"แต่ว่าหัวหน้าของเราอายุน้อยเกินไปรึเปล่า หรือว่าฝึกวรยุทธ์จนเปลี่ยนจากแก่เป็นหนุ่ม?"
"จากแก่เป็นหนุ่มอะไรกัน นี่คืออัจฉริยะในตำนาน นายไม่เข้าใจ?"
"ฉันยังคงรู้สึกเหลือเชื่อ"
ไม่ได้มีแค่ทหารคนที่พูดออกมา คนอื่นๆเองก็ไม่กล้าจะเชื่อ หลี่ฝางยังหนุ่มมาก แต่กลับเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน
หลิวฮุยอยู่ตรงหน้าคนเหล่านี้แล้วฟังพวกเขาพูดเงียบๆ
เขาไม่ได้สนใจคนพวกนี้ เพราะที่เขามาในวันนี้คือส่งคนออกไป เพื่อเรื่องนี้ เขายังเตรียมเครื่องบินหนึ่งลำ
"ไอ้เหี้ยเอ๊ย!บนทะเลสาบมีคน!” ในเวลานี้เอง มีเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มคน ทุกคนรีบหันไปมอง เป็นจริงตามนั้นท่ามกลางหมอกบางๆที่แสนคลุมเครือ พวกเขาเห็นเงาจางๆของคนหนึ่งคน
"ให้ตายสิ!นี่มันเท้าทะยานคลื่นในตำนานเหรอ?"
ทุกคนต่างตกตะลึง เพราะเงาของคนที่อยู่บนทะเลสาบขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขามั่นใจว่าตนไม่ได้ตาฝาด
ตอนที่ขยับเข้ามาใกล้ทุกคนเพิ่งสังเกตเห็นว่า ที่แท้เจ้าของเงาคนนั้นเหยียบแผ่นไม้หนึ่งเอาไว้ใต้เท้า แล้วลอยมาเหนือน้ำ
"ข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียว นี่มันคือข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียว!”
มีเสียงร้องดังขึ้นในกลุ่มคน
"ให้ตายสิ นี่มันตอแหลเกินไปแล้ว!” หลิวฮุยสนิทกับหลี่ฝางมากกว่าคนอื่น หลังจากเงาของคนๆนั้นใกล้เข้ามา มองแค่แวบหนึ่งเขาก็รู้ทันทีว่าเป็นหลี่ฝาง อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ
ตอนแรกหลี่ฝางไม่อยากทำแบบนี้ แต่เมื่อคืนหลังจากได้รับอีเมลจากส้าวส้วย หลี่ฝางก็เปลี่ยนความคิด ใช้วิธีนี้ทำให้คนกลุ่มนี้จดจำตนได้มากยิ่งขึ้น
ตอนที่หลี่ฝางเดินมาถึงชายฝั่ง ทุกคนมองไปยังใบหน้าของหลี่ฝาง นับถืออย่างมาก
"หัวหน้า หัวหน้าทำข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียวได้ยังไงครับ?"
สวีคางและคนอื่นๆเดินเข้ามา ล้อมหลี่ฝางเอาไว้ จากนั้นมองหลี่ฝางด้วยแววตากระตือรือร้น หวังว่าเขาจะสอนสักสองสามกระบวนท่า
ถ้าสามารถใช้วรยุทธ์นี้ไปจีบสาว ไม่ว่าไปที่ไหนก็ชนะตลอดไม่ใช่เหรอ?
"อืม อันนี้ง่ายมาก" หลี่ฝางคลายยิ้มบางๆ ทำเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วพูด:“อยู่ที่ว่าจะใช้กำลังภายในยังไง รอให้พวกนายกลายเป็นปรมาจารย์กำลังภายในพวกนายก็ทำได้เหมือนกัน"
ความเป็นจริงวิธีทำข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียวนี้เขาก็เพิ่งเรียนรู้ได้จากอีเมลที่ส้าวส้วยส่งมาให้เมื่อคืน จากนั้นก็ตอแหลไปเท่านั้น
ความเป็นจริงหลี่ฝางตั้งใจทำแบบนี้ เพื่อจะบอกพวกเขาว่าตนคือปรมาจารย์กำลังภายใน ให้พวกเขามั่นใจว่าตนก็ทำได้
หลี่ฝางกังวลว่าคนพวกนี้จะโกรธแค้นที่เมื่อวานตนทำร้ายพวกเขา หรือถูกทำร้ายจนไม่มีสัญญาณชีพ ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงไม่ดีแน่
เกาเมิ่งฉีถึงขั้นดูไม่ออกว่าเขาทำได้ยังไง
"ผมชื่อเทิร์นเนอร์ เทิร์นเนอร์ไคลฟ์ มาจากตระกูลไคลฟ์ ผมอยากจะให้คุณร่วมมือกับพวกเรา นี่ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการเชิญจากใจจริง"
เกาเมิ่งฉีที่ถูกถามไม่ได้ตอบแต่อย่างใด เธอมองชายตรงหน้าด้วยแววตาเยือกเย็น
เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นฝ่ายจับตัวเธอมา เธอไม่สามารถปั้นหน้ายิ้มให้เขาได้
"ถ้าพวกคุณจริงใจจริงๆ ปล่อยคนในครอบครัวของฉันก่อน" เกาเมิ่งฉีกวาดมองรอบๆด้วยแววตาเยือกเย็น พูดอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
"พวกฉันไม่มีวันหนีหรอก ฉันไม่อยากจะตายเร็วแบบนี้"
บริเวณโดยรอบล้วนเป็นคนของฝ่าย อีกทั้งที่นี่ก็ยังเป็นต่างบ้านต่างเมือง พวกเขาสามคนไม่รู้จักใคร ถึงแม้จะหนีออกไปก็ต้องตายเท่านั้น
ดังนั้นเกาเมิ่งฉีจึงยอมแพ้เรื่องการหนี รอการช่วยเหลือที่อาจจะมาด้วยความใจเย็น พร้อมทั้งลองพยายามหาความสะดวกสบายให้ตนเองในระยะที่มีจำกัด
แต่เทิร์นเนอร์ยิ้ม ปฏิเสธคำร้องขอของเกาเมิ่งฉี พูดแต่สิ่งที่ตนอยากจะพูด
"พวกเรามีอุปกรณ์และสิ่งแวดล้อมระดับสูงสุด ทั้งยังมีคนมากความสามารถมากมายนับไม่ถ้วน ขอเพียงคุณเกายอมรับข้อเสนอ ทั้งหมดนี้คุณมีได้ทุกอย่าง"
ขณะพูด เทิร์นเนอร์ชี้ไปยังเกาจื้อสิงและเกาจื่อหมิง แล้วพูดต่อ:“นอกจากนี้ พวกเราจะให้ผลตอบแทนตระกูลเกาอย่างงาม รับประกันว่าพวกคุณสามารถกลับมาผงาดอีกครั้งในอเมริกา ไม่มีวันแย่ไปกว่าตอนนี้ ไม่สิ น่าจะดีกว่าตอนนี้มาก พวกเราถึงขั้นสามารถให้สิทธิพิเศษด้านนโยบายกับตระกูลเกา ต้องรู้ว่าผลประโยชน์เหล่านี้ตระกูลใหญ่บางตระกูลองค์กรบางองค์กรยังไม่สามารถได้รับ ถ้าหากคุณเกามีความต้องการอื่น สามารถเสนอมาได้เต็มที่ครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง