จวนอ๋องฉู่ช่วงนี้อึมครึม น่ากลัวกว่าเมฆดำบนท้องฟ้าเสียอีก
โม่หุยเหยียนทำหน้าบึ้ง ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มเลย
หลังจากวันนั้นที่ล่ายซื่อถูกบังคับให้ทำแท้ง ก็เหลือแค่ลมหายใจสุดท้ายแล้ว แต่ตอนนี้จวนอ๋องวุ่นวายมาก ไม่มีใครสนใจนางเลย
มีแต่วังอี๋เหนียงที่มาเยี่ยมนาง
ทำเอาล่ายซื่อที่ถูกทอดทิ้งรู้สึกซึ้งใจ เหมือนจับเชือกฟางเส้นสุดท้ายไว้ได้
“พี่วัง”
นางพยายามลุกขึ้นจับมือของวังอี๋เหนียงไว้ “ข้าทำอะไรผิดกันแน่ ทำไมท่านอ๋องถึงทำเช่นนี้กับข้า! นั่น นั่นเป็นทารกชายที่มีรูปร่างแล้วนะ!”
นางยังอยากใช้เด็กคนนี้ ในการพลิกชะตาให้ตัวเอง
ถึงแม้จะไม่ถึงกับได้ตำแหน่งพระชายาหนานกงเยว่
แต่ยังไงก็ยังได้เป็นรองหนานกงเยว่ และเป็นใหญ่กว่าวังอี๋เหนียง……
ตอนนี้ ฝันหวานของนางดับสลายไปแล้ว!
“น้องล่าย”
วังอี๋เหนียงมองอย่างเห็นใจ “ไม่โทษเจ้าหรอก ไม่รู้ว่าท่านอ๋องเป็นอะไรไป เหมือนถูกผีเข้าสิงเลย”
“อย่าว่าแต่เด็กผู้ชายเลย ถึงจะเป็นเด็กผู้หญิง ก็เป็นเลือดเนื้อของท่านอ๋องเหมือนกัน! ไม่รู้จริงๆว่าท่านอ๋องทำลงไปได้ยังไง”
นางถอนหายใจเบาๆ “แต่การตัดสินใจของท่านอ๋อง เราจะขัดก็ไม่ได้”
“เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว พี่ทำได้แค่ปลอบใจเจ้า!”
“แต่ว่าพี่วัง เด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อในท้องของข้านะ! ข้าจะไม่เสียใจได้ยังไง?”
ล่ายซื่อร้องห่มร้องไห้
เห็นนางร้องไห้เสียใจ วังอี๋เหนียงก็แอบหัวเราะในใจ
ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าเด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อที่ตกมาจากท้องของนาง?!
ตอนนั้นนางได้รับคำสั่งจากฮองเฮาจ้าวกับโม่หุยเหยียน อยากได้หยวนเป่ามาครอบครอง อยากเป็นแม่ของหยวนเป่า ในสมองมีแต่เลื่อยหรือไง?!
หากไม่เจอเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกยังไง!
และไม่รู้ว่าการพลัดพรากจากลูกมันเป็นยังไง!
“น้างล่าย เจ้ายังสาวอยู่!”
วังอี๋เหนียงถอนหายใจเบาๆ แล้วปลอบใจนาง “ขอแค่เจ้าคว้าหัวใจของท่านอ๋องได้ ยังไงก็ต้องท้องได้อีกแน่นอน!”
ถึงจะพูดเช่นนี้ ล่ายซื่อก็รู้ว่าคงจะยากแล้วล่ะ!
ยังไม่พูดเรื่องที่นางมีหน้าตาที่คล้ายกับฉินซื่อเสวีย ก็ทำให้โม่หุยเหยียนรู้สึกขัดตามากแล้ว
ตอนนั้นได้นอนกับเขา ก็เพราะมีวังอี๋เหนียงที่คอยแอบช่วย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจวนอ๋องในตอนนี้ มีสาวสวยเต็มไปหมด
เมื่อก่อนโม่หุยเหยียนยังอดทน ไม่กล้าให้คนรู้ว่าในจวนเขายังมีหญิงอื่น แต่ตั้งแต่ที่หนานกงเยว่โกรธจนกลับตงจวิ้น เขาก็กำเริบไม่สนใจอะไรเลย
จวนอ๋องฉู่ในตอนนี้ หญิงบำเรอมีอยู่เต็มไปหมด
นางจะเข้าตาโม่หุยเหยียนได้ยังไง?!
“ขอบใจพี่วังที่ปลอบใจข้า แต่ข้า ข้าจะได้เจอท่านอ๋องอีกเมื่อไหร่ล่ะ?”
ล่ายซื่อร้องห่มร้องไห้ “ตอนนี้ข้าไม่ต่างอะไรกับคนไร้ประโยชน์ ท่านอ๋องไม่แม้แต่จะชายตามองข้าเลยด้วยซ้ำ”
“น้องล่ายไม่ต้องคิดมากหรอก”
วังอี๋เหนียงกวาดตามองนาง
เห็นสายตาที่มืดมนของล่ายซื่อ ก็รู้ว่านางรักโม่หุยเหยียนจริงๆ ขอแค่นางยังมีความคิดที่อยากปีนขึ้นไปอีก ก็ไม่มีเรื่องไหนที่จะทำไม่สำเร็จ!
นัยน์ตาของวังอี๋เหนียงประกายไปด้วยความมืดมน
“เรื่องที่น้องต้องเจอ ข้าก็รู้สึกเห็นใจมาก!”
นางมองล่ายซื่ออย่างสงสาร “ถ้าเป็นข้า ก็คงรับความจริงแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน!”
“แต่เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว น้องพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือการรักษาร่างกายให้ดี พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่”
“จะเริ่มต้นใหม่ยังไง?”
ล่ายซื่อท้อแท้
นางเช็ดน้ำตา “ข้าเทียบกับพี่สาวไม่ได้ ถึงพี่จะเป็นอี๋เหนียง แต่ก็มีตำแหน่งในใจท่านอ๋อง ควบคุมทุกอย่างในจวน”
“พระชายาไม่อยู่ พี่ก็เป็นเหมือนพระชายา”
“น้องอย่าพูดจาเช่นนี้สิ! ถ้าคนอื่นได้ยินเข้า ถึงข้าอมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว!”
วังอี๋เหนียงก็น้ำตาไหล “ในจวนอ๋องอันกว้างใหญ่นี้ เจ้ากับข้าก็เหมือนใบแหน มีเพียงคว้าเชือกฟางท่านอ๋องไว้ได้ ถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไป”
“เจ้าวางใจได้ ขอแค่ข้าคว้าท่านอ๋องไว้ได้ เจ้าจับข้าไว้ พวกเราก็จะเชื่อมโยงกัน”
ได้ยินดังนั้น ล่ายซื่อก็ซาบซึ้งจนพูดไม่ออก
นางร้องไห้จนขอบตาแดงก่ำ
แต่หารู้ไหมว่าวังอี๋เหนียงที่กำลังเช็ดน้ำตา นัยน์ตากลับเปล่งประกายอยู่
นางวางผ้าเช็ดหน้าลง แล้วทำท่าอ่อนโยน “น้องล่าย เจ้าต้องดีขึ้นมาเร็วๆนะ!”
“ขอแค่เจ้าดีขึ้นมาแล้ว ลูกที่น่าสงสารของเจ้าถึงจะไปเกิดใหม่ได้”
พอพูดแบบนี้ ล่ายซื่อก็เริ่มสะอื้น
“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดและไม่พอใจ”
วังอี๋เหนียง ‘โน้มน้าวใจ’ “แต่การได้รับความรักจากท่านอ๋อง มีตำแหน่งที่มั่นคงในจวน ก็ถึงจะทวงความยุติธรรมให้เด็กที่น่าสงสารคนนั้นได้!”
นางมองล่ายซื่อด้วยสายตาที่แฝงด้วยความนัย
ล่ายซื่อรู้ตัวช้า แค่คิดว่าวังอี๋เหนียงทำเพื่อนาง
นางรีบพยักหน้า “พี่สาวพูดถูก ข้าจะจำเอาไว้”
“ขอบคุณวันนี้ที่พี่ช่วยเหลือ! หากน้องดีขึ้นมาแล้ว จะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้ของพี่สาวแน่นอน!”
วังอี๋เหนียงก็ถึงยิ้มตอบ “เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ มีเรื่องอะไรก็สั่งพวกเขาได้เลย เดี๋ยวข้าค่อยมาเยี่ยมเจ้าวันหลังนะ”
นางลุกขึ้นเดินออกไป ล่ายซื่อนอนอยู่บนเตียงอย่างซาบซึ้งใจ
วังอี๋เหนียงเดินออกไป แล้วสั่งแม่นมกับผู้คุมเรือนด้านนอก “พวกเจ้าจะต้องดูแลล่ายอี๋เหนียงให้ดีนะ ห้ามมีเรื่องผิดพลาดเด็ดขาด เข้าใจไหม?!”
“เจ้าค่ะ/ขอรับ วังอี๋เหนียง”
ได้ยินเสียงด้านนอก ล่ายซื่อก็น้ำตาไหลอีกครั้ง
นางคิดว่า ‘เพื่อนในยามยากคือเพื่อนแท้’ แต่กลับไม่รู้ว่ายังมีอีกคำที่เรียกว่า ‘ดำเนินการอย่างระมัดระวังรอบคอบทุกจังหวะก้าว ’
ล่ายซื่อรู้สึกซาบซึ้งต่อวังอี๋เหนียง
เพิ่งตอบวังอี๋เหนียงเสร็จ ผู้คุมเรือนก็ถึงเงยหน้าที่เหลือตาข้างเดียว แล้วแสยะยิ้มให้นางอย่างไร้เสียง……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...