อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 488

มังกรตาเดียวหันกลับไปมองตามเสียง ข้างหลังของเขาเป็น "ตาแก่โกโรโกโส" คนหนึ่ง

ผมของเขาดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่ามังกรตาเดียวมองมาที่เขาด้วยสายตาพินิจ ก็อุตส่าห์จัดแจงเส้นผมที่ยุ่งเหยิงรุงรัง กับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยเละเทะให้เข้าที่

มังกรตาเดียวขมวดคิ้วแน่นเป็นปม

ขอทานเฒ่าคนนี้โผล่มาจากไหนกันล่ะเนี่ย? !

แถมยังรู้ชื่อกูหน่ายนายของเขา แถมยังกล้าเรียกกูหน่ายนายด้วยชื่ออีก.....

กูหน่ายนายของเขา ช่างเป็นคนที่ชอบคบเพื่อนหลากหลายดีจริง ๆ !

มังกรตาเดียวฝืนระงับความคิดของตัวเองไว้ เดินเข้าไปหาชายชราสองสามก้าว แล้วถามว่า "เจ้ารู้จักกูหน่ายนายของข้าด้วยรึ?"

"ไม่ใช่แค่รู้จักหรอกนะ พวกเรายังถึงกับเป็น......"

ชายชรายังพูดไม่ทันจบ ทหารองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ "ตาแก่คนนี้ จะคุยโม้ก็ให้มีขอบเขตหน่อยเถอะ! พระชายาของพวกเราจะไปรู้จักคนอย่างเขาได้ยังไงกัน?"

หลายคนหัวเราะดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง

ชายชราเริ่มโกรธแล้ว "พวกเจ้ารีบหลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ ข้าต้องการพบหยุนหว่านหนิง!"

"นังตัวดีหยุนหว่านหนิงนั่นอยู่ที่ไหน?! ออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!"

“ไป๊ ๆ ๆ อย่ามาตะโกนโหวกเหวกโวยวายที่นี่ รบกวนการพักผ่อนของไทเฮากับพระชายา ยังมีเสี่ยวเตี้ยนเซี่ยอีกคน! ที่ไหนเย็นสบายก็ไปอยู่ที่นั่นไป๊!”

ทหารองครักษ์ไล่เขาออกไปอย่างหมดความอดทน

พอเห็นหอกยาวในมือพวกเขาแล้ว.....

ชายชราที่เมื่อครู่ยังทำท่าวางอำนาจเสียใหญ่โต ก็เก็บมือเก็บไม้แล้วก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะย่อตัวนั่งยอง ๆ ลงใต้ร่มเงาของต้นไม้ฝั่งตรงข้าม

เมื่อเห็นดังนี้ มังกรตาเดียวก็รีบวิ่งเข้าไปหา "เจ้าไม่ได้บอกว่าอยากพบกูหน่ายนายของข้าหรอกรึ? แล้วมานั่งยอง ๆ ทำอะไรตรงนี้? รีบคิดหาทางเข้าสิ!"

"ก็ตรงนี้มันเย็นสบายดี"

ชายชราค่อย ๆ พ่นคำพูดออกมาช้า ๆ

มังกรตาเดียว: "....."

สรุปว่าที่ไหนเย็นสบาย ก็ไปอยู่ที่นั่นจริง ๆ เสียด้วย!

ตาแก่โกโรโกโสคนนี้ ดูท่าแล้วไม่น่าจะพึ่งพาอะไรได้แล้วล่ะ

เขาได้แต่เกาหัวไปมา พยายามคิดหาหนทางด้วยตัวเอง

ใครจะคิดว่าจู่ ๆ ชายชราจะลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน ชี้ไปที่ป่าผืนใหญ่ที่อยู่ทางประตูหลังของตำหนักสิงกง "ที่นั่นดูแล้วน่าจะเย็นสบายกว่า พวกเราไปพักที่นั่นกันเถอะ!"

มังกรตาเดียวโบกมือไปมาด้วยท่าทางรังเกียจ “เจ้าอยากไปก็ไปเถอะ ข้าจะรอให้กูหน่ายนายออกมาอยู่ตรงนี้แหล่ะ”

“ไอ้หนู เจ้ามากับข้า!”

ชายชราไม่เปิดโอกาสให้เขาทรุดตัวลงนั่ง คว้าคอเสื้อของเขา ประดุจพญาอินทรีที่คว้าคอลูกเจี๊ยบ ถึงกับหิ้วตัวมังกรตาเดียวไปได้อย่างง่ายดาย!

พวกทหารองครักษ์ถึงกับมองกันจนตาค้าง!

แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขาเดินไปทางป่านั้นจริง ๆ พวกทหารก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

ขณะที่ถูกมือของชายชราหิ้วคออยู่ มังกรตาเดียวก็ตกตะลึงจนเซ่อไปเลย!

ต้องรู้ก่อนว่า เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ที่สูงถึงเจ็ดฉื่อ หนักถึงหนึ่งร้อยแปดสิบจินเลยเชียวนะ.....

แต่ตาแก่ที่ดูแล้วท่าทางอ่อนแอจนแทบจะต้านลมไม่ได้คนนี้ ถึงกับใช้มือแค่ข้างเดียวหิ้วคอเขาจนตัวลอยได้ขนาดนี้เลยรึ? !

นี่มัน....ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ในวันปกติ ล้วนเป็นเขาที่ได้อยู่ในฐานะหิ้วคอคนอื่น แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกคนอื่นหิ้วคอ อีกทั้งคนที่หิ้วยังเป็นตาแก่โกโรโกโสคนหนึ่ง ที่ดูแล้วเหมือนไม่มีแม้แต่แรงจะหักคอไก่ด้วยซ้ำ นี่ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาได้เป็นคำพูดจริง ๆ

มังกรตาเดียวมองไปข้างหน้าด้วยอาการปากอ้าตาค้าง จนกระทั่งเขาถูกตาแก่โยนโครมลงไปบนพื้น

"ยังจะรออีกรึ?"

เขาแค่นเสียงถาม “เจ้าไม่ได้มาบอกเรื่องอะไรให้นังตัวดีนั่นหรอกหรือ?”

“ถ้าไม่คิดหาทางเข้าไป รอจนพระอาทิตย์ตกดิน นังตัวดีนั่นก็ไม่มีทางออกมาหรอก! นางขี้เกียจจนแทบจะกลายเป็นหมูอยู่แล้ว จะวิ่งออกมาอาบแดดเองได้รึ?!"

“เจ้ารู้ว่าข้ามาเพื่อส่งข้อความให้กูหน่ายนาย?!”

เมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของตาแก่คนนี้ มังกรตาเดียวก็เกิดความรู้สึกเหลือเชื่อขึ้นมา

ตาแก่คนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว หรือเขาจะเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจแต่ไม่เปิดเผยตัว? !

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็เห็นตาแก่คนนั้นโน้มตัวลงมา แล้วคว้าคอเขาขึ้นจากพื้นอีกครั้ง

จากนั้น ——

ก็ยกตัวเขาขึ้นตรง ๆ แล้วโยนเขาข้ามกำแพงสูงใหญ่ที่ล้อมอยู่เข้าไป!

ร่างอ้วนเทอะทะของมังกรตาเดียวตีลังกากลางอากาศเป็นมุมโค้งขนาดใหญ่ ก่อนจะตกลงบนพื้นแล้วกลิ้งหลุน ๆ ไปตามริมกำแพงด้านใน โชคดีที่ใต้ตัวเขามีหญ้าอยู่ ลำตัวเขาทั้งใหญ่และอ้วนหนา จึงไม่ค่อยรู้สึกเจ็บจากการร่วงตกลงไป

"หลบไป!"

เสียงของตาแก่คนนั้นดังมาจากนอกกำแพง

“ท่านแม่ ข้าจะปกป้องท่านเอง!”

หยวนเป่ารีบตั้งท่าพร้อมรับมือทันที

ในขณะที่ "วัตถุที่ไม่อาจระบุได้แน่ชัด" นั้นเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นได้ชัดว่านั่นคือใคร..... สีหน้าของหยวนเป่าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ "ท่านปู่เสวียนซัน! ท่านมาได้ยังไงล่ะเนี่ย?!"

“เสวียนซันเซียนเซิง?!”

หยุนหว่านหนิงตกใจไม่แพ้กัน ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว "ท่านมีธุระอะไร?"

สัญชาตญาณบอกนางว่า ตาแก่คนนี้จะต้อง "ไม่ได้มาดี"แน่ ๆ!

มาหานางแบบนี้ จะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!

"เจ้ากลัวอะไรน่ะ?"

เสวียนซันเซียนเซิงอุ้มหยวนเป่า ค่อยหันไปจ้องนางตาเขม็ง แล้วพูดจนหนวดเคราปลิวไสวว่า "ข้าอุตส่าห์เดินทางนับพันลี้ จากเมืองหลวงมาจนถึงที่นี่เพื่อตามหาเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รู้สึกซาบซึ้งใจเลยอย่างนั้นรึ?!"

“ข้าไม่กล้าเคลื่อนย้ายจริง ๆ นั่นแหล่ะ”

หยุนหว่านหนิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองเขาอย่างระแวดระวัง "มีอะไรก็รีบพูดมา เจ้ามาหาข้าทำไม?"

"คือว่าอย่างนี้"

เสวียนซันเซียนเซิงวางหยวนเป่าลง ถูมือไปมาพลางยิ้มจนตายิบหยี "เมื่อคืนข้าออกไปเดินเล่น ได้เห็นคนงามคนหนึ่งที่ทั้งร่างเปล่งประกายเป็นลำแสงสีขาว!"

“คนงาม? ทั้งร่างเปล่งประกายเป็นลำแสงสีขาวขาว? แถมยังปรากฏตัวในเวลากลางคืน?”

หยุนหว่านหนิงสีหน้าตื่นตะลึง "ไม่ใช่ว่าเจ้าเห็นผีเข้าแล้วหรอกนะ?!"

“แน่นอนว่าไม่ใช่! ถ้าผีมาเห็นข้ายังต้องหลบไปไกล ๆ เลยต่างหาก!”

เสวียนซันเซียนเซิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "เป็นคนงามจริง ๆ ! แต่เพราะข้าไม่มีความกล้าพอจะเข้าไปทักทาย ข้าไปขอร้องจื่ออวี๋ราวกับอ้อนวอนปู่กราบกรานย่าว่าช่วยข้าหน่อย เจ้าเด็กนั่นก็ไม่ยอมช่วยข้าเลย!"

"ด้วยความจนใจ ข้าจึงทำได้แค่....."

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงพูดกระหืดกระหอบดังขึ้นมาจากด้านหลังว่า "กูหน่ายนาย!"

เมื่อได้ยินเสียงนี้ หยุนหว่านหนิงก็รู้ว่ามังกรตาเดียวมาแล้ว

เมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อยล้าทั้งใจกาย แถมเหมือนเพิ่งจะถูกเหยียบมาของเขาแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ถอยหลังไปอีกก้าวด้วยท่าทางรังเกียจ "แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่อีกล่ะ?"

“วันนี้พวกเจ้าวิ่งไล่ตามกันมารึ? หรือว่ามาด้วยกัน?”

มังกรตาเดียวหอบฮั่กเหมือนวัวแก่ ๆ "ไม่ใช่! กูหน่ายนาย ข้ามาส่งข้อความให้ท่านโดยเฉพาะ! ที่เมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์