หยุนหว่านหนิงหันหลังมองไป คือเสี่ยวลู่จื่อ บ่าวรับใช้ชายที่อยู่ข้างกายของหยุนเจิ้นซง
เสี่ยวลู่จื่อวิ่งเข้ามาใกล้อย่างหายใจหอบ “พระชายา นายท่านของเราเชิญท่านไปที่ห้องหนังสือสักครั้ง! บอกว่ามีธุระจะหารือกับท่าน”
หยุนเจิ้นซงมีธุระจะหารือกับนาง?
หยุนหว่านหนิงสะบัดหัว ทิ้งเอาไว้สองคำด้วยท่าทางที่สง่างาม: “ไม่ว่าง!”
เต๋อเฟยเชิญนางยังปฏิเสธเลย นับประสาอะไรกับหยุนเจิ้นซง?
นางพาหยุนธิงธิงเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลย
เสี่ยวลู่จื่อยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางสายลม......
“พี่ใหญ่ เราทำเช่นนี้กับท่านพ่อ มันจะดีหรือ?”
หยุนธิงธิงหันกลับมองเสี่ยวลู่จื่อที่ยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางสายลมครู่หนึ่ง “ไม่แน่ว่า ท่านพ่ออาจมีธุระอะไรที่จะหารือกับท่านจริงๆก็ได้?”
“เขาจะหารืออะไรกับข้า? ถ้าไม่ได้เป็นเพราะยืนผิดฝั่ง อยากจะแยกตัวจากโม่หุยเฟิง หันกลับมาประจบประแจงโม่เยว่ของข้า”
หยุนหว่านหนิงเยาะเย้ย “ก็......”
“ก็คืออยากให้ข้าให้คอยสังเกตตระกูลดีๆให้เจ้า แล้วขายเจ้าไปซะ!”
หยุนธิงธิง: “......ท่านพ่อคงจะไม่ร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง?”
เด็กที่น่าสงสาร!”
หยุนหว่านหนิงมองดูนางด้วยความเห็นอกเห็นใจ “หลายปีผ่านไป เจ้ายังไม่รู้พฤติกรรมของท่านพ่อเจ้าอีกหรือ?”
หยุนเจิ้นซงในฐานะที่เป็นพ่อ หลายปีมานี้ไม่ว่าจะกับหยุนหว่านหนิง หรือว่าหยุนธิงธิง เคยทำหน้าที่ที่คนเป็นพ่อควรจะทำสักนิดไหม?
แต่กับหยุนธิงหลาน กลับดูแลประคบประหงมเอาไว้ในฝ่ามือ
พวกนางสองพี่น้อง ก็คือผักกาดขาวต้นเล็กๆที่เก็บมาจากสวนผักกาดเท่านั้น!
หยุนธิงธิงไม่สามารถตอบได้ “แต่ว่า......”
นางแต่ว่าอยู่นานพักใหญ่ สุดท้ายก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง “แต่ว่าพี่ใหญ่ ข้ารู้สึกว่าท่านก็ไม่ควรปฏิบัติต่อเต๋อเฟยเหนียงเหนียงเช่นนี้”
“ไม่ว่าอย่างไร นางก็คือแม่สามีของท่าน! เดิมทีเต๋อเฟยเหนียงเหนียงก็ไม่ชอบท่านอยู่แล้ว หากท่านไปล่วงเกินนางอีก ไม่แน่ว่านางจะใช้อำนาจกลั่นแกล้งท่านอีกก็เป็นได้”
นังหนูน้อยคนนี้ กำลังจะเริ่มจู้จี้อีกแล้ว
หยุนหว่านหนิงปวดหัว
“เช่นนั้นเจ้าคิดว่า ข้าควรจะทำอย่างไร?”
“ไม่สามารถยั่วยุได้แต่สามารถหลบเลี่ยงได้”
หยุนธิงธิงกล่าวขึ้นมาทันที “หลบอยู่ในจวนอ๋องไม่พบนาง!”
“ด้วยนิสัยของเสด็จแม่ ถึงแม้ข้าจะหลบอยู่ในจวนอ๋องไม่พบนาง เกรงว่านางก็จะมาถึงจวนอ๋อง แล้วพลิกหลังคาของจวนอ๋องด้วยซ้ำ!”
นิสัยแย่ๆ ของเต๋อเฟยนั่น สามารถหลบเลี่ยงได้หรือ?
หยุนหว่านหนิงส่ายหน้า “แต่ว่า ตอนนี้ท่าทีที่นางมีต่อข้าดีขึ้นไม่น้อยแล้ว”
“ไม่ต้องเป็นห่วงไป นางไม่โกรธหรอก”
นางตบไปที่มือของหยุนธิงธิงเบาๆ “การเป็นภรรยา ก็ไม่สามารถจะเป็นคนอ่อนแอให้คนอื่นบีบคั้นอย่างเดียวไม่ใช่หรือ?”
“เราไม่ทำสิ่งที่ไม่เคารพผู้อาวุโส ไม่หาเรื่องก่อน มีความกตัญญูรู้คุณก็พอแล้ว”
นางกล่าวขึ้นมาอย่างหนักแน่นและมีความหมายลึกซึ้ง “แต่ก็จะให้คนมารังแกอย่างเดียวไม่ได้”
“อ้อ”
หยุนธิงธิงเหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ
เห็นสายตาของนางสับสน หยุนหว่านหนิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
นางยังไม่ได้แต่งงาน ย่อมไม่เข้าใจหลักเหตุผลการอยู่ร่วมกันของแม่สามีกับลูกสะใภ้อยู่แล้ว พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
ไม่ช้าพี่น้องสองคนก็เข้าไปในจวนอ๋องโจว
วันนี้อากาศดี สีหน้าของโม่เหว่ยก็ไม่เลวเช่นกัน
ลุงเฉินพยุงเขาเอาไว้ กำลังเดินเล่นอยู่ในลานอย่างเชื่องช้า
เห็นว่าหยุนหว่านหนิงมาแล้ว ลุงเฉินทักทายด้วยรอยยิ้ม โม่เหว่ยก็มีสีหน้าที่ดีขึ้นมาเล็กน้อยอย่างหาได้ยากเช่นกัน......เพียงแต่ว่าน้ำเสียงยังคงแข็งทื่อเล็กน้อย “มาแล้วหรือ เข้ามานั่งเถอะ”
เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองดูหยุนธิงธิง
นี่ทำให้ในใจของหยุนธิงธิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย หดหัวครู่หนึ่ง “พี่ใหญ่ อ๋องโจวดูเคร่งขรึมจังเลย”
“อืม”
คนที่เคร่งขรึมขนาดนี้ ทุกครั้งตอนที่ฉีดยาก็ยังกลัวจนร้องไห้
หยุนหว่านหนิงพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง “หากว่าเจ้ากลัวเขา อีกเดี๋ยวข้าก็จะให้เจ้าได้เห็น อีกด้านที่เขาไม่ได้เคร่งขรึมขนาดนี้เป็นอย่างไร”
“ไม่ดีมั้ง?”
หยุนธิงธิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
“มีอะไรที่ไม่ดี?”
หยุนหว่านหนิงจูงมือนางเข้าไปในห้องโถงใหญ่ โม่เหว่ยถึงได้มองหยุนธิงธิงครู่หนึ่ง “ท่านนี้คือ?”
“น้องสามของข้า”
“ข้าไม่ได้ดูถูกท่านนะ แน่จริงวันนี้ท่านก็อย่าร้องไห้สิ”
หยุนหว่านหนิงฮึออกมาเบาๆ
ถึงแม้จะพูดเช่นนี้......
ปลายเข็มแทงเข้าไปในผิวหนัง โม่เหว่ยก็ยังคงอดที่จะกัดฟันส่งเสียงอู้อี้ไม่ได้ ในดวงตามีหยดน้ำตาที่แวววาวคลออยู่สองหยด
เจ็บจัง!
เจ็บจะตายอยู่แล้ว!
แต่เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อไม่ให้หยุนหว่านหนิงผู้หญิงคนนี้ดูถูก เขากัดฟันเอาไว้ ระงับความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้ลงมาอย่างแข็งกร้าว
“โอ๊ะ วันนี้เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ดีนี่”
เห็นท่าทางกัดฟันทนของเขาแล้ว หยุนหว่านหนิงมีความสุขขึ้นมา “เสร็จแล้ว”
นางใช้สำลีกดเข็มเอาไว้ “อาการป่วยของท่านอ๋องดีขึ้นมากแล้วจริงๆ”
“หากข้ารักษาท่านให้หายได้......ท่านคิดจะตอบแทนข้าอย่างไร?”
นางมองดูเขาด้วยความสนใจอย่างมาก
คำถามข้อนี้ โม่เหว่ยไม่เคยคิดมาก่อน
อย่างไรเสียเขาก็อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก หลายปีมานี้ความเจ็บปวดบั่นทอนเจตจำนงของเขา ทำให้เขาทรมานจนสูญเสียความมั่นใจและความหวังในชีวิตไปนานแล้ว
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า วันหนึ่งเขาจะหายเป็นปกติได้
ถึงแม้ว่าหยุนหว่านหนิงจะให้ความหวังเขา......
แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าตั้งความหวังมากเกินไป
ยิ่งคาดหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก
ความผิดหวังที่สั่งสมมาในหลายปีนี้ ทำให้คนทั้งคนของเขาพังทลายลงไปนานแล้ว ไหนเลยที่เขาจะกล้าตั้งความหวังขึ้นมาอีก?
ตอนนี้ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ริมฝีปากของเขาก็เผยรอยยิ้มขมขื่มเล็กน้อย “แล้วแต่เจ้าเถอะ! ขอเพียงเจ้าสามารถรักษาข้าให้หายได้ เจ้าต้องการอะไรข้าก็จะให้เจ้า”
คำตอบที่ขอไปทีเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ายังไม่เชื่อ ว่านางสามารถรักษาเขาให้หายได้
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว
เวลานี้ก็ไม่ดีที่จะตำหนิเขา นางแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างผ่อนคลาย “ข้ากลับมีความคิดดีๆอย่างหนึ่ง”
“หากว่าข้ารักษาท่านให้หายได้ เงื่อนไขข้าก็คิดเอาไว้แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าท่านอ๋อง กล้ารับปากหรือไม่เท่านั้น!”
โม่เหว่ยเงยหน้าขึ้นมา “เงื่อนไขอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...