี่ยนสีหน้า" (ภูเขาไท่ถล่มต่อหน้าก็ไม่เปลี่ยนสีหน้า+ต่อให้เจอเรื่องใหญ่โตแค่ไหนก็ไม่ตื่นตระหนก)
วันนี้หากไม่ใช่เป็นเพราะเจอเรื่องใหญ่โตอะไรจริง ก็คงไม่ตื่นตระหนกนักเช่นนี้แน่นอน
โม่จงหรานขมวดคิ้ว และถามอย่างไม่พอใจว่า "เกิดอะไรขึ้น?!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...