หลายวันที่ผ่านมานี้ หลี่ฝางฝึกฝนกับส้าวส้วยมาโดยตลอด น้อยครั้งที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนฉินวี่เฟย
มีแค่ตอนกลางดึกเท่านั้น หลี่ฝางจึงจะมาหาเธอ
แต่ครั้งนี้ น่าจะเป็นเวลาที่กำลังฝึกซ้อม ทว่าหลี่ฝาง กลับแต่งตัวทางการ ทั้งยังแต่งองค์ทรงเครื่องมาด้วยความตั้งใจ
เมื่อเห็นแบบนี้ หลี่ฝางมาเพราะมีธุระ
ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง:“คุณเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกใช่ไหมคะ?"
แววตาของฉินวี่เฟย มีประกายแวววับ ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ ฉินวี่เฟยอยู่ในสถานตากอากาศ เธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
แต่ว่า เธอก็ไม่กล้าที่จะออกไป
เพราะถึงอย่างไร ที่นี่ก็มีหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด:“ใช่แล้ว"
"พาฉันไปด้วยได้ไหมคะ?" ฉินวี่เฟยเผยความปรารถนาของตนเองแล้วเอ่ยถาม
ทว่าเพิ่งพูดจบ เธอก็ปฏิเสธเอง:“ช่างเถอะ ฉันไม่ทำให้คุณลำบากใจแล้ว ออกเดินทางครั้งนี้ ต้องเป็นเพราะมีเรื่องที่สำคัญมากๆใช่ไหมคะ ฉันไปกับคุณ ช่วยอะไรคุณไม่ได้ แล้วยังทำให้คุณต้องลำบากอีก"
"ผมส่งคุณกลับตระกูลฉินดีกว่า หลายวันที่ผ่านมานี้ คุณคงคิดถึงพ่อกับแม่คุณมาก และก็คิดถึงพี่สาวคุณมากด้วยใช่ไหม?"
หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยแล้วเอ่ยถาม:“พวกเขาน่าจะคิดถึงคุณมากเหมือนกัน"
ฉินวี่เฟยยิ้มแล้วเอ่ยถาม:“ฉันกลับบ้านได้แล้วเหรอคะ?"
วันนี้ ฉินวี่เฟยกลายเป็นผู้หญิงของหลี่ฝางแล้ว ศัตรูที่อยู่รอบตัวหลี่ฝาง มีมากมายนับไม่ถ้วน
ถ้ามีคนเอาเธอไปข่มขู่หลี่ฝาง หลี่ฝางจะต้องตัดสินใจยากมาก
ดังนั้น ฉินวี่เฟยยอมที่จะไม่กลับบ้าน อยู่ที่สถานตากอากาศตามลำพัง เพราะไม่อยากให้หลี่ฝางต้องตกที่นั่งลำบากแบบนี้
หลี่ฝางยิ้ม:“แน่นอนว่าได้สิครับ"
"ตระกูลตงฟาง คงไม่ถึงขั้นมาทำอะไรผู้หญิงคนหนึ่ง" หลี่ฝางพูด
พูดจบ หลี่ฝางจับมือฉินวี่เฟย ออกไปจากสถานตากอากาศ
หลังจากส่งฉินวี่เฟยเสร็จ หลี่ฝางเตรียมขับรถมุ่งหน้าไปยังอำเภอหลิน ทว่าตอนที่หลี่ฝางเดินออกมาจากบ้านตระกูลฉิน หลี่ฝางเห็นร่างที่คุ้นเคย
ฉินเสี่ยวหู่หลบอยู่ในมุมหนึ่ง โบกมือให้หลี่ฝางไม่หยุด
หลี่ฝางมองดูรอบๆ หลังจากพบว่าไม่มีใครมองดูตน ก็รีบเดินไปตรงหน้าฉินเสี่ยวหู่
"มีเรื่องอะไรเหรอ?"
หลี่ฝางมองฉินเสี่ยวหู่ ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วเอ่ยถาม
ฉินเสี่ยวหู่ เป็นจารชนที่หลี่ฝางส่งไปแฝงตัวข้างมู่หรงฉางเฟิง แต่จารชนคนนี้ หลี่ฝางไม่ได้ใช้งานเท่าไหร่
มีแค่ในสถานการณ์ใหญ่เท่านั้น เขาจึงจะปรากฏตัว
เพราะถึงอย่างไร การที่ฉินเสี่ยวหู่ทำแบบนี้ ต้องเสี่ยงชีวิต
ฉินเสี่ยวหู่พยักหน้า แล้วพูด:“เป็นเรื่องเกี่ยวกับท่านจวน แต่ว่า ตอนนี้คุณน่าจะต้องเรียกเขาว่าคุณท่านตงฟางแล้วครับ"
สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่สับสน:“ท่านจวนคนนี้ แสดงละครตบตาเก่งจริงๆ ก่อนหน้านี้ ตอนอยู่ต่อหน้ามู่หรงฉางเฟิง ไม่ได้มีอำนาจอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้ ทั่วทั้งตระกูลมู่หรงเมื่อเห็นเขา ก็เหมือนเด็กไปเลย ไม่รู้ว่าเขามีอะไรเก่งกาจ"
หลังจากฉินเสี่ยวหู่ทอดถอนหายใจ ก็พูดต่อ:“ผมคิดว่า ท่านจวนคนนี้ มีสองบุคลิก"
"สองบุคลิกอะไรกัน" หลี่ฝางเอ่ยถาม
"ผมเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง บนโลกใบนี้มีกลุ่มคนพิเศษอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่มีหลากหลายบุคลิก ถึงแม้เขาจะเป็นแค่คนๆเดียว แต่การใช้ชีวิต กลับแสดงเป็นหลากหลายบทบาท ซึ่งก็คือคนหนึ่งคน สามารถแบ่งเป็นหลายคนได้ แต่ว่าท่านจวน เขาสามารถแบ่งเป็นสองบุคลิกได้อย่างอิสระ ตอนที่เขาเป็นท่านจวน เขาเป็นคน แต่ตอนที่เขาเป็นคุณท่านตงฟาง เขากลับเปลี่ยนเป็นคนละคน"
ฉินเสี่ยวหูพูด:“กล่าวโดยสรุป คนๆนี้ซับซ้อนมาก ตอนนี้มองดูเขา ไม่เหมือนตอนแรกแม้แต่น้อย เป็นคนละคนกันไปเลย"
"นายเสี่ยงชีวิตมาหาฉัน เพื่อที่จะบอกเรื่องพวกนี้กับฉันอย่างนั้นเหรอ?" หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นปม
"แน่นอนว่าไม่ใช่ ผมมีเรื่องสำคัญจะรายงานให้คุณ" ฉินเสี่ยวหู่พูด
หลี่ฝางมองฉินเสี่ยวหู่ พูดด้วยความรำคาญเล็กน้อย:“นายพูดมาสิ"
"ผมไม่เห็นคุณท่านตงฟางมาหลายวันแล้ว เหมือนว่าเขาจะไปจากเมืองเอกแล้ว" จู่ๆฉินเสี่ยวหูก็พูดขึ้น
"นายบอกว่าอะไรนะ?" หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม:“นายบอกว่าท่านจวนไปแล้ว?"
"เขาไปที่ไหน?" หลี่ฝางเอ่ยถาม
ฉินเสี่ยวหู่ส่ายหน้า แล้วพูด:“ไปที่ไหน ผมเองก็ไม่รู้ แต่ว่า เมื่อคืนมู่หรงฉางเฟิงดื่มหนักจนเมาแล้วบอกผม คุณท่านตงฟางไปในที่ที่ไกลมากๆ เหมือนว่าเขาไปแก้แค้นให้กับหลานสาวของตนเอง"
"แต่รายละเอียดเป็นยังไงมู่หรงฉางเฟิงไม่ได้พูด เขาพูดแค่คำเดียว ก็สร้างเมาทันที แต่ว่าผมในตอนนั้น แกล้งทำเป็นเมา ทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ไม่อย่างนั้น เขาต้องฆ่าผมทิ้งแล้วแน่ๆ"
ฉินเสี่ยวหู่พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว:“สำหรับมู่หรงฉางเฟิง ตอนนี้ผมยิ่งอยู่ก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ก่อนหน้านี้ เขาเลี้ยงผมเอาไว้เพื่อสู้กับคุณ แต่คุณในตอนนี้ ใช่คนที่ผมจะสู้ด้วยได้ยังไง? ผมในตอนนี้ เป็นแค่สุนัขรับใช้ที่อยู่ข้างกายมู่หรงฉางเฟิงเท่านั้น ผมต้องคอยส่ายหางทำตัวน่าสงสารเวลาอยู่ต่อหน้ามู่หรงฉางเฟิงทุกวัน คอยประจบเขา ทำให้เขามีความสุข"
"ตอนนี้ สี่ตระกูลใหญ่เทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ชีวิตที่รุ่งโรจน์ของพวกเขา ไม่มีแล้ว ดังนั้น นิสัยของมู่หรงฉางเฟิง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเกรี้ยวกราด มีหลายครั้ง ที่เขาทุบตีผมด้วย"
ฉินเสี่ยวหู่เบ้ปาก พูด:“คุณชายหลี่ คุณช่วยดำเนินการให้ผม ไปจากมู่หรงฉางเฟิงหน่อยได้ไหม"
หลี่ฝางพยักหน้า พูด:“ถ้านายมีโอกาส ก็หนีไปเองเถอะ"
"ทำแบบนั้นไม่ได้ ผมรู้ความลับของมู่หรงฉางเฟิงมากเกินไปแล้ว ถ้าผมหนี เขาต้องไม่มีวันปล่อยผมไปอย่างแน่นอน ถ้าเขาหาผมไม่เจอ ต้องจัดการพ่อแม่ของผม และลงมือกับคนตระกูลฉินอย่างแน่นอน" ฉินเสี่ยวหูพูดด้วยความรู้สึกหลัว
หลี่ฝางหัวเราะ มองไปที่ฉินเสี่ยวหู่:“คนอย่างนาย รู้จักสนใจคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ส้าวส้วยพูดเสียงเรียบ:“เรื่องนี้ พวกเรารู้ช้าไปแล้ว อีกทั้ง ตอนที่ผมกลับมา แม่ของคุณบอกให้ผมกลับมา เธอเองก็เข้าไปยังพื้นที่ปีศาจแล้ว"
"หลังจากพิสูจน์ข่าวแล้ว เราค่อยตัดสินใจ คุณทำงานของคุณไปก่อน ทางด้านท่านจวน ผมไปจัดการเอง"
ส้าวส้วยพูดจบ ก็วางสาย
ตามด้วย ส้าวส้วยรีบกดติดต่อไปอีกเบอร์หนึ่ง หลังจากติดต่อได้แล้ว ส้าวส้วยก็ทำด้วยความกระวนกระวาย:“ได้ข่าวอะไรรึยัง?"
"ไม่ครับ"
ปลายสาย ความเป็นจริงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่ชายของโก่เอ๋อ
พี่ชายของโก่เอ๋อพูด:“ถ้าได้ข่าวอะไรคืบหน้า ผมจะบอกคุณทันที"
"แล้วช่วงนี้คุณเห็นอะไรผิดปกติรึเปล่า ผมได้ยินว่า ทางนี้มีคนไปแล้ว" ส้าวส้วยถาม
ทุกทางเข้าออกของพื้นที่ปีศาจ พี่ชายของโก่เอ๋อ พาคนไปล้อมเอาไว้หมดแล้ว ทันทีที่มีคนเข้าหรือออก พี่ชายของโก่เอ๋อ จะรู้ทันที
และจะบอกส้าวส้วยทันที
พี่ชายของโก่เอ๋อส่ายหน้า แล้วพูด:“ก็ไม่มีเหมือนกันครับ ผมเพิ่มการค้นหาแล้ว แต่ว่า ดูเหมือนข้างในจะใหญ่มาก ผมใช้โดรนที่ยืมมาได้ ส่งออกไปหมดแล้ว โดรนพวกนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าสัญญาณขาดหาย ก็หายสาบสูญไปเลย ส่วนที่เหลือ ก็ถ่ายไม่โดนอะไรเลย"
"ตามหลักการแล้ว พื้นที่ตรงนั้นก็ใหญ่แค่นั้น ผมไม่เข้าใจ ทำไม ถึงถ่ายแม้แต่คนไม่ได้" พี่ชายของโก่เอ๋อพูด
ส้าวส้วยขานตอบอื้ม แล้วพูด:“รบกวนนายด้วย มีอะไรคืบหน้า บอกฉันทันที"
"มีอะไรให้รบกวนครับ พวกคุณช่วยผมเอาไว้มาก ผมต้องขอบคุณพวกคุณต่างหาก คุณปู่ของผมโทรศัพท์มาหาผมแล้ว เรื่องในครั้งนี้ คุณงามความดีทั้งหมด ล้วนตกเป็นของผม ขอแค่ผมกลับไป ก็จะเก่งมากเลย ท่ามกลางคนหนุ่มสาวในรุ่น เกรงว่าจะไม่มีใครเทียบผมได้"
น้ำเสียงของพี่ชายโก่เอ๋อ เผยความดีใจอย่างมาก:“พูดตามความจริง ถ้าไม่ใช่พวกคุณ......"
"แค่นี้นะ มีข่าวอะไรแจ้งบอกด้วย" ส้าวส้วยไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้ จึงวางสายทันที
จากนั้น ส้าวส้วยเข้าไปในห้อง มองบาดแผลของโหจื่อ แล้วพูด :“ดีขึ้นหน่อยไหม?"
"พี่ใหญ่เขา......"
โหจื่อขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าดูแย่มาก เขามองหลิงหลงครู่หนึ่ง แล้วมองลุงเฉียนครู่หนึ่ง พูด:“ในห้องไม่คนนอก นายบอกความจริงกับทุกคนเถอะ พี่ใหญ่เป็นยังไงบ้าง ฉันไม่เชื่อว่าพี่ใหญ่จะตาย เขาเก่งขนาดนั้น ตอนนั้นที่อยู่ต่างประเทศ อันตรายมากขนาดนั้น เขาก็สามารถผ่านมันมาได้ แต่ทำไมแค่ที่เล็กๆ ถึงติดอยู่ในนั้นได้?"
"ใช่ ส้าวส้วย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไม การที่นายปิดปิงเสี่ยวฝางพวกเราเข้าใจได้ แต่นายจะปิดบังพวกเราทำไม?"
หลิงหลงเองก็พูดด้วย
คิ้วของส้าวส้วย ขมวดเป็นปม พูดด้วยสีหน้าที่สับสนเล็กน้อย:“ความเป็นจริงพี่ใหญ่ไม่ได้ถูกบีบให้เข้าไปในพื้นที่ปีศาจ เขาเข้าไปด้วยตนเอง เขาบอกว่า ด้านในนั้นมีของบางอย่าง ร้องเรียกเขา พี่ใหญ่ในวินาทีนั้น เหมือนธาตุไฟเข้าแทรก"
"หลังจากเขาช่วยให้ฉันบรรลุกำลังภายใน ก็เข้าไปคนเดียว เขาบอกให้ฉันไม่ต้องตามเข้าไป"
ส้าวส้วยพูด:“พื้นที่ตรงนั้นอันตรายมาก แต่พี่ใหญ่บอกว่า ท่านจวนเคยเข้าไปหนึ่งครั้ง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง