มองดูหรูอวี้หน้าตายิ้มแย้ม....
โม่เยว่ก็รู้ว่า จะต้องเป็นข่าวดีแน่
หรูโม่ประคองเขา ทั้งสามคนเดินไปตรงมุมกำแพง ฟังหรูอวี้พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ใต้เท้าถังศึกษาค้นคว้าโครงสร้างอย่างคร่าว ๆ ของอาวุธปืนได้แล้ว”
“จริงหรือ?”
ข่าวนี้ คาดไม่ถึงจริงๆ
สายตาโม่เยว่เป็นประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “เคยทำการทดลองได้หรือยัง?”
“ยังขอรับ”
หรูอวี้ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ใต้เท้าถังเพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้วันนี้ ใต้เท้าถังยังพูดว่า เสี่ยวเตี้ยนเซี่ยเฉลียวฉลาดอย่างที่สุด คำพูดของเสี่ยวเตี้ยนเซี่ยทำให้เขารู้ประจักษ์แจ้งขึ้นมา”
“คำพูดของหยวนเป่า?”
เห็นโม่เยว่ไม่เข้าใจ หรูอวี้รีบพูดอธิบายว่า “ที่ผ่านมาเสี่ยวเตี้ยนเซี่ยเคยพูดไว้ไม่ใช่หรือ? ว่าดินปืนเป็นประทัดรุ่นปรับปรุง”
“ใต้เท้าถังจึงขบคิดไตร่ตรองคำพูดประโยคนี้ สุดท้ายศึกษาดินปืน จนเข้าใจโครงสร้างของปืนไปด้วย”
ได้ยินแบบนี้ โม่เยว่ก็เข้าใจขึ้นมาทันที
หยวนเป่าเคยพูดแบบนี้จริง
เหมือนเขาจะจำได้ว่า ตอนนั้นหลังจากเจ้าเด็กคนนี้ระเบิดเรือนทิงจู่ของเขา ก็เคยพูดกับเขา
ตอนนั้นโม่เยว่ยังไม่เอามาจำใส่ใจ
ไม่คิดว่าคำพูดประโยคนี้จะวิเศษ ทำให้ใต้เท้าถังคิดค้นเรื่องดินปืนขึ้นมาได้
ช่วงนี้ค่ายเสินจีเก็บตัวเงียบ
นับตั้งแต่โม่เยว่กับโม่จงหราน‘แตกหักกัน’ เพราะเรื่องที่หยุนหว่านหนิงถูกจับขังคุก หลังจากสองพ่อลูกทะเลาะกันในห้องทรงพระอักษร....
ต่อหน้าโม่เยว่ไม่สนใจงานราชสำนัก แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น
ใต้เท้าถัง คือถังกวนเจิ้ง ชิวกวนเจิ้งของสำนักดาราศาสตร์คนที่ตอนนั้นถูกโม่จงหรานจับตัวมาทำของเล่นให้กับหยวนเป่า
เขาเป็นคนสำนักดาราศาสตร์ แต่ใจอยู่ที่‘ห้องช่างไม้’
หลังจากโม่เยว่รู้ความสามารถพิเศษของเขา จึงสั่งคนมาจับตัวมาจากจวนถัง พามายังค่ายเสินจี
หากไม่ใช่เพราะสถานะของเขา ทำให้ใต้เท้าถังไม่กล้าขัดขืน เขาคงชกโม่เยว่ไปเป็นร้อยรอบแล้ว
ตอนนี้ได้ยินว่าใต้เท้าถังศึกษาค้นคว้าโครงสร้างอาวุธปืนขึ้นมาได้แล้ว โม่เยว่ตื่นเต้นอย่างมาก
แต่เขาเป็นคนสีหน้าเย็นชาจนเคยชิน
ต่อให้ในใจตื่นเต้นแค่ไหน สีหน้ากลับไม่เป็นแปลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ใต้เท้าถังคนนี้ มีความสามารถจริงๆ วันหลังข้าไปขอตัวมาจากซ่งจื่ออวี๋ ให้มาทำงานในค่ายเสินจี”
“นายท่าน ท่านจะไปดูที่ค่ายเสินจีไหม?”
“ไม่ต้อง”
โม่เยว่โบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้มีคนคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของข้า จะแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้”
หรูอวี้รู้ความหมายของเขาทันที
“เจ้าไปบอกใต้เท้าถัง ให้เขาทดลองดู อาวุธปืนนี้ใช้ได้การไหม หากประสบความสำเร็จ ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม”
“ขอรับ เจ้านาย”
หรูอวี้รับคำสั่ง แล้วจากไป
หรูโม่ประคองเขา กลับมานั่งในตำหนัก
เต๋อเฟยถูกพวกคนทรยศพวกนั้นทำให้โกรธโมโหอย่างมาก ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย พร้อมบ่นว่าปวดหัว
โม่เฟยเฟยกำลังพูดปลอบนางว่า “เสด็จแม่เต๋อเฟย ท่านจะโกรธโมโหเพราะคนพวกนี้ทำไม? ช่วงก่อนพี่สะใภ้เจ็ดเพิ่งรักษาบำรุงร่างกายท่านให้หายดี อย่าทำให้เสียสุขภาพอีกนะ”
“จะว่าไป พี่สะใภ้เจ็ดทำให้ข้าชื่นชมในความสามารถอย่างมาก”
“ต่างพูดว่าสามสิบหกแขนงมีจ้วงหงวน ข้าว่าพี่สะใภ้เจ็ดเป็นจ้วงหงวนทุกแขนง”
พูดไปพูดมา กลายเป็นพูดชมหยุนหว่านหนิงขึ้นมาว่า
“ฝีมือการแพทย์ล้ำเลิศ สยบพวกหมอหลวงในโรงหมอหลวง”
“ฝีมือทำอาหารยอดเยี่ยม สยบพวกพ่อครัวในห้องเครื่อง”
“หน้าด้านหน้าหนา ทำให้เสด็จแม่โกรธโมโหแทบตาย พี่รองที่หน้าด้านก็สู้นางไม่ได้”
“หากข้าเป็นได้เหมือนอย่างพี่สะใภ้เจ็ดจะดีแค่ไหน? เสด็จแม่เต๋อเฟย ท่านว่า ท่านเลี้ยงข้าที่เป็นลูกสาวคนนี้กลายเป็นวีรสตรี กล้าหาญชาญชัย ท่านจะภาคภูมิใจแค่ไหน? โกรธโมโหทำไมกัน?”
ชมไปชมมา ก็กลายเป็นชมตัวเองไปเสีย
รู้ว่าเขาจะไปเยี่ยมหยุนหว่านหนิง เต๋อเฟยก็ไม่รั้ง เพียงโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าบอกหนิงเอ๋อร์ด้วยว่า พรุ่งนี้ข้าเอาเป็ดทอดกรอบที่นางชอบไปให้”
โม่เยว่หันเดินออกไป
โม่เฟยเฟยจ้องมองดูเงาหลังของเขา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ทันใดนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างโศกเศร้า
……
ในคุกหลวง
โม่ฮั่นอี่ว์ยังคงพร่ำเพ้อว่าโจวหยิงหยิงไม่มีทางไม่รักเขา โจวฉางเฟิงที่อยู่ตรงข้ามหนวกหูจะแย่แล้ว
จึงใช้ฟางมาอุดหูไว้ พร้อมชกมวยอยู่ในห้องขัง
หยุนหว่านหนิงยังคงทำตัวตามสบาย
คิดอยู่ในใจว่า คนที่อยู่ในที่ลับคนนั้นช่างมีความอดทนจริงๆ ที่ไม่ลงมือทำร้ายนาง...ตอนนี้นางอยู่ในคุกหลวง ไม่ใช่โอกาสในการลงมือที่ดีที่สุดหรือ?
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ผู้คุมก็นำอาหารค่ำมาส่ง
โม่ฮั่นอี่ว์ที่ปกติทานอย่างเอร็ดอร่อยยิ่งกว่าหมู วันนี้กลับทานไม่ค่อยลง ก้มหน้าก้มตาอยู่อย่างเศร้าสร้อย
หยุนหว่านหนิงก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะแย่งน่องไก่ของเขาอีก ท่าทีเหมือนคนทานอะไรไม่ลง
เห็นแบบนี้ ผู้คุมถามขึ้นมาอย่างแปลกใจว่า “พระชายาหมิง ท่านกับอ๋องฮั่นเป็นอะไรหรือ? ทำไมวันนี้ถึงไม่อยากทานอะไรเลย?”
หยุนหว่านหนิงมองดูกับข้าว แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างเหม่อลอยว่า “วางไว้ตรงนั้นแหละ ตอนนี้ข้ายังไม่หิว ยังไม่อยากกิน”
ผู้คุมรู้นิสัยของนางดี จึงไม่พูดอะไรมาก ถอยกลับไปอย่างนอบน้อม
กับข้าววางอยู่บนโต๊ะ หยุนหว่านหนิงเตรียมที่จะนอนสักตื่น
ห้องขังของนางถึงจะปรับปรุงใหม่แล้ว และก็ทำความสะอาดอย่างสะอาดสะอ้าน แต่สิ่งที่ภายในคุกไม่ขาดเลยก็คือหนู....ฟ้าเพิ่งมืด ภายในห้องขังก็จะเต็มไปด้วยหนู
ตอนที่หยุนหว่านหนิงตกใจตื่น ไม่ใช่เพราะเสียงร้องของหนู และก็ไม่ใช่เสียงกรนของโม่ฮั่นอี่ว์
แต่เป็น....
นางรู้สึกว่าข้างเตียงมีคน
คนคนนี้เต็มล้นไปด้วยไอสังหาร เห็นได้ชัดว่ามาลอบฆ่านาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...