อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 508

สีหน้าโม่เยว่เคร่งขรึม

ใครกันที่ไม่รู้กาลเทศะขนาดนี้

กว่าเขาจะได้ใกล้ชิดหัวใจหนิงเอ๋อร์ ยังไม่ได้เพลิดเพลินกับความสุขอย่างสงบ ก็มีคนมารบกวน

“นายท่าน”

ด้านนอกประตูมีเสียงหรูโม่ดังขึ้นว่า “นายท่านกู้กับท่านรองกู้มาหา”

ได้ยินว่าเป็นพวกเขา หยุนหว่านหนิงรีบลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “รีบเชิญท่านตากับท่านลุงมา”

กู้ป๋อจ้งที่ผมหงอกกับกู้หมิงเข้ามาพร้อมกัน แต่วันนี้ไม่ใช่กู้ป๋อจ้งเข็นกู้หมิงเข้ามา แต่เป็นจ้าวเซียวหรานเข็นเขาเข้ามา

เห็นจ้าวเซียวหรานก็มา หยุนหว่านหนิงอึ้งไปสักพัก

แต่นางก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมเรียกขานอย่างดีใจว่า “ท่านตา”

กู้ป๋อจ้งเข้ามา ก็ตรงไปที่ข้างเตียง พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องหมิงรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”

หยุนหว่านหนิงที่ถูกเมินอยู่ด้านข้าง พูดขึ้นว่า “....ท่านตา เขาต่างหากที่เป็นหลานแท้ของท่านใช่ไหม?”

“ท่านตา”

โม่เยว่หัวเราะ พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าขาวซีดว่า “รอดพ้นจากความตายมาได้ ขอบคุณที่ท่านตาเป็นห่วง”

พูดเสร็จ เขาก็เงยหน้ามองดูกู้หมิงกับจ้าวเซียวหรานว่า “ท่านลุง หย่วนตงโหว”

กู้หมิงเป็นท่านลุงแท้ๆของหยุนหว่านหนิง ดังนั้นโม่เยว่ก็เรียกตามว่าท่านลุงก็สมควรอยู่ แต่เขาเป็นถึงท่านอ๋อง เป็นถึงโอรสแห่งราชวงศ์

ต่อให้ไม่เรียกกู้หมิงว่าท่านลุง ใครก็ไม่กล้าว่าอะไร

แต่จ้าวเซียวหรานไม่เหมือนกัน

ถึงเขาจะเป็นผู้อาวุโสของหยุนหว่านหนิง แต่มีคำว่า “สายแม่”

คำว่า “น้าชายสายแม่” ต่อให้โม่เยว่เรียก จ้าวเซียวหรานก็ไม่กล้ารับ

“สีหน้าท่านอ๋องดูดีขึ้นไม่น้อยแล้ว”

จ้าวเซียวหรานเข็นกู้หมิงมาใกล้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ยินมานานแล้วว่า ฝีมือการแพทย์ของหนิงเอ๋อร์ล้ำเลิศ ไม่เคยมีโอกาสได้เจอ วันนี้เห็นท่านอ๋องแล้ว ก็รู้ว่าความสามารถของหนิงเอ๋อร์ล้ำเลิศจริงๆ”

“น้าชายเซียวหราน”

หยุนหว่านหนิงยิ้มแย้ม พร้อมพูดสั่งบ่าวใช้รินน้ำชา

“พวกเราไม่ดื่มชาแล้วละ”

กู้ป๋อจ้งหันกลับมา มองดูหยุนหว่านหนิงอย่างจนใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าคนนี้ ทำอะไรวู่วามเกินไป”

หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “ท่านตา นี่ไม่ได้เจอกันครึ่งเดือน พอเจอท่านก็ตำหนิข้าเลยหรือ?”

นางทำอะไรผิด?

“เจ้ายังจะมาพูด วันนี้เจ้าทำให้อ๋องฉู่โกรธโมโหจนเป็นลมใช่ไหม? เจ้ายังทำผ้าห่อศพหลากสีสันให้กับอ๋องฉู่ ยังมีพวงหรีดโลงศพ?”

“ท่านตา ท่านรู้ได้อย่างไร?”

“เหลวไหล”

กู้ป๋อจ้งพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เจ้าเห็นว่าอ๋องฉู่เป็นใครกัน? ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขารู้กันไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว”

“ได้ยินว่าเมื่อกี้ อ๋องฉู่เข้าวังไปฟ้องฮ่องเต้แล้ว”

“อ้อ”

หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจว่า “คนคนนี้หน้าด้านจริงๆ กล้าไปฟ้องเสด็จพ่อถึงในวัง”

นางกล้าส่งไปให้ ยังจะกลัวโม่หุยเหยียนไปฟ้องหรือไง?

ในเมื่อนางกล้าส่ง ก็ไม่กลัวที่จะมีคนรู้

“เจ้ายังอ้อ?”

เห็นท่าทีไม่สำนึกผิดของหยุนหว่านหนิง กู้ป๋อจ้งแทบจะยกมือตบนางแล้ว

“เจ้านังเด็กคนนี้ นิสัยดื้อเหมือนแม่ของเจ้าไม่มีผิด ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการแก้แค้นให้อ๋องหมิง แต่ก็ไม่ควรทำอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้?”

“เขาเป็นฝ่ายเอาผ้าแพรมาให้โม่เยว่เตรียมทำผ้าห่อศพก่อนไม่ใช่หรือ? ข้าก็แค่เอาคืนตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

เห็นหยุนหว่านหนิงพูดเถียง กู้หมิงกับจ้าวเซียวหรานที่อยู่ด้านข้างอมยิ้ม

จ้าวเซียวหรานถามขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “หนิงเอ๋อร์ดื้อแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก”

“ไม่เพียงดื้อ ยังปกป้องเข้าข้างคนของตนเอง”

กู้หมิงพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้าว่า “เหมือนพี่สาวเลยจริงๆ”

เมื่อรู้ว่าหยุนหว่านหนิงถูกนางเฉินโน้มน้าวให้ตัดขาดกับตระกูลกู้ แล้วก็พวกถูกหยุนธิงหลานรังแก กู้หมิงคิดในใจว่า พี่สาวที่ดุเหมือนอย่างเสือของเขาคนนั้น ทำไมถึงได้มีลูกเหมือนอย่างแมว?

ไม่เพียงเชื่อง ยังไม่มีสมอง ปล่อยให้คนพูดกล่อมได้ง่ายๆ?

ตอนนี้ดูแล้ว นิสัยหยุนหว่านหนิงเป็นเหมือนอย่างกู้อู๋ซวงเลย

จ้าวเซียวหรานกับกู้หมิงหัวเราะคิกคักขึ้นมา

กู้หมิงแสดงท่าที “ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”

หยุนหว่านหนิงโมโห กำลังคิดจะทำให้เขาโมโห ก็ได้ยินจ้าวเซียวหรานยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “หนิงเอ๋อร์วางใจ ลุงผู้พี่จะช่วยเจ้าพูด ท่านอาไม่โกรธเจ้าอีกแน่”

“ขอบคุณน้าชายเซียวหราน”

หยุนหว่านหนิงค่อยหันไปมองโม่เยว่อย่างดีใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าดูสิ มีคนรักข้าเพิ่มอีกแล้ว”

นางพูดอวดเหมือนเด็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อไปเจ้าจะกล้ารังแกข้าไหม? คนหนุนหลังข้าเยอะแล้วนะ”

จ้าวเซียวหรานยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ

อยู่ตรงหน้าอ๋องหมิง เขาจะกล้าเป็นคนหนุนหลังของหยุนหว่านหนิงหรือ?

โม่เยว่ยิ้มหัวเราะอย่างจนใจ ยังไม่ได้พูดตอบก็ได้ยินกู้หมิงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าดูแล้ว ปกติคงมีแต่เจ้าที่รังแกท่านอ๋องมั้ง? ใครจะรังแกเจ้าได้?”

พวกเขาต่างหัวเราะคำพูดประโยคนี้ของเขา

……

ในขณะเดียวกัน ห้องทรงพระอักษร

โม่หุยเหยียนยืดหลังตรงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโม่จงหราน

เดิมโม่จงหรานกับเต๋อเฟยพักอยู่ในจวนอ๋องหมิงหนึ่งคืน เฝ้าโม่เยว่อยู่อย่างไม่ห่าง

แต่หลังจากหยุนหว่านหนิงกลับมา รู้ว่าโม่เยว่พ้นขีดอันตรายแล้ว ยังมีนางคอยดูแลด้วยตนเอง....

พวกเขาก็วางใจ

ประเทศจะไม่มีกษัตริย์ไม่ได้ วังหลังไม่มีประมุขไม่ได้

ตอนนี้ฮองเฮาจ้าวเป็นเพียงชื่อไม่มีอำนาจ งานทุกอย่างในวังล้วนเป็นเต๋อเฟยเป็นคนดูแล ดังนั้นทั้งสองคนจึงกลับวังไปตั้งแต่เช้า พร้อมบอกว่าตอนบ่ายค่อยมาเยี่ยมโม่เยว่

เวลานี้ โม่หุยเหยียนกำลังโม่จงหรานด้วยสีหน้าโกรธโมโห

“เสด็จพ่อ ข้าไม่เคยเห็นใครกำเริบเสิบสานขนาดนี้มาก่อน”

เขาพูดอย่างเกลียดชังหยุนหว่านหนิงว่า “นางเป็นสะใภ้ราชวงศ์ แต่ทำตัวน่าเกลียดยิ่งกว่าหญิงปากร้ายตามถนน”

“วันนี้หากเสด็จพ่อไม่ลงโทษนาง เป็นที่ร่ำลือออกไปแล้วจะทำให้ราชวงศ์ต้องอับอายขายหน้า ประชาชนจะมองราชวงศ์ของเราเป็นยังไง?”

“หยุนหว่านหนิงเป็นเหมือนดั่งหนอนในราชวงศ์ ตอนนี้นางทำเรื่องอับอายขายหน้า สาปแช่งข้า ขอเสด็จพ่อโปรดให้ความยุติธรรมแก่ข้าด้วย”

โม่หุยเหยียนกำลังร้องไห้อยู่ ด้านนอกประตูห้องทรงพระอักษรก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นว่า “เสด็จพ่อ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์