ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง
เฉินฮวนฮวนกำลังยุ่งอยู่ในร้านชานม
ทันใดนั้น ผู้หญิงที่คุ้นเคยเดินเข้ามาจากประตู ตัวสูง หน้าตาเย็นชา และแต่งหน้าอ่อนๆ รองเท้าบูทส้นสูงสีดำคู่หนึ่งทำให้ขายาวทั้งสองดูโดดเด่น
“รุ่นพี่!” เฉินฮวนฮวนลืมตาโตด้วยความประหลาดใจและอุทานออกมา
“ฮวนฮวน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เกาเหวินเดินไปหาเธอ ยืนอยู่หน้าเครื่องคิดเงินเหมือนลูกค้า แล้วพูดอย่างเกียจคร้าน: “สองแก้ว เธอหนึ่งแก้ว ฉันหนึ่งแก้ว”
“ห้ะ? รุ่นพี่ ฉันด้วยหรอ?” เฉินฮวนฮวนชี้มาที่ตัวเองอย่างงุนงง
เธอเป็นพนักงานของร้าน เกาเหวินเป็นเจ้าของร้านชานม ทำไมถึงสั่งให้ตัวเองอีกแก้ว?
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ เป็นเรื่องสำคัญมาก เกี่ยวกับชีวิตในอนาคตของเธอ” เกาเหวินพูดอย่างจริงจังและพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น: “งานให้จินตั่วทำแทนก่อน”
“ได้ค่ะ” จินตั่วยืนอยู่ข้างๆและตอบรับ
หลังจากสั่งการเสร็จ เกาเหวินก็นั่งลงที่นั่งสองคนริมหน้าต่าง และฝั่งตรงข้ามเหลือไว้ให้เฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนไม่เคยเห็นเกาเหวินจริงจังขนาดนี้มาก่อน ในฐานะเจ้านายของพวกเธอ เกาเหวินเป็นกันเองมาก
แต่ตอนนี้ เกาเหวินอยากคุยเรื่องสำคัญกับเธอ เกี่ยวกับอนาคต?
หรือว่า กำลังจะไล่เธอออก?
เฉินฮวนฮวนรู้สึกประหม่าขึ้นมา หลังจากชงชานมสองแก้วเสร็จ เธอรีบเดินไปหาเกาเหวิน และนั่งลงตรงข้ามกับเกาเหวิน
“รุ่นพี่ อยากคุยอะไรกับฉันเหรอคะ?” เฉินฮวนฮวนอดใจไม่ได้รีบถามทันทีหลังจากนั่งลง
เธอคุ้นเคยกับกระบวนการทำงานที่นี่ แถมร้านยังอยู่ที่มหาลัย เธอไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง สำหรับเธอที่นี่คืองานพาร์ทไทม์ที่สะดวกที่สุด
"ฉันอยากให้เธอเป็นตัวแทนฉัน เข้าร่วมการคัดเลือกไอดอล100คะแนน" การแสดงออกของเกาเหวินนั้นจริงจังและเสียงของเธอก็จริงจังมากเช่นกัน
เฉินฮวนฮวนตกตะลึง
เธอรู้ว่าไอดอล100คะแนนเป็นการแสดงความสามารถเกิร์ลกรุ๊ปที่เกาเหวินไปเข้าร่วม เกาเหวินและแฟนของเธอที่เป็นลูกคนรวยเปิดบริษัทเล็กๆด้วยกัน เกาเหวินเป็นทั้งศิลปินของบริษัทและเป็นคุณนายของบริษัท
“รุ่นพี่ พี่ไปฝึกอบรมแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ๆ…” หัวของเฉินฮวนฮวนรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเกาเหวินกำลังจะทำอะไร
“ขาของฉันได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถทนฝึกต่อได้ ช่วงหลังๆนั้นฝึกหนักมาก ฉันเลยต้องลาออก มิฉะนั้นหมอบอกว่าถ้าฉันยังฝึกต่อไปเรื่อยๆ ขาฉันจะเป็นง่อย” เกาเหวินพูดตรงๆเกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอ
“ห้ะ! ถ้าอย่างนั้น…” เฉินฮวนฮวนอุทานออกมา แต่ไม่รู้จะพูดอะไร
เธอรู้ดีว่าเกาเหวินให้ความสำคัญกับงานนี้มากและยังลงทุนในบริษัทไปมากด้วย หากเธอสามารถมีชื่อเสียงได้ บริษัทที่เธอและแฟนของเธอเปิดจะมีโอกาสเติบโตได้ดี
“ฮวนฮวน ฉันคิดมานานแล้ว เธอเป็นคนเดียวที่เหมาะสม เพราะฉันเชื่อในตัวเธอ เธอจะไม่ทรยศฉัน” เกาเหวินพูดอย่างจริงจัง เอื้อมมือออกไปจับมือเฉินฮวนฮวน มองตรงไปที่เฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอกล่าวว่า : “รุ่นพี่ ฉันไม่ใช่ศิลปิน อีกอย่างถ้าเข้าร่วมงานนี้ฉันต้องลาเรียนเป็นเวลานาน ฉัน…”
“ฮวนฮวน ตกลงกับฉันเถอะ เธอก็รู้จักนิสัยของฉัน ฉันไม่มีทางเอาเปรียบเธอในอนาคตแน่นอน!” ใบหน้าของเกาเหวินดูกังวลมาก
เฉินฮวนฮวนดูออกว่าเกาเหวินกังวลเรื่องจางฟานมากกว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบริษัทและออกตัวแรง ก็อาจจะทำให้เกาเหวินถูกทิ้งได้
“ฉันตกลงค่ะ รุ่นพี่” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“จริงเหรอ?” เกาเหวินแสดงความดีใจขึ้นมาทันที หินก้อนใหญ่ในใจของเธอดูเหมือนจะตกลงไปที่พื้น
ในขณะนี้ โทรศัพท์ที่เธอวางบนโต๊ะก็สั่น เธอเหลือบมองชื่อผู้โทร ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป
ต่อหน้าเฉินฮวนฮวน เกาเหวินเปิดสปีกเกอร์โฟนโดยตรง
“อาฟาน ฉันเจอผู้สมัครแล้ว และเธอก็ตกลงแล้ว!”
“ เฉินฮวนฮวนที่คุณเคยบอกเหรอ? เธอตอบตกลงแล้ว? เธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัย เธอจะเข้าร่วมการคัดเลือกได้อย่างไร?” เสียงของจางฟานแสดงความไม่พอใจดังขึ้น: “คุณอย่าลืมสิ ผมต้องลงทุนเงิน ค่าเข้าร่วมต้องจ่าย ค่ากล้องก็จ่าย แล้วก็มีค่าโหวต ถ้าเป็นคุณ คุณเป็นแฟนของผม ผมจ่ายให้ได้ไม่เป็นไร นี่จะให้ผมไปเสียเงินกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาเหรอ?"
“ผมเคยบอกคุณแล้ว ผมรู้สึกว่าซงหลิงเอ่อร์มีโอกาสมากกว่า ดูดีและเป็นมืออาชีพในการแสดง แค่จัดการดูแลเล็กน้อยก็ให้เธอไปขึ้นกล้องได้ แบบนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไม่ใช่เหรอ?
เฉินฮวนฮวนเพิ่งได้ยินคำอธิบายของเกาเหวิน ดังนั้นเธอจึงเข้าใจสิ่งที่จางฟานพูดได้
ซงหลิงเอ่อร์น่าจะเป็นผู้หญิงที่เกาเหวินกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย
นางเอกโง่มากเลย ทนอ่านไม่ไหว...
น่าจะบอกความจริง โกหกทำไม ไม่สมกับบทที่ว่าเป็นคนเก่งและฉลาดเลย...