มังกรตาเดียวหันกลับไปมองตามเสียง ข้างหลังของเขาเป็น "ตาแก่โกโรโกโส" คนหนึ่ง
ผมของเขาดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่ามังกรตาเดียวมองมาที่เขาด้วยสายตาพินิจ ก็อุตส่าห์จัดแจงเส้นผมที่ยุ่งเหยิงรุงรัง กับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยเละเทะให้เข้าที่
มังกรตาเดียวขมวดคิ้วแน่นเป็นปม
ขอทานเฒ่าคนนี้โผล่มาจากไหนกันล่ะเนี่ย? !
แถมยังรู้ชื่อกูหน่ายนายของเขา แถมยังกล้าเรียกกูหน่ายนายด้วยชื่ออีก.....
กูหน่ายนายของเขา ช่างเป็นคนที่ชอบคบเพื่อนหลากหลายดีจริง ๆ !
มังกรตาเดียวฝืนระงับความคิดของตัวเองไว้ เดินเข้าไปหาชายชราสองสามก้าว แล้วถามว่า "เจ้ารู้จักกูหน่ายนายของข้าด้วยรึ?"
"ไม่ใช่แค่รู้จักหรอกนะ พวกเรายังถึงกับเป็น......"
ชายชรายังพูดไม่ทันจบ ทหารองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ "ตาแก่คนนี้ จะคุยโม้ก็ให้มีขอบเขตหน่อยเถอะ! พระชายาของพวกเราจะไปรู้จักคนอย่างเขาได้ยังไงกัน?"
หลายคนหัวเราะดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ชายชราเริ่มโกรธแล้ว "พวกเจ้ารีบหลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ ข้าต้องการพบหยุนหว่านหนิง!"
"นังตัวดีหยุนหว่านหนิงนั่นอยู่ที่ไหน?! ออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
“ไป๊ ๆ ๆ อย่ามาตะโกนโหวกเหวกโวยวายที่นี่ รบกวนการพักผ่อนของไทเฮากับพระชายา ยังมีเสี่ยวเตี้ยนเซี่ยอีกคน! ที่ไหนเย็นสบายก็ไปอยู่ที่นั่นไป๊!”
ทหารองครักษ์ไล่เขาออกไปอย่างหมดความอดทน
พอเห็นหอกยาวในมือพวกเขาแล้ว.....
ชายชราที่เมื่อครู่ยังทำท่าวางอำนาจเสียใหญ่โต ก็เก็บมือเก็บไม้แล้วก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะย่อตัวนั่งยอง ๆ ลงใต้ร่มเงาของต้นไม้ฝั่งตรงข้าม
เมื่อเห็นดังนี้ มังกรตาเดียวก็รีบวิ่งเข้าไปหา "เจ้าไม่ได้บอกว่าอยากพบกูหน่ายนายของข้าหรอกรึ? แล้วมานั่งยอง ๆ ทำอะไรตรงนี้? รีบคิดหาทางเข้าสิ!"
"ก็ตรงนี้มันเย็นสบายดี"
ชายชราค่อย ๆ พ่นคำพูดออกมาช้า ๆ
มังกรตาเดียว: "....."
สรุปว่าที่ไหนเย็นสบาย ก็ไปอยู่ที่นั่นจริง ๆ เสียด้วย!
ตาแก่โกโรโกโสคนนี้ ดูท่าแล้วไม่น่าจะพึ่งพาอะไรได้แล้วล่ะ
เขาได้แต่เกาหัวไปมา พยายามคิดหาหนทางด้วยตัวเอง
ใครจะคิดว่าจู่ ๆ ชายชราจะลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน ชี้ไปที่ป่าผืนใหญ่ที่อยู่ทางประตูหลังของตำหนักสิงกง "ที่นั่นดูแล้วน่าจะเย็นสบายกว่า พวกเราไปพักที่นั่นกันเถอะ!"
มังกรตาเดียวโบกมือไปมาด้วยท่าทางรังเกียจ “เจ้าอยากไปก็ไปเถอะ ข้าจะรอให้กูหน่ายนายออกมาอยู่ตรงนี้แหล่ะ”
“ไอ้หนู เจ้ามากับข้า!”
ชายชราไม่เปิดโอกาสให้เขาทรุดตัวลงนั่ง คว้าคอเสื้อของเขา ประดุจพญาอินทรีที่คว้าคอลูกเจี๊ยบ ถึงกับหิ้วตัวมังกรตาเดียวไปได้อย่างง่ายดาย!
พวกทหารองครักษ์ถึงกับมองกันจนตาค้าง!
แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขาเดินไปทางป่านั้นจริง ๆ พวกทหารก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
ขณะที่ถูกมือของชายชราหิ้วคออยู่ มังกรตาเดียวก็ตกตะลึงจนเซ่อไปเลย!
ต้องรู้ก่อนว่า เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ที่สูงถึงเจ็ดฉื่อ หนักถึงหนึ่งร้อยแปดสิบจินเลยเชียวนะ.....
แต่ตาแก่ที่ดูแล้วท่าทางอ่อนแอจนแทบจะต้านลมไม่ได้คนนี้ ถึงกับใช้มือแค่ข้างเดียวหิ้วคอเขาจนตัวลอยได้ขนาดนี้เลยรึ? !
นี่มัน....ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ในวันปกติ ล้วนเป็นเขาที่ได้อยู่ในฐานะหิ้วคอคนอื่น แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกคนอื่นหิ้วคอ อีกทั้งคนที่หิ้วยังเป็นตาแก่โกโรโกโสคนหนึ่ง ที่ดูแล้วเหมือนไม่มีแม้แต่แรงจะหักคอไก่ด้วยซ้ำ นี่ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาได้เป็นคำพูดจริง ๆ
มังกรตาเดียวมองไปข้างหน้าด้วยอาการปากอ้าตาค้าง จนกระทั่งเขาถูกตาแก่โยนโครมลงไปบนพื้น
"ยังจะรออีกรึ?"
เขาแค่นเสียงถาม “เจ้าไม่ได้มาบอกเรื่องอะไรให้นังตัวดีนั่นหรอกหรือ?”
“ถ้าไม่คิดหาทางเข้าไป รอจนพระอาทิตย์ตกดิน นังตัวดีนั่นก็ไม่มีทางออกมาหรอก! นางขี้เกียจจนแทบจะกลายเป็นหมูอยู่แล้ว จะวิ่งออกมาอาบแดดเองได้รึ?!"
“เจ้ารู้ว่าข้ามาเพื่อส่งข้อความให้กูหน่ายนาย?!”
เมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของตาแก่คนนี้ มังกรตาเดียวก็เกิดความรู้สึกเหลือเชื่อขึ้นมา
ตาแก่คนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว หรือเขาจะเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจแต่ไม่เปิดเผยตัว? !
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็เห็นตาแก่คนนั้นโน้มตัวลงมา แล้วคว้าคอเขาขึ้นจากพื้นอีกครั้ง
จากนั้น ——
ก็ยกตัวเขาขึ้นตรง ๆ แล้วโยนเขาข้ามกำแพงสูงใหญ่ที่ล้อมอยู่เข้าไป!
ร่างอ้วนเทอะทะของมังกรตาเดียวตีลังกากลางอากาศเป็นมุมโค้งขนาดใหญ่ ก่อนจะตกลงบนพื้นแล้วกลิ้งหลุน ๆ ไปตามริมกำแพงด้านใน โชคดีที่ใต้ตัวเขามีหญ้าอยู่ ลำตัวเขาทั้งใหญ่และอ้วนหนา จึงไม่ค่อยรู้สึกเจ็บจากการร่วงตกลงไป
"หลบไป!"
เสียงของตาแก่คนนั้นดังมาจากนอกกำแพง
“ท่านแม่ ข้าจะปกป้องท่านเอง!”
หยวนเป่ารีบตั้งท่าพร้อมรับมือทันที
ในขณะที่ "วัตถุที่ไม่อาจระบุได้แน่ชัด" นั้นเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นได้ชัดว่านั่นคือใคร..... สีหน้าของหยวนเป่าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ "ท่านปู่เสวียนซัน! ท่านมาได้ยังไงล่ะเนี่ย?!"
“เสวียนซันเซียนเซิง?!”
หยุนหว่านหนิงตกใจไม่แพ้กัน ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว "ท่านมีธุระอะไร?"
สัญชาตญาณบอกนางว่า ตาแก่คนนี้จะต้อง "ไม่ได้มาดี"แน่ ๆ!
มาหานางแบบนี้ จะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!
"เจ้ากลัวอะไรน่ะ?"
เสวียนซันเซียนเซิงอุ้มหยวนเป่า ค่อยหันไปจ้องนางตาเขม็ง แล้วพูดจนหนวดเคราปลิวไสวว่า "ข้าอุตส่าห์เดินทางนับพันลี้ จากเมืองหลวงมาจนถึงที่นี่เพื่อตามหาเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รู้สึกซาบซึ้งใจเลยอย่างนั้นรึ?!"
“ข้าไม่กล้าเคลื่อนย้ายจริง ๆ นั่นแหล่ะ”
หยุนหว่านหนิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองเขาอย่างระแวดระวัง "มีอะไรก็รีบพูดมา เจ้ามาหาข้าทำไม?"
"คือว่าอย่างนี้"
เสวียนซันเซียนเซิงวางหยวนเป่าลง ถูมือไปมาพลางยิ้มจนตายิบหยี "เมื่อคืนข้าออกไปเดินเล่น ได้เห็นคนงามคนหนึ่งที่ทั้งร่างเปล่งประกายเป็นลำแสงสีขาว!"
“คนงาม? ทั้งร่างเปล่งประกายเป็นลำแสงสีขาวขาว? แถมยังปรากฏตัวในเวลากลางคืน?”
หยุนหว่านหนิงสีหน้าตื่นตะลึง "ไม่ใช่ว่าเจ้าเห็นผีเข้าแล้วหรอกนะ?!"
“แน่นอนว่าไม่ใช่! ถ้าผีมาเห็นข้ายังต้องหลบไปไกล ๆ เลยต่างหาก!”
เสวียนซันเซียนเซิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "เป็นคนงามจริง ๆ ! แต่เพราะข้าไม่มีความกล้าพอจะเข้าไปทักทาย ข้าไปขอร้องจื่ออวี๋ราวกับอ้อนวอนปู่กราบกรานย่าว่าช่วยข้าหน่อย เจ้าเด็กนั่นก็ไม่ยอมช่วยข้าเลย!"
"ด้วยความจนใจ ข้าจึงทำได้แค่....."
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงพูดกระหืดกระหอบดังขึ้นมาจากด้านหลังว่า "กูหน่ายนาย!"
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หยุนหว่านหนิงก็รู้ว่ามังกรตาเดียวมาแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อยล้าทั้งใจกาย แถมเหมือนเพิ่งจะถูกเหยียบมาของเขาแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ถอยหลังไปอีกก้าวด้วยท่าทางรังเกียจ "แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่อีกล่ะ?"
“วันนี้พวกเจ้าวิ่งไล่ตามกันมารึ? หรือว่ามาด้วยกัน?”
มังกรตาเดียวหอบฮั่กเหมือนวัวแก่ ๆ "ไม่ใช่! กูหน่ายนาย ข้ามาส่งข้อความให้ท่านโดยเฉพาะ! ที่เมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...