ไม่รอให้โม่เยว่ทันพูดอะไร ก็ได้ยินโม่จงหรานพูดด้วยน้ำเสียงจนใจว่า "เจ้ากลับไปบอกหว่านหนิงว่า ถ้าเล่นสนุกพอแล้ว ก็ปล่อยฮองเฮาไปเถอะ!"
โม่เยว่: "....."
“เสด็จพ่อ ลูกบอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าเสด็จแม่ไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือของหนิงเอ๋อร์”
เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
โม่จงหรานกระแอมเบา ๆ "เอาเถอะ ๆ ข้าอ่านหนังสือของข้าต่อดีกว่า! เจ้าแค่ไปบอกหว่านหนิงว่าทุกเรื่องล้วนต้องมีขีดจำกัด ไม่ควรเกินเลยจนส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตใครเข้า!"
เขาเอ็นดูลูกสะใภ้ของเขาคนนี้มากถึงขนาดนี้แค่คนเดียวเลยจริง ๆ!
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ใครที่มันบังอาจพาตัวฮองเฮาผู้ทรงเกียรติออกไปแบบนี้ มีหรือจะไม่ถูกฮ่องเต้ตามไปเอาผิดถึงที่?!
โม่เยว่มีสีหน้าเรียบเฉย "หนิงเอ๋อร์ไม่ได้ทำพ่ะย่ะค่ะ"
โม่จงหราน: "....."
เขาอ่านหนังสือของเขาไปดีกว่า
*ในหนังสือซ่อนไว้ซึ่งอนงค์น้อง ในตำราซ่อนไว้ซึ่งบ้านเรือนทอง* ในหนังสือไม่มีลูกชายตัวแสบที่ทำให้เขาต้องโกรธ (* ประโยคนี้เป็นบทกลอนจีน สื่อถึงเป้าหมายในการอ่านหนังสือว่าคนขยันอ่านจะได้ประโยชน์ และได้รับความสนุกเพลิดเพลิน)
...........................
ณ.ตำหนักสิงกง
หลังได้รับการรักษาจากหยุนหว่านหนิงเมื่อปีที่แล้ว ไทเฮากู้ก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นมาก!
ครั้งนี้หยุนหว่านหนิงพาหยวนเป่ามาเยี่ยมไทเฮากู้ เป็นเพราะแค่อยากมาพบหน้าเท่านั้น ไม่ใช่เพราะไทเฮากู้สุขภาพไม่ค่อยดี
หลังจากที่หนึ่งแก่หนึ่งเด็กนอนกลางวันแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ไปนั่งดื่มชาที่ระเบียง
ตำหนักสิงกงตั้งอยู่ในสถานที่ที่เย็นชื้น แม้จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว ดวงอาทิตย์ขึ้นจนเหนือศีรษะ แต่อากาศก็ยังหนาวเย็นอยู่มาก
เมื่อเห็นนางนั่งอยู่ที่ระเบียง หรูเยียนก็เดินเข้ามา ห่มเสื้อคลุมลงบนไหล่ของนาง "พระชายา ท่านสวมแค่เสื้อถังเฟิงมีแนวโน้มที่จะเป็นหวัดง่าย ท่านโปรดระวังสุขภาพด้วย"
“ร่างกายของข้าทำจากเหล็ก ที่บ้านข้าเรียกกันว่าคอนกรีตเสริมใยเหล็ก จะต้องกลัวอะไรล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงไม่สนใจเลยสักนิด
ในเวลานี้เอง พิราบสื่อสารตัวหนึ่งก็กระพือปีกบินอยู่เหนือหัวทั้งคู่ สุดท้ายก็ทิ้งตัวลงบนฝ่ามือของหรูเยียน
นางหยิบจดหมายออกจากขาของนกพิราบ คลี่ออกอ่านแล้วยื่นส่งไปให้หยุนหว่านหนิง "พระชายา หรูอวี้ส่งจดหมายมาถามเจ้าค่ะ"
"เรื่องอะไรรึ?"
หยุนหว่านหนิงไม่รับจดหมาย
"หรูอวี้ถามพระชายาว่า ทางฮองเฮาจะให้จัดการอย่างไร?"
หยุนหว่านหนิงตะลึงอึ้งค้าง "ฮองเฮา?"
"เจ้าค่ะ ท่านไม่ได้สั่งให้หรูอวี้จับฮองเฮาไปแขวนไว้ที่ตำหนักร้าง ที่อยู่หลังตำหนักชิงชิวหรอกหรือเจ้าคะ?!"
เมื่อเห็นว่าพระชายาถึงกับลืมไปแล้ว หรูเยียนก็อดกุมหน้าผากไม่ได้ "พระชายา เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ท่านคงไม่ได้ลืมไปแล้วหรอกนะเจ้าคะ?!"
หยุนหว่านหนิงวางถ้วยชาลงอย่างเซ่อซ่า "ยังแขวนนางอยู่เหรอ?!"
หรูเยียน: "....นี่ไม่ใช่เพราะท่านสั่งไว้หรือเจ้าคะ?"
“ถ้าไม่มีคำสั่งของท่าน หรูอวี้ก็ไม่กล้าปล่อยนางลงมาหรอกเจ้าค่ะ”
นางก้มลงอ่านจดหมายอีกครั้ง
นี่เป็นลายมือของหรูอวี้แน่นอน เขียนหวัดเหมือนยันต์ไล่ผีแบบนี้ แค่เห็นแวบเดียวก็จำได้แล้ว
"หรูอวี้บอกว่า เขากลัวว่าฮองเฮาจะเกิดเรื่องร้าย ทุกวันตอนค่ำเขาจึงไปแกล้งหลอกเป็นผี เพื่อจะทำให้ฮองเฮาตกใจจนหมดสติไป จากนั้นค่อยป้อนน้ำป้อนอาหารให้นาง แถมยังช่วยนวดแขนนวดขาให้ เพื่อเสริมการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้นด้วย"
โดนแขวนแบบนี้ทุกวัน ถ้าไม่อดตาย ก็คงตายเพราะระบบเลือดไหลเวียนไม่ได้ ไม่ก็เลือดคั่งจนตายไปเสียก่อน
หรูอวี้ผู้น่าสงสาร ไหนจะต้องแกล้งทำเป็นผีไปหลอกให้นางตกใจ ไหนจะต้องป้อนข้าวป้อนน้ำดูแลเรื่องขับถ่ายให้ฮองเฮา แม้กระทั่งนวดให้นางด้วย!
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังต้องคอยระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าเจ้านายของตัวเองจะรู้เรื่องนี้เข้า.....
“หรูอวี้ผู้น่าสงสาร!”
หยุนหว่านหนิงถอนหายใจเฮือก "ตอบเขากลับไปว่า ให้เขาปล่อยฮองเฮาไปได้แล้ว"
ไม่ต้องเตือนอะไรให้มาก หรูอวี้ก็คงจะรู้ว่าควรต้องทำอย่างไรต่อไป
ด้วยเหตุนี้เอง คืนนั้นทั้งตำหนักคุนหนิงก็วุ่นวายโกลาหล ประดุจดั่งถูกระเบิดลงก็ไม่ปาน!
ในตอนที่จางหมัวมัวมาทำหน้าที่อยู่เฝ้าในตอนค่ำ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดัง "ตึง" แว่วมาจากห้องโถง!
นางวิ่งเข้าไปดู จึงเห็นว่าเหนียงเหนียงของนางที่หายตัวไปนาน.....ถึงกับหล่นลงมาจากฟ้า แล้วร่วงลงบนเตียงนอนอย่างพอดิบพอดี!
จางหมัวมัวขยี้ตา ยังคิดว่าตัวเองคงจะตาฝาดจนมองผิดไปแน่ ๆ
เพราะนอกจากนางแล้ว ไม่มีใครขวัญกล้าบังอาจขนาดนี้อีกหรอก!
ตอนนี้เพื่อเป็นการช่วยปกปิดคำโกหกของลูกสะใภ้ เขาจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นโง่ปล่อยให้โดนจูงจมูกต่อไปเท่านั้นแล้ว
“ฝ่าบาททรงตรัสได้มีเหตุผลนัก!”
เต๋อเฟยพยักหน้า ส่งจดหมายคืนให้จางหมัวมัว "เผาทิ้งเสียเถอะ"
"เต๋อเฟยเหนียงเหนียง ไม่ได้นะเพคะ! นี่เป็นถึงข้อความจากเจ้าแม่กวนอิมเชียวนะ เราต้องบูชาอย่างระมัดระวังถึงจะถูกต้อง ควรจุดธูปสักการะไม่ให้ขาด ! ทำเช่นนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมถึงจะพอใจ!"
จางหมัวมัวสีหน้าเคร่งขรึม รับจดหมายด้วยมือทั้งสองข้าง นำไปเก็บไว้ในอกเสื้อด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง
เต๋อเฟย: ".....ถ้าอย่างนั้นก็บูชาเถอะ"
เพราะถึงยังไงก็บูชาในตำหนักคุนหนิงอยู่แล้ว
ทำแบบนี้ จะช่วยให้ฮองเฮาจ้าวจดจำได้ดี เมื่อนางได้เห็นจดหมายนี้ทุกวัน จะได้หวนนึกถึงวันเวลาที่ถูก "พระโพธิสัตว์กวนอิม" มาพาตัวไปอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี!
นับตั้งแต่ตอนที่ถูกโม่จงหรานผลักออกไป วิญญาณของฮองเฮาจ้าวก็มีอันล่องลอยออกจากร่างไปแล้วเรียบร้อย
นางถูกทรมานมาตลอดช่วงเวลานี้ เหนื่อยล้าไปหมดทั้งกายและใจแล้วจริง ๆ
เมื่อหลายวันก่อน นางถูกทำให้ตกใจจนแทบเสียขวัญสูญวิญญาณ แต่เวลาต่อมา นางก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนสติกลับมา
จะเห็นได้ว่าที่ใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่าคนเลวมักอายุยืน ประโยคนี้ไม่ใช่แค่คำพูดลอย ๆ เลย
แต่ถึงกระนั้น ฮองเฮาจ้าวก็หลงเหลือ "ผลสืบเนื่องของโรค" ตกค้างในใจ
ตอนกลางคืนนางไม่กล้าให้คนดับไฟ เดิมทีจางหมัวมัวซึ่งต้องเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูตลอดคืน ต้องมานอนหมอบอยู่ข้างเตียงคอยเฝ้านางไว้ นางถึงจะนอนหลับได้อย่างสงบสุข
ก่อนที่นางจะถูกจับไป หนานกงเยว่ก็ถูกโม่หุยเหยียนทำให้โกรธจนหนีกลับบ้านเดิมไปแล้ว
เดิมทีฮองเฮาจ้าวไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลย
หนานกงเยว่ไม่ใช่ลูกรักของฮ่องเต้ตงจวิ้น ดังนั้นนางจึงไม่เคยเห็นลูกสะใภ้คนนี้อยู่ในสายตา แต่ตอนนี้สถานการณ์หลายอย่างเปลี่ยนไป ฮองเฮาจ้าวเริ่มจะตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว
นางเริ่มปรับใช้ทุกอย่างที่มี พยายามต่อสู้เพื่อพลิกสถานการณ์กลับ
นางไม่เพียงแต่มีบทสนทนาลับกับโม่หุยเหยียน (ซึ่งผลที่ออกมาเป็นไก่กับเป็ดคุยกันโดยแท้ การแปลความหมายจากภาษามือของจางหมัวมัวมีปัญหาอย่างหนัก) ทั้งยังส่งคนไปที่ตงจวิ้นเพื่อรับตัวหนานกงเยว่กลับมา รวมถึงสั่งให้คนพาตัวฉินซื่อเสวียที่คุ้มดีคุ้มร้ายเข้าวังมาด้วย
ฉินซื่อเสวียไม่ได้ออกไปข้างนอกมาหลายเดือนแล้ว
ตอนนี้พอถูกนำตัวมาอยู่ต่อหน้าฮองเฮา หลังจากได้เห็นรูปร่างหน้าตาของนางอย่างชัดเจนแล้ว ฮองเฮาจ้าวก็ตกตะลึงจนตาค้างไปเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...