NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 205

บทที่205 เซี่ยลู่ถูกบังคับ

ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง พลางยิ้มแล้วพูด: “เจ้านาย คุณอย่ามาโกหกฉันนะ แฮมเบอร์เกอร์สิบอันนะ”

“วางใจเถอะ ไม่เป็นไร” หลี่ฝางพยักหน้า ก่อนจะเร่ง: “รีบลงมือเถอะ”

ส้าวส้วยมองตู้เฟย ด้วยสีหน้านิ่งไป

“แฮมเบอร์เกอร์สิบอันก็ซื้อชีวิตฉันได้แล้วเหรอ?ล้อเล่นอะไรเนี่ย”

เมื่อตู้เฟยได้ยินก็พูดอะไรไม่ออกเลย เขารีบมองไปทางส้าวส้วยพลางพูดออกมา: “คุณอย่าเข้ามานะ ฉันให้แฮมเบอร์เกอร์ร้อยอันเลย”

“แฮมเบอร์เกอร์ของคุณน่ะมันสกปรก ฉันไม่เอาหรอก”

ส้าวส้วยส่ายหัว ก่อนจะเดินเข้ามาหาตู้เฟย

ตู้เฟยร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เพียงแวบเดียวก็ฉีกเสื้อผ้าจนขาดรุ่งริ่ง แล้วโยนขึ้นไปในอากาศ

……

หลี่ฝางพูดอะไรไม่ออก ยอมตายแต่ไม่ยอมถอดเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ?

ส้าวส้วยยังไม่ได้ลงมือเลย ตู้เฟยก็ถอดเสื้อผ้าแล้ว

ทำไมไม่แน่วแน่เลยนะ

หลี่ฝางส่ายหัวด้วยความผิดหวัง พลางมองตู้เฟย: “เมื่อครู่ฉันยังชมอยู่เลยว่าคุณแน่วแน่ดี”

ตู้เฟยทำปากมุบมิบ เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่กลับเก็บเอาไว้

“ตู้เฟย ฉันว่าทำไมคุณถึงปล่อยฉันไปไม่ได้สักทีล่ะ?” หลี่ฝางนั่งยองลง พลางมองตู้เฟยแล้วถาม

ตอนนี้เซี่ยลู่กลับมาอยู่ข้างๆ เขาแล้ว และความลับที่ตู้ต้าไห่ล้มละลายนั้น ถึงหลี่ต๋าคางจะรู้ แต่ตู้เฟยนั้นไม่รู้ความจริงของมันเลย

หลี่ฝางไม่ค่อยเข้าใน ว่าทำไมตู้เฟยถึงปล่อยตัวเองไปไม่ได้สักที?

คำถามนี้ มันทำให้ตู้เฟยอึ้งไป

ในตอนนั้น ตู้เฟยเองก็ไม่ได้ตอบ

จนสุดท้าย ตู้เฟยถึงจะหาคำตอบมาได้

เพราะว่าเขาคิดว่าหลี่ฝางเป็นคนอ่อนแอมาตลอด แต่ตัวเองนั้น ในฐานะที่เป็นลูกหลานเศรษฐี กลับมาตกอยู่ในมือคนอ่อนแอไร้ความสามารถแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว

ดังนั้น ตู้เฟยเลยอยากจะทำร้ายหลี่ฝาง เพื่อหาความเคารพจากการเป็นผู้ชนะกลับคืนมา

“ไม่พูดก็ช่างมันเถอะ”

เมื่อเห็นว่าตู้เฟยไม่ตอบสักที หลี่ฝางเลยส่ายหัวพลางพูดออกมา: “ในเมื่อแพ้แล้ว ก็ต้องได้รับโทษ”

“สวีเถิงเฟย มานี่หน่อย” หลี่ฝางเลยตะโกนไปหาสวีเถิงเฟย

สวีเถิงเฟยในตอนนั้น กำลังขดตัว แล้วนั่งยองอยู่ในมุมหนึ่ง

เมื่อได้ยินหลี่ฝางเรียก ในใจเขาก็อดที่จะสั่นคลอนไม่ได้ เขาคิดในใจ ว่าไอสารเลวหลี่ฝางอยากจะจัดการตัวเองอย่างไรกันนะ?

“ส้าวส้วย ฉันเรียกแล้วสวีเถิงเฟยไม่ตอบเลย คุณช่วยฉันเรียกเขาหน่อยสิ” หลี่ฝางพูดออกมา

ส้าวส้วยส่ายหัว พลางพูดออกมา: “ฉันไม่ชอบพูดมาก ชอบลงมือเลยมากกว่า”

ส้าวส้วยคิดว่า การลงมือทำมันได้ผลมากกว่า

ส้าวส้วยเลยเดินไปหาสวีเถิงเฟย ยังไม่ทันเดินไปอยู่ตรงหน้าสวีเถิงเฟย

สวีเถิงเฟยก็รีบลุกขึ้นมา ก่อนจะวิ่งมาหาหลี่ฝาง

“กอดเขา” หลี่ฝางมองสวีเถิงเฟย พลางชี้ไปหาตู้เฟยที่อยู่ที่พื้นแล้วพูดออกมา

“กอดเขางั้นเหรอ?” สวีเถิงเฟยมองตู้เฟย แววตามีแต่ความรังเกียจ

มือทั้งสองข้างของเขา ใช้เพื่อโอบสาวๆ ไม่ได้เอาไว้มาโอบตู้เฟย

กอดตู้เฟย คงจะสะเทือนจิตใจมากเลยล่ะ

“จะกอดไม่กอด?” หลี่ฝางถามอีกครั้งหนึ่ง

สวีเถิงเฟยเหมือนจะทำไม่ลง

“ส้าวส้วย” หลี่ฝางส่งความอาฆาตออกมา

“ฉันกอดๆ” สวีเถิงเฟยสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะนั่งยองลงกอดตู้เฟย

ตู้เฟยยังขัดขืนในตอนแรก สวีเถิงเฟยด่าออกไป: “คุณจะขัดขืนหาพระแสงอะไร คุณคิดว่าฉันอยากจะกอดคุณมากนักเหรอ”

“ไม่อยากตายก็หยุดซะ” สวีเถิงเฟยพูดออกมาเสียงเย็นชา

“ถ้าเกิดพวกเขาไม่สนใจ แล้วเอาพวกเราโยนเข้าไปในป่าให้หมาป่ากิน พวกเราจะต้องตายแน่นอน”

ในตอนนั้นเอง มีเสียงหมาป่าดังออกมา

ตู้เฟยกับสวีเถิงเฟย ทั้งสองคนสะดุ้งขึ้นมาพร้อมกัน

หลี่ฝางกลัวนิดหน่อย เพราะถึงอย่างไรหมาป่ามันจะเล่นๆ แต่ก็กินคนได้อยู่ดี

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะถ่ายภาพ

ในตอนนั้นเอง ตู้เฟยกับสวีเถิงเฟยตกใจเป็นอย่างมาก

“คุณจะถ่ายทำไม?” ตู้เฟยมองหลี่ฝางด้วยความจริงจัง

สวีเถิงเฟยยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนมีชื่อเสียงในเมือง มากกว่าตู้เฟยด้วยซ้ำ

ถ้าเกิดรูปนี้มันถูกเผยแพร่ออกไป ตระกูลสวีจะต้องเสียหน้าเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาแน่นอน

“หลี่ฝาง คุณอย่ามาทำแบบนี้นะ มันผิดกฎหมายนะ” สวีเถิงเฟยมองหลี่ฝางด้วยความกลัว

หลี่ฝางหัวเราะขึ้น พลางพูดออกมา:“วางใจเถอะ ฉันไม่มีทางปล่อยอยภาพนี้หรอก”

เขาให้สวีเถิงเฟยไปแล้วห้าสิบ ตำรวจก็ทำได้แค่ให้ข้อหาบังคับขาย ถึงจะจัดการจริงๆ อย่างน้อยก็แค่คืนนาฬิกาไปก็จบ

ความต่างระหว่างการแย่งมาเป็นของตนกับการบังคับซื้อขาย มันต่างกันมากเลยล่ะ

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็เอาเสื้อผ้าของสวีเถิงเฟยกับตู้เฟยโยนเข้าไปในป่า

เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าถูกโยนไป สวีเถิงเฟยกับตู้เฟยก็มองกัน ด้วยความร้อนใจ

“เซี่ยลู่ คุณขับรถเป็นไหม?” หลี่ฝางมาอยู่ตรงหน้าเซี่ยลู่ พลางถามออกไปประโยคหนึ่ง

“ฉันเพิ่งได้ใบขับขี่มาเอง เพิ่งจะผ่านแบบทดสอบที่สองไป……”

เมื่อหลี่ฝางได้ยินดังนั้น ก็เอากุญแจรถของเบนซ์ส่งให้เซี่ยลู่: “เดี๋ยวคุณตามหลังฉันมา ขับเบนซ์ลงไป”

“ได้……” เซี่ยลู่ลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะรับกุญแจไป

เซี่ยลู่ขอร้องตู้เฟยอยู่นาน ตู้เฟยหลับไม่ให้เซี่ยลู่ขับเลย มาวันนี้ ได้โอกาสแล้ว

จากนั้น หลี่ฝางก็เอากุญแจรถของเบ๊นซ์โยนให้ส้าวส้วย: “ส้าวส้วย คุณขับเบนท์ลีย์ ตามหลังเซี่ยลู่ แล้วดูแลเธอสักหน่อย”

“ได้เลย” ส้าวส้วยพยักหน้า

ในตอนนั้นเอง สวีเถิงเฟยถามด้วยความร้อนใจ: “พี่ฝาง คุณขับรถของพวกเราไปแล้ว แล้วพวกเราจะทำอย่างไร?”

หลี่ฝางยิ้มขึ้น พลางพูดออกมา: “ตอนนี้ พวกคุณเดินลงไปก็ได้”

“รถของพวกคุณ เดี๋ยวพวกเราจะจอดไว้ที่ตีนเขา” หลี่ฝางพูดออกมา

“ไปละ”

พูดจบ หลี่ฝางก็ขึ้นไปบนรถเบนซ์G-Class

เซี่ยลู่มองตู้เฟย เมื่อครู่จะพูดอะไรสักอย่าง หลี่ฝางตะโกนออกมา: “เซี่ยลู่ ขึ้นรถ”

เซี่ยลู่ขบริมฝีปาก ทำได้แค่ขึ้นรถเบนซ์ไป

เมื่อเห็นรถของตัวเองถูกขับออกไป ตู้เฟยกับสวีเถิงเฟยก็โกรธจนด่าออกมา

“ให้ตายเถอะไอสารเลวนี่”

“ไม่มีรถแล้ว พวกเราจะกลับไปอย่างไรกัน?”

“ไม่มีโทรศัพท์ พวกเราขอความช่วยเหลือไม่ได้ด้วยซ้ำ หรือว่าถนนเส้นยาวขนาดนี้ พวกเราต้องเดินไปจริงๆ เหรอ?งั้นพวกเราจะต้องเดินไปถึงเมื่อไหร่กัน?”

ในตอนนั้นเอง ในป่าก็มีเสียงของหมาป่าหอนดังออกมา

สวีเถิงเฟยกัดฟัน: “อย่าบ่นเลย รีบไปกันเถอะ”

เมื่อเซี่ยลู่กับคนอื่นๆ ขับรถลงจากเขาไป ก็ขึ้นรถของหลี่ฝางนั้นก็คือเบนซ์G-Class

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางหันไปมองเซี่ยลู่: “เซี่ยลู่ เกิดอะไรขึ้นกับคุณเหรอ ทำไมคุณถึงอยู่กับตู้เฟยล่ะ?”

“ฉันเองก็ถูกบังคับ” เซี่ยลู่ส่ายหัวอย่างไร้ทางเลือก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง