“ทำไมหรือ?”
สีหน้าโม่เยว่เปลี่ยนไป ลักษณะท่าทีก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ลักษณะท่าทีที่เป็นทาสเมียเหมือนอย่างเมื่อกี้ สูญหายไปหมด กลายเปลี่ยนเป็นคนที่ทุกคนคุ้นเคย อ๋องหมิงที่เย็นชาหยิ่งยโสคนนั้น
ช่วงที่ผ่านมานี้ หรูโม่ค่อยติดตามหยวนเป่าอย่างใกล้ชิด
หากไม่มีเรื่องด่วน เขาจะไม่ห่างจากหยวนเป่าแม้เพียงครึ่งก้าว
ตอนนี้เขามาปรากฏตัว....
โม่เยว่คาดเดาขึ้นมาทันทีว่า เกิดอะไรขึ้นกับหยวนเป่าหรือเปล่า
“ค่ายเสินจีเกิดเรื่องแล้ว”
หรูโม่พูดตอบด้วยเสียงต่ำว่า “เมื่อกี้รองแม่ทัพหวังมารายงานว่า มีปัญหากับค่ายห้ากองพล”
ค่ายเสินจีกับค่ายห้ากองพล เป็นกองพลสำคัญของราชสำนัก
เริ่มแรกยังมีกองพลสามพัน
แต่โม่จงหรานคิดในใจ ที่ฮ่องเต้องค์ก่อนล้มเลิกสามกองพลใหญ่ จะต้องมีเหตุผลแน่
ค่ายเสินจีรับผิดชอบปกป้องภายในเมืองหลวง เตรียมพร้อมสำหรับกับต่อสู้ภายนอก รับผิดชอบการฝึกฝนใช้อาวุธยิงปืนขี่ม้า
เดิมค่ายเสินจีดูแลโดยฮ่องเต้ หลังจากก่อตั้งค่ายเสินจี โม่จงหรานยกภารกิจหนักนี้ให้กับโม่เยว่
ทหาร รองแม่ทัพในค่าย ล้วนเป็นคนที่โม่เยว่คัดเลือกมาเอง
ค่ายห้ากองพลก็เหมือนกัน
เดิมการคัดเลือก ล้วนเป็นคนสนิทของโม่หุยเฟิง
ดังนั้นคำพูดของรองแม่ทัพหวัง โม่เยว่เชื่อถือได้
“ตอนนี้รองแม่ทัพหวังอยู่ที่ไหน?”
“ยังรออยู่ด้านนอก”
“ข้าไปหาเขาเอง”
โม่เยว่สะบัดแขนเสื้อ พร้อมรีบเดินไปยังลานด้านหน้า
รองแม่ทัพหวังอายุประมาณสามสิบกว่า ผิวดำตัวผอมเตี้ยเล็ก ใบหน้าดุดัน ดูก็รู้ว่าเป็นคนเก่ง
เขาเดินไปเดินมาอยู่กับที่อย่างร้อนใจ
เห็นโม่เยว่เดินมาใกล้ เขารีบไปถวายความเคารพว่า “ท่านอ๋อง....”
“พูดเข้าเรื่อง เกิดอะไรขึ้น?”
สีหน้าโม่เยว่ไร้ความรู้สึก
“เรียนท่านอ๋อง ข้าเองก็ไม่รู้สาเหตุ รู้เพียงว่าเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ทหารของข้าเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ค่ายห้ากองพลทะเลาะกัน ต่อมาทั้งสองต่อสู้กัน เสี่ยวไป๋ของค่ายห้ากองพล ถูกเสี่ยวเฮยพลั้งมือฆ่าตายแล้ว....”
รองแม่ทัพหวังพูดขึ้น
“อ๋อ?”
โม่เยว่กะพริบตา
สนามฝึกซ้อมของค่ายเสินจีกับค่ายห้ากองพลใกล้กัน
ปกติ ก็มีเหตุการณ์ที่คนของทั้งสองค่ายท้าประลองฝีมือกัน
นับตั้งแต่โม่หุยเฟิงเข้ามาดูแลค่ายห้ากองพล มักจะเกิดเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ส่วนมากเป็นเพราะคำสั่งโม่หุยเฟิง คนของค่ายห้ากองพลจึงตั้งใจมาหาเรื่อง
หลังจากโม่หุยเฟิงไปแล้ว เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นน้อยครั้งอย่างมาก
โดยเฉพาะตอนนี้โม่ฮั่นอี่ว์เป็นคนดูแลค่ายห้ากองพล ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้ เกิดเรื่องแล้ว
เมื่อก่อนที่ต่อสู้ประลองกัน ถึงระดับหนึ่งก็จะพอ ปกติจะไม่เกิดเรื่องใหญ่
แต่วันนี้กลับถึงขึ้นเสียชีวิต.....
“ทั้งสองคนต่อสู้กันด้วยเหตุใด? เพียงเพื่อประลองกัน หรือมีสาเหตุอื่น?”
“เรียนท่านอ๋อง ข้าได้ไปสืบมาแล้ว เสี่ยวไป๋ลงมือก่อน บอกว่าเมื่อคืนก่อนเข้าดำไปยังหอชุ่ยหง แตะต้องผู้หญิงของเขา.....”
ได้ยินแบบนี้ โม่เยว่หัวเราะเย้ย
“ผู้หญิงของเขา?”
หอชุ่ยหงเป็นหอนางโลมมีชื่อเสียงของเมืองหลวง
ผู้หญิงข้างในนั้น....พูดไม่น่าฟังหน่อย ถือเป็นผู้หญิงของผู้ชายทั่วทั้งเมืองหลวง?
ไม่ว่าจะถูกบีบบังคับให้เดินทางนี้ หรือยินยอมที่จะเดินเส้นทางนี้
ขอเพียงเข้าไปอยู่ในหอชุ่ยหง ก็จะไม่ใช่ของส่วนตัวของผู้ชายคนไหน
ขอเพียงมีเงิน ใครก็สามารถเล่นได้
เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวไป๋ของค่ายห้ากองพล ตั้งใจหาเรื่อง?
“ทั้งสองคนต่อยตีกันรุนแรงมาก คนอื่นห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ตอนที่ข้ารู้เรื่องแล้วรีบตามไปถึง เสี่ยวไป๋ก็นอนกองบนพื้นแล้ว ศพก็เย็นหมดแล้ว”
พูดเสร้จ รองแม่ทัพหวังเหลือบมองดูโม่เยว่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เรื่องนี้.....”
“สารเลว”
โม่เยว่ยกเท้าเตะไปอย่างรุนแรง
เสี่ยวเฮยถูกแตะโดนตรงเข่า คุกเข่าอยู่บนพื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เป็นเพราะข้าลงมืออย่างไม่รู้จักหักห้าม จึงทำให้ท่านอ๋องต้องเดือดร้อน ข้าน้อยรู้สึกผิด ทำได้เพียงชดใช้ด้วยชีวิต”
“ใครให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิตในตอนนี้?”
โม่เยว่มองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา
เสี่ยวเฮย เด็กคนนี้...
เขายังจำได้
เด็กคนนี้อายุเพิ่งสิบเจ็ดปี กำลังเป็นวัยรุ่น
ตั้งแต่ถูกเลือกเข้ามาอยู่ในค่ายเสินจี ก็ตั้งใจพัฒนาตนเองมาตลอด
ตอนนี้เห็นเสี่ยวเฮยก่อเรื่อง เขาอดกลั้นความโกรธไว้ภายในใจ แล้วถามขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ตกเรื่องมีเรื่องอะไรกัน เจ้าเล่าให้ข้าฟังทั้งหมด”
“ข้าน้อย ข้าน้อย”
เสี่ยวเฮยอายุยังน้อย
คงยังไม่เคยผ่านประสบการณ์ที่พลั้งมือฆ่าคน ดังนั้นตอนนี้จึงมีท่าทีค่อนข้างหวาดผวา
เขามองดูศพของเสี่ยวไป๋ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย
“ท่านอ๋องให้เจ้าเล่าความจริง เจ้าเป็นอะไร”
รองแม่ทัพหวังรู้สึกโกรธโมโหเสี่ยวเฮยอย่างมาก
เห็นเขาจะยกฝ่ามือฟาดตบลงไปแล้ว กลับถูกโม่เยว่ห้ามไว้
เขามองดูกลุ่มผู้คนมากมาย พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลึกซึ้งว่า “เรื่องในวันนี้ ข้าไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่นอน”
“หากเรื่องระหว่างเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ แล้วเป็นความผิดของเสี่ยวเฮยจริงๆ”
“ข้าจะไม่เข้าข้างฝ่ายใด และไม่ช่วยเหลือคนผิดเด็ดขาด”
มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่หากเรื่องนี้มีสาเหตุแอบแฝง ตั้งใจใส่ร้ายเสี่ยวเฮย ใส่ร้ายค่ายเสินจี ข้าไม่ยอมรามือง่ายๆแน่”
เขา โม่เยว่เวลาอยู่นอกจวนอ๋องจวน ต่อให้เย็นชาไร้ความปรานี
แต่กับคนของตนเอง เขาล้วนสีหน้าเย็นชาแต่ใจดี
หากมีคนใส่ร้ายเสี่ยวเฮย เขาก็เป็นคนปกป้องเข้าข้างคนของตนเอง
เขาเพิ่งพูดเสร็จ ด้านหลังฝูงคนก็มีเสียงดังขึ้นว่า “หลบไป หลบไป ข้ามาช้าไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...