หยวนเป่าส่ายหัวอย่างตรงไปตรงมา “ไม่เอา!”
โม่เยว่ ‘หน้า’แตกเป็นเสี่ยงๆ แหลกละเอียดตกลงมาบนพื้นประหนึ่งจะเก็บขึ้นมาต่อไม่ได้อีก
“เจ้าเด็กดี”
เขามองหยวนเป่าอย่างจนปัญญา
หยวนเป่าใช้สองมือกอบใบหน้าของหยุนหว่านหนิงและจุ๊บนางแรงๆ หนึ่งที “ท่านแม่ ข้าช่วยท่านระบายอารมณ์แล้ว ท่านมีความสุขหรือไม่”
หยุนหว่านหนิงยิ้มหน้าบานทันที
“มีความสุข!"
ความรู้สึกที่ว่ามีลูกชายคอยหนุนหลังมันดีมากจริงๆ!
โม่เยว่ “...”
สองคนนี้ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนงั้นหรือ?!
ไทเฮากู้สรวลเสียงดัง
หยวนเป่าเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ท่านแม่ หยวนเป่าคิดถึงท่านแม่เหลือเกิน! กลางดึกเมื่อคืนข้าตกใจตื่น คิดถึงท่านแม่จนนอนไม่หลับ”
“พ่อเก๊บอกว่าจะพาข้ามาหาท่าน ดังนั้นเราเลยมาที่นี่”
เขากำลังอธิบายว่าทำไมเขากับโม่เยว่ถึงมาปรากฏตัวที่พระราชวังนอกเมืองตอนเช้าตรู่เช่นนี้
หยุนหว่านหนิงคำนวณเวลา...
ไม่น่า!
วันที่นางเดินทางมาพระราชวังแห่งนี้ นางโดยสารรถม้ามาหนึ่งวันเต็มกับอีกครึ่งคืน
แต่หยวนเป่ากับโม่เยว่ออกเดินทางเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา
ถ้าจะให้ถึงพระราชวังแห่งนี้ อย่างเร็วที่สุดก็น่าจะถึงหลังเที่ยงมิใช่หรือ
เหตุใดจึงมาถึงเช้าขนาดนี้!
“พวกท่านมาได้อย่างไร เหตุใดจึงเร็วขนาดนี้”
นั่งจรวดมางั้นหรือ
โม่เยว่กำลังจะห้ามเขา แต่หยวนเป่าเอ่ยอย่างไร้เดียงสาแซงหน้าเขาไปหนึ่งก้าว “พ่อเก๊พาข้าบินมา! เร็วมากๆ เลย!"
“พ่อเก๊บอกว่าจะพาข้ามาเจอท่านแม่เร็วๆ แล้วเขาก็ไม่ได้โกหกข้า!”
ว่าแล้วเขาจึงหันไปมองโม่เยว่ “พ่อเก๊ ท่านใจดีมาก!"
โม่เยว่ตื่นเต้นจนน้ำตาไหลอาบหน้า
หลังจากถูกลูกชายเมินเฉยมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้รับคำชมจากลูกชาย!
แต่หยุนหว่านหนิงกลับขมวดคิ้ว “โม่เยว่ ท่านใช้วิชาตัวเบาพาลูกมาจริงๆ หรือ”
“นั่นมัน นั่นน่ะ...”
โม่เยว่พยายามอธิบาย
“ท่านหุบปากไปเลย!"
หยุนหว่านหนิงแผดเสียงจนเขาตกใจและรีบหุบปากทันที จากนั้นจึงได้แต่ฟังนางตำหนิออกมารัวๆ “ท่านไม่คิดเลยสักนิดหรือว่าวิธีของท่านมันไม่เหมาะสม”
“ลูกยังเด็กมาก แต่ท่านก็ใช้วิชาตัวเบาพาเขามาที่วังนี้?”
“หากเกิดอะไรขึ้นมาเล่า หากกลางคืนหนาวมากจนทำให้ลูกเป็นหวัดล่ะ ท่านได้คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่”
ตอนแรกนางคิดว่าโม่เยว่จะเถียงข้างๆ คูๆ หรือไม่ก็เถียงอย่างมั่นใจในเหตุผลของตัวเอง
แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะพยักหน้าอย่างว่าง่าย “เจ้าพูดถูก เป็นข้าเองที่ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน”
“ข้าผิดไปแล้ว คราวหน้าข้าจะไม่ทำพลาดอีก”
ไทเฮากู้มองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
นางยังจำได้ว่าเมื่อสี่ปีก่อน โม่เยว่เกลียดหยุนหว่านหนิงเข้ากระดูกดำ!
แม้แต่จะเหลือบมองนางสักนิดหนึ่งก็ยังแฝงไปด้วยความเกลียดชังเข้ากระดูก... ใครจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนี้จะทำให้ไทเฮากู้ตกตะลึงมาก!
หยุนหว่านหนิงควบคุมสามีได้ดีจริงๆ!
เมื่อเห็นว่าหยุนหว่านหนิงกำลังโมโห หยวนเป่าจึงรีบพูดแทนโม่เยว่ว่า
“ท่านแม่ ท่านพ่อเก๊ปกป้องข้าดีมากๆ เลย!”
หยวนเป่าชี้ไปที่เสื้อคลุมตัวหนาบนเก้าอี้ข้างๆ “พ่อเก๊อุ้มข้าไว้ในอ้อมแขนตลอด ใช้เสื้อคลุมปกป้องข้าไว้แน่นเลย แม้แต่ลมก็พัดข้าปลิวไม่ได้”
ผู้ชายคนนี้ระวังขนาดนี้เลยหรือ
“เป็นข้าเองที่รบเร้าพ่อเก๊ ข้าอยากเจอท่านแม่เร็วๆ พ่อเก๊ก็เลยใช้วิชาตัวเบาพาข้าบินมา แล้วก็ได้มาเจอท่านแม่เร็วมากๆ”
ว่าแล้วหยวนเป่าจึงยื่นนิ้วสองนิ้วออกไปจิ้มเบาๆ “ท่านแม่ ท่านอย่าโกรธเลยนะ!"
“ถ้าตำหนิก็ต้องตำหนิหยวนเป่า อย่าไปตำหนิท่านพ่อเก๊เลย!”
เขาเป็นสุภาพบุรุษที่มีจิตใจมั่นคงแน่วแน่!
ท่านแม่บอกว่าลูกผู้ชายต้องรู้จักรับผิดชอบ!
หยวนเป่ารู้ตัวว่าผิด ดังนั้นเขาจะรับผิดชอบเอง!
เมื่อเห็นท่าทีที่น่าสงสารของลูกชาย หยุนหว่านหนิงจึงใจอ่อนยวบ “ก็ได้ๆ แม่ไม่ตำหนิพ่อเก๊ของหยวนเป่าแล้ว! แล้วก็จะไม่ตำหนิหยวนเป่าด้วย!”
“แม่จะชมพ่อของเจ้าด้วยดีหรือไม่”
เขาพยักหน้าและตามหรูอวี้ออกไปอย่างว่าง่าย
จนกระทั่งแผ่นหลังของพวกเขาหายลับไปจากประตู ไทเฮากู้จึงค่อยเช็ดน้ำตาที่ไหลซึมออกมา “พ่อหนูหยวนเป่าช่างว่านอนสอนง่ายจริงๆ!"
“เป็นพ่อหนูที่ว่าง่ายที่สุดตั้งแต่ที่ข้าเคยพบมาเลย!”
เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
โดยเฉพาะเลือดแบบไทเฮากู้กับหยวนเป่า ตระกูลกู้และตระกูลโม่ล้วนมีส่วนเชื่อมโยงกับนาง
หยวนเป่าคือดวงใจของนาง!
ลูกสาวของโม่หุยเหยียนก็น่ารักน่าเอ็นดู แต่ลูกสองคนของโม่หุยเฟิง...
ไทเฮากู้เองก็เคยพบกับผู้หญิงสองคนนั้น แม้จะเป็นตอนเด็กที่ยังอยู่ในผ้าอ้อมก็ตาม
แต่พอลูกสาวโตเห็นแล้วนางก็ร้องไห้ ทำอย่างกับว่านางเป็นพวกแม่มดที่จะเอาเด็กไปขาย ไหนเลยจะเหมือนพ่อหนูหยวนเป่าตัวกลมๆ น่ารักน่าเอ็นดู!
“บุตรสาวคนโตของเจ้าสาม ร้องไห้เสียงดังจนหูแทบแตก หูข้าแทบจะหนวกเพราะเสียงร้องนั่น”
นางปัดไม้ปัดมือราวกับเสียงร้องไห้นั้นดังแผดอยู่ในหัวของนาง
ไทเฮากู้ขมวดคิ้วอย่างปวดหัว
หยุนหว่านหนิงหัวเราะเบาๆ “หยวนเป่าว่าง่ายตั้งแต่เด็กเพคะ”
“พวกเจ้าสองคนเก็บกันไว้เงียบจนลูกโตขนาดนี้!”
ไทเฮากู้เอ่ยอย่างทอดถอนใจ “พ่อหนูหยวนเป่าเป็นพระนัดดาองค์ โต ข้าเองก็ค่อยโล่งใจแทนพวกเจ้า!"
หยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่มองหน้ากันด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก
ทันใดนั้นไทเฮากู้ก็ตรัสขึ้นมาอีกว่า “ครั้งก่อนที่ข้ากลับไปที่วัง เยว่เอ๋อร์กับฮ่องเต้ไม่เห็นพูดถึงหยวนเป่าเลย”
“มันเรื่องอะไรกัน พวกเจ้าถึงต้องปิดบังข้า”
โม่เยว่มีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย “เรื่องมันยาวพ่ะย่ะค่ะ เสด็จย่า”
ไทเฮากู้เป็นคนธรรมดาเสียที่ไหน?!
แค่มองแววตาที่พยายามหลบเลี่ยงของโม่เยว่ นางก็พอจะเดาบางอย่างได้บ้างแล้ว “หรือว่าแม้แต่บิดาแท้ๆ อย่างเจ้าก็ยังไม่รู้เรื่องการมีอยู่ของหยวนเป่า?!"
“แล้วฮ่องเต้ล่ะ!”
“ฮ่องเต้รู้หรือไม่ว่าหยวนเป่าเป็นพระนัดดาองค์ โต!”
“เสด็จย่า...”
หยุนหว่านหนิงลูบจมูก ไทเฮากู้มีสีหน้าตกตะลึง “พวกเจ้ายังไม่ได้ทูลฮ่องเต้รึ!"
“พวกเจ้าคิดจะบอกพระองค์เมื่อไรกัน พระนัดดาองค์ โตเติบใหญ่ขนาดนี้แล้วนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...