“ถ้าหากพี่ชิงชิงจะไปจริงๆ เธอก็รับช่วงต่อเถอะ” หลี่ฝางถอนหายใจ แล้วพูดอย่างหมดหนทาง
งานของพี่ชิงชิง มันยุ่งยากมากๆ นอกจากการช่วยดูแผนปฏิบัติการของบริษัท และการดูแลกิจการบริษัท ยังต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้พวกสาวๆ เน็ตไอดอล
พวกเรื่องรายละเอียดหยิบย่อยพวกนั้น โจวหยางกับโจวเจ๋ที่เป็นผู้ชายสองคน ก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก
หวางเหยาเป็นผู้หญิง และยังเป็นคนที่ไอดอลคนแรกที่เซ็นสัญญากับหลี่ฝาง ก็เลยได้รับหน้าที่นี้ไปตามธรรมชาติ
สักพักนึง หลี่ฝางก็ลงจากภูเขา หลินชิงชิงในตอนนั้น ก็นั่งอยู่บนรถแล้ว ส่วนโหจื่อก็ยืนอยู่ข้างรถ ด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ทำใจให้เธอไปไม่ได้?” โหจื่อมองหลินชิงชิง แล้วถาม
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ถ้าหากทำได้ จะจะยอมไม่ไปแตะลูกพี่หลิน”
“ฉันเสียใจ” หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง: “ถึงแม้ฉันจะเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดไว้แล้ว แต่อยู่ๆ เจอผลลัพธ์แบบนี้ ฉันถึงได้รู้ ว่าฉันรับมันไม่ไหว”
โหจื่อส่ายหน้า แล้วพูด: “บนโลกนี้ ไม่มียารักษาความเสียดายหรอกนะ แล้วก็ ลูกพี่หลินตะปูชิ้นนั้น พวกเราจำเป็นต้องถอนออก ถึงแม้นายจะไม่ลงมือ เมื่อลูกพี่ใหญ่กลับมา ก็ต้องจัดการอยู่ดี”
“แบบนี้ก็ดีกว่าฉันลงมือเองมากเลย เป็นแบบนั้นอย่างน้อย ความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ชิงชิง บางทีอาจจะยังดีๆ กันอยู่ แต่ในวันนี้ดูท่า……เฮ้อ”
หลี่ฝางถอนหายใจ แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้: “ช่างเถอะ ขึ้นรถเถอะ เรื่องมันก็เกิดไปแล้ว พูดอะไรมากไป จะมีประโยชน์อะไร?”
หลังจากขึ้นรถ โหจื่อก็หันมา ขณะที่กำลังจะอธิบายให้หลินชิงชิงฟัง หลี่ฝางกับมองบนใส่โหจื่อ แล้วพูด: “ขับรถเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว”
โหจื่อมองหลี่ฝาง คำพูดที่อยากจะพูด ก็กลืนเข้าไปทันที
โหจื่อที่เงียบอยู่ ก็เคลื่อนรถออกไป
หลังจากนั้นสิบนาที โหจื่อก็หยุดรถ แล้วพูด: “ถึงแล้ว”
หลินชิงชิงเปิดประตูรถออกไปเอง และลงจากรถ ในตอนนั้น หลี่ฝางไม่ได้ตามไปด้วย ทำแค่เรียกหูเฟยออกมา ให้พาหลินชิงชิงเข้าไป
โหจื่อควักบุหรี่ขึ้นมาซองนึง แล้วยื่นให้หลี่ฝางหนึ่งมวน และถาม: “ทำไมนายไม่ให้ฉันพูด? ที่จริง นายอธิบายกับเธอดีๆ ก็ได้ บอกเธอ ว่าแท้จริงนายไม่ได้ต้องการจะทำร้ายลูกพี่หลินกับแม่ของเธอ ในแผนของนาย นายวางไว้ว่าจะไว้ชีวิตพวกเขาไป”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าขมขื่น: “ช่างเถอะ อธิบายกับไม่อธิบาย ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรต่างกันเท่าไหร่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องที่นายพูดไปทั้งหมด……ที่ฉันเจ็บที่สุดในตอนนี้ก็คือ พี่ชิงชิงจะจากไปอย่างเด็ดขาดเพียงนี้”
“ดูเธอนิ่งมากๆ ราวกับว่า เธอทำใจไปจากฉันได้อย่างง่ายๆ”
หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วพูด นี่เป็นสิ่งที่หลี่ฝางเจ็บที่สุด
ส่วนโหจื่อกลับพูดว่า: “อายุของเธอมากกว่านาย วิธีจัดการกับปัญหา ต้องเป็นผู้ใหญ่มากกว่านาย บางที เด็กๆ เจอเรื่องอะไรก็จะ ดึงดราม่า ร้องไห้ฟูมฟาย โหวกเหวกโวยวาย แต่วิธีการจัดการปัญหาของผู้ใหญ่ ก็คือนิ่งๆ แบบนี้”
“นายควรจะอธิบายให้เธอฟังสักครั้ง” โหจื่อพูดแนะนำ
หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วพูด: “แต่ยังไงฉันก็ทำร้ายลูกพี่หลินอยู่ดี”
“หลังจากนี้ไม่นานลูกพี่หลิน ก็คงจะถูกโทษยิงเป้าประหารใช่มั้ย?” หลี่ฝางถาม
หูเฟยพยักหน้า จากนั้นก็ปัดมือใส่คนข้างหลี่ฝาง หมายความว่าให้ปล่อยเข้ามา ต่อมา หลี่ฝางก็วิ่งเข้าไปด้านใน เมื่อหาหลินชิงชิงพบ หลี่ฝางก็เห็นหลินชิงชิงกำลังกอดศพของลูกพี่หลินอยู่ กอดไปร้องไห้ไป
ส่วนอีกฝั่ง ก็เห็นผู้ชายที่ดูอ่อนแอสุดๆ คนนึง คุกเข่าอยู่ตรงนั้น และก็กุมหัวอยู่
หลี่ฝางมองชายคนนั้น และเดินเข้าไป: “นายเหรอที่ฆ่าลูกพี่หลิน?”
“คุณชายหลี่ เป็นเขาที่แย่งปืนไป แล้วฆ่าลูกพี่หลิน” ไม่รอให้ขโมยคนนั้นตอบ ก็มีคนพูดขึ้น
หลี่ฝางมองคนๆ นั้นอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วพูด: “แค่ปืนทำไมนายยังดูให้ดีไม่ได้”
“ผม……ผมไม่ทันระวัง ยิ่งคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะแย่งปืนผมไป” คนๆ นั้นขมวดคิ้ว สายตาปริบๆ ราวกับว่าร้อนใจ ต่อมาเขาก็ฟาด ขโมยคนนั้น
หลี่ฝางมองขโมยคนนั้น แล้วถาม: “ใครบงการนายมา?”
“ไม่ต้องถามฉัน ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น นายฆ่าฉันเถอะ ฉันไม่อยากอยู่แล้ว” ขโมยคนนั้นนัยน์ตาเลิ่กลั่กพลางพูด
หลี่ฝางขมวดคิ้วแน่น ขโมยคนนี้ถึงกับอยากจะตาย แสดงว่าเขาจะต้องโดนข่มขู่อะไรมาแน่ และคนที่สามารถติดต่อเขาได้ ก็มีอยู่ไม่กี่คน
หลี่ฝางเงยหน้า มองเพื่อนร่วมงานของหูเฟย ด้วยสายตาดุร้ายสุดๆ
ในตอนนั้น หลี่ฝางสงสัยคนๆ นี้เล็กน้อย ว่าเขาที่จงใจไม่ระวัง ให้ขโมยคนนั้นขโมยปืนของเขา และยังข่มขู่ขโมยคนนั้นด้วย……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง