หยุนหว่านหนิงจูงมือหยวนเป่า ไม่รู้ว่ามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู มองดูหยุนเจิ้นซงอย่างตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาจะก่นด่านางแบบนี้
หยวนเป่าก็นิ่งอึ้งมองดูหยุนเจิ้นซง ในมือยังถือกล่องผ้าไว้หนึ่งกล่อง
หยุนธิงธิงก็มองเห็นพวกเขาแล้ว
นางรีบเดินไปพูดขึ้นว่า “พี่สาวใหญ่ หยวนเป่า พ่อเพียงแค่ดื่มเมาแล้ว....”
“ล้วนพูดว่าคนเมามักพูดความจริง เห็นทีคงเป็นเช่นนี้”
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าย่ำแย่ว่า “เห็นทีข้าล้วนคิดไปเอง เสียแรงที่อุตส่าห์ช่วยจัดงานวันครบรอบวันเกิดให้เขา ทำงานยุ่งจัดการให้ทั้งภายในภายนอก”
“ที่แท้ภายในใจของเขา ข้าเป็นเพียงลูกสาวอกตัญญูคนหนึ่ง”
นางหัวเราะเย้ย
ทุกคนต่างซุบซิบนินทากัน
โจวหยิงหยิงลุกจากด้านข้างโม่ฮั่นอี่ว์ พร้อมเดินไปพูดขึ้นว่า “หนิงเอ๋อร์ เจ้าจะไปสนใจเขาที่เป็นคนเฒ่าเลอะเลือนคนหนึ่งทำไม?”
“ใคร เจ้าว่าใครเป็นคนเฒ่าเลอะเลือน?”
หยุนเจิ้นซงยังจะรนหาที่ตายอย่างไม่ยอมแพ้
เขาถลึงตาใส่โจวหยิงหยิง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเด็กเมื่อวานซืน วิ่งออกมาจากไหน? เจ้าใช่ไหมที่.....”
ยังพูดไม่เสร็จ ก็ได้ยินหยุนธิงธิงตะโกนพูดสั่งขึ้นว่า “ลุงเฉิน ยังไม่รีบพาพ่อไปพักผ่อน? เขาเมาอย่างมากแล้ว”
ลุงเฉินได้ยินคำสั่งของนาง ก็กัดฟันเอื้อมมือไปปิดปากหยุนเจิ้นซงไว้
“นายท่าน ท่านดื่มเมาแล้ว ข้าน้อยประคองท่านไปพักผ่อน”
“หยุดนะ”
โจวหยิงหยิงพูดขึ้น ลุงเฉินชะงักหยุดฝีเท้า
นางยกมือเท้าเอว พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนเจิ้นซง ข้าเห็นแก่หนิงเอ๋อร์ ถึงได้ไว้หน้าเจ้าบ้าง”
“หนิงเอ๋อร์เป็นลูกสาวของเจ้า ไม่ถือสาเจ้า แต่ข้าเองไม่ได้ไม่คิดถือสาเจ้า เจ้าด่าใครเป็นเด็กเมื่อวานซืน? เจ้าลืมตามองดูดีๆ ข้าเป็นใคร?”
โจวหยิงหยิงโกรธโมโห ลุงเฉินตกใจจนตัวสั่น
เขามองดูหยุนธิงธิงอย่างทำตัวไม่ถูก
หยุนธิงธิงสีหน้าขาวซีด หันไปมองหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาวใหญ่.....”
“หยุนกั๋วกงพูดเก่งมากไม่ใช่หรือ? ให้ทุกคนล้วนได้เห็นถึงความสามารถ ว่าเขาเก่งแค่ไหน”
หยุนหว่านหนิงไม่ได้ห้าม กลับพูดสั่งลุงเฉินว่า “ปล่อยมือ”
ลุงเฉินไม่กล้าขัดคำสั่ง ทำได้เพียงปล่อยมืออย่างระมัดระวัง
โจวหยิงหยิงจ้องมองหยุนเจิ้นซงอย่างโกรธจัด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหยุนเจิ้นซง ปกติเวลาเจอข้า ยังทำดีเอาอกเอาใจ วันนี้เผยธาตุแท้ออกมาแล้วใช่ไหม?”
“ข้าจะบอกให้ หนิงเอ๋อร์สนิทกับข้าดั่งพี่น้อง หากเจ้ายังด่าหนิงเอ๋อร์ ข้าก็จะสั่งคนตบตีเจ้าจนฟื้น”
หยุนเจิ้นซงพยายามลืมตามองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้า เจ้าเหิมเกริมนัก”
“เจ้าคอยดูว่าข้าเหิมเกริมไหม”
โจวหยิงหยิงหัวเราะเย้ย พร้อมหันไปพูดกับทหารองครักษ์ด้านข้างว่า “ไปตักน้ำมา”
ทหารองครักษ์เป็นทหารองครักษ์ของจวนหยุนกั๋วกง เวลานี้ต่างหันไปมองหยุนหว่านหนิงอย่างทำตัวไม่ถูก
นางพยักหัว ทหารองครักษ์จึงจำต้องไปตักน้ำมา
สักพักก็หิ้วน้ำเย็นมาหนึ่งถัง
โจวหยิงหยิงรับถังน้ำมา แล้วก็ราดใส่หน้าหยุนเจิ้นซง
เสียงดังซู่ เหมือนเวลาหยุดนิ่ง.....
โจวหยิงหยิงโยนถังไม้ลงพื้น แล้วค่อยสะบัดมือ มองดูหยุนเจิ้นซงที่เหมือนอย่างลูกหมาตกน้ำ พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนกั๋วกง ตื่นมาบ้างแล้วหรือยัง?”
นางราดน้ำถังนี้ไป หยุนเจิ้นซงฟื้นตื่นมีสติขึ้นมาเยอะเลย
เขาสำลักลมหายใจ ร่างกายเซถอยหลังไปสองสามก้าว
“นี่ นี่เกิดอะไรขึ้น?”
หลังจากตื่นขึ้นมา หยุนเจิ้นซงคว้าจับลุงเฉินไว้ มองดูทุกอย่างตรงหน้าอย่างงุนงง
ด้านข้างเท้าโจวหยิงหยิงมีถังเปล่าวางอยู่ ลักษณะท่าทีของนางราวกับจะกินคน
หยุนหว่านหนิงจูงมือหยวนเป่า ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สีหน้าหยุนธิงธิงนิ่งอึ้ง สีหน้าแขกทั้งหลายก็ตกตะลึง....ยังมีตัวเขาเอง ปลายผมล้วนเป็นหยดน้ำ ร่างกายเปียกไปหมด
“นาย นายท่าน”
ลุงเฉินก้มหน้า พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ท่านก่อเรื่องแล้ว”
“ก่อเรื่อง? ข้าก่อเรื่องอะไร?”
หยุนเจิ้นซงตกตะลึง
วันนี้เป็นงานวันครบรอบวันเกิดของเขา ที่นี่ยังเป็นจวนหยุนกั๋วกง เขาเป็นประมุขจวนกั๋วกง
มีแขกอยู่มากมายขนาดนี้ เขาจะก่อเรื่องอะไรได้?
เด็กน้อยน่ารักขนาดนี้ สถานะยังสูงศักดิ์ขนาดนี้ ใครจะไม่ชอบ?
แต่หยวนเป่าไม่ได้ให้โอกาสเขา
เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลบมือทั้งคู่ของหยุนเจิ้นซง ยืนอยู่ด้านหลังหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านตา ท่านยังจำได้ไหมเมื่อกี้ท่านพูดว่าอะไรไปบ้าง?”
“พูดอะไร?”
เห็นหยวนเป่าต่อต้านขนาดนี้....
หยุนเจิ้นซงรู้สึกไม่สบายใจ หันไปมองดูหยุนหว่านหนิงแวบหนึ่ง
พวกแขกทั้งหลายก็เริ่มซุบซิบนินทากัน ต่างก็คิดถึงเมื่อกี้ที่หยุนเจิ้นซงแอบด่าหยุนหว่านหนิงลับหลังพวกนั้น
ดูแล้ว เสี่ยวเตี้ยนเซี่ยกำลังจะแก้แค้นแทนพระชายาหมิงหรือ?
ทุกคนต่างรอดูหยุนเจิ้นซงอย่างสมน้ำหน้า แล้วก็หันไปมองหยวนเป่า
เห็นใบหน้าน้อยๆของเขาเคร่งขรึม แลดูจริงจังอย่างมาก
แลดูจริงจังแบบนี้ เหมือนกับโม่จงหรานตอนเป็นเด็ก และเหมือนโม่เยว่ตอนเป็นเด็ก....ไม่เสียแรงที่เป็นพระนัดดาองค์โต ท่าทีน่าเกรงขามยิ่งนัก
หยุนเจิ้นซงกลืนน้ำลายลงคอ พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเตี้ยนเซี่ย เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
หยวนเป่าสีหน้าบึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ท่านพูดว่า ช่วงก่อนท่านยืมเงินท่านแม่ของข้าไปหนึ่งล้านตำลึง”
“ไม่รู้ว่าท่านตาตั้งใจจะใช้คืนเมื่อไหร่?”
ทุกคน “......”
หยุนเจิ้นซง “.......”
หยุนหว่านหนิง “.......”
นางหันมามองลูกด้านข้างอย่างนิ่งอึ้ง เจ้าลูกชาย ใช้ได้จริงๆ
หยวนเป่าพูดตอบนางอย่างเงียบๆว่า ธรรมดาอันดับสามของโลก ล้วนเรียนรู้มาจากพ่อแม่ทั้งนั้น
หยุนหว่านหนิงกลั้นเสียงหัวเราะไว้
นางกับโม่เยว่ สอนเจ้าลูกคนนี้หลอกลวงคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?
หยุนเจิ้นซงก็ตกใจอย่างมาก มองดูหยวนเป่าอย่างตกตะลึงตาค้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไรนะ? หนึ่งล้านตำลึง? ข้าพูดแบบนี้จริงๆหรือ?”
เขาไม่เคยไปยืมเงินหยุนหว่านหนิงนี่
เห็นเขาแสดงท่าทีไม่อยากเชื่อ หยวนเป่ากวาดสายตามองดูทุกคนอย่างเคร่งขรึม พร้อมพูดขึ้นว่า “ทุกคนสามารถเป็นพยานได้”
“ทุกคนบอกกับท่านตา เมื่อกี้เขาพูดประโยคนี้ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...