โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 134

อันหรันมองไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยความประหลาดใจ ท่าแบบนี้ มีแค่น้ำกั้นระหว่างกลางแบบนี้ มันช่าง...

ฮั่วเทียนหลันไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืดกับอันหรันอีกแล้ว เขายันตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะคว้าจับเอวอันหรัน ยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตัวเขา

ตำแหน่งที่นั่งมันช่างเหมาะเจาะ ร่างสองร่างรวมเข้าด้วยกันอย่างพอดี

อันหรันรู้สึกถึงความขมขื่นที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานเธอก็ทนกับความเจ็บนี้ไม่ไหวจึงกรีดร้องออกมา

ทันใดนั้นเอง ฮั่วเทียนหลันจัดการปิดปากของอันหรันเอาไว้ไม่ให้เธอร้องได้อีก

ฮั่วเทียนหลันระบายความโกรธที่มีในวันนี้ลงใส่อันหรันอย่างไม่คิดใส่ใจ เขาช่วงชิงความหอมหวานตามร่างกายเธอไม่ยอมหยุด ส่งอันหรันไปสู่ท้องทะเลแห่งกามารมณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า

ในคราแรกอันหรันพยายามควบคุมร่างกายของเธอไม่ให้จมลงไปใต้น้ำจนเกิดการสำลัก

แต่การกระทำของผู้ชายคนนี้นั้นรุนแรงมากเกินไป ในที่สุดก็กลายเป็นเธอที่นอนหงายอยู่ในอ่างอาบน้ำ และฮั่วเทียนหลันที่กำลังทำหน้าที่อย่างหนักอยู่ด้านหน้าเธอ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน กับเสียงครวญครางของฮั่วเทียนหลัน และร่างกายของอันหรันที่กำลังบีบรัดอย่างรุนแรงและค่อยๆผ่อนคลายลงในที่สุด

ความเหนื่อยล้าที่เริ่มพรั่งพรูออกมาอย่างหาที่สุดไม่ได้ อันหรันในตอนนี้ไม่มีแม้แต่แรงจะขยับนิ้วเลยด้วยซ้ำ

แต่ในขณะเดียวกันนั้น โทรศัพท์มือถือของฮั่วเทียนหลันที่วางอยู่ด้านนอกก็ดังขึ้น

ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กวาดสายตาไปมองดูร่างที่ดูทรมานของอันหรันเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป ทิ้งอันหรันที่ตอนนี้ไม่ต่างจากตุ๊กตาบาร์บี้ที่ขาดรุ่งริ่งไว้เพียงลำพังในอ่างอาบน้ำ

เขาคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดอตัวอย่างลวกๆ จากนั้นจึงนำมาพันปิดส่วนล่างไว้ แต่เมื่อเขาเดินไปถึงเตียง เบอร์ที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ก็วางสายไปเสียแล้ว

ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองโทรศัพท์มือถือก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

มู่เหว่ยโทรมาหาเขาเวลานี้มีเรื่องอะไรนะ

ขณะเดียวกันอันหรันที่อยู่ในห้องอาบน้ำในตอนนี้ก็หายใจได้ทั่วท้องสักที เธอพาร่างอันอ่อนแรงจนแทบจะคลานออกมาจากอ่างอาบน้ำอย่างทุลักทุเล ก่อนจะเช็ดตัวอย่างเร่งรีบ แล้วหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่ฮั่วเทียนหลันโยนทิ้งไว้ขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินออกไป

ทันทีที่เธอออกมา โทรศัพท์มือถือของฮั่วเทียนหลันก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขารีบกดรับสายในทันที

“เสี่ยวเหว่ยมีอะไรหรือเปล่า”

ไม่รู้ว่าปลายสายกำลังพูดอะไร ฮั่วเทียนหลันถึงได้หันกลับมามองเธอ สายตาของฮั่วเทียนหลันหยุดที่อันหรันเพียงครู่เดียวเท่านั้น จากนั้นพูดตอบปลายสายไปว่าเดี๋ยวจะรีบไปแล้วก็กดวางสายทันที

เขารีบสวมใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรกับอันหรันสักคำ

อันหรันมองตามฮั่วเทียนหลันไม่วางตา ทุกก้าวที่เขาเดินห่างออกไป หัวใจของเธอก็ค่อยๆดิ่งลงทีละนิด จนกระทั่งเขากำลังจะเปิดประตูออกไป แต่แล้วก็หยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ฮั่วเทียนหลันเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้หันหน้ากลับมามอง : "คืนนี้ฉันไม่กลับนะ เธอก็รีบพักผ่อนซะล่ะ! "

พูดจบฮัวเทียนหลันก็เปิดประตูและเดินออกไปในทันที

เมื่อเห็นท่าทีเร่งรีบปิดประตูของเขา หัวใจของอันหรันก็พลันเจ็บแปลบขึ้นมาเสียดื้อๆ เธอยกมือขึ้นมากุมที่หน้าอกด้านซ้าย และคุกเข่าลงกับบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

เสี่ยวเหว่ยที่ว่า มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นมู่เหว่ยที่โทรเข้ามา

เธอถูกฮั่วเทียนหลันทรมานเป็นเวลานานขนาดนี้ แต่กลับไม่เคยได้รับฟังประโยคที่อ่อนโยนจากปากฮั่วเทียนหลันเลยสักครั้ง

แต่มู่เหว่ยเพียงแค่โทรเข้ามา ฮั่วเทียนหลันก็รีบออกไปหาเธอแล้ว

ทั้งยังบอกกับอันหรันว่าจะไม่กลับมาแล้ว แต่ก็นั่นแหละ เมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยกลับมาอยู่แล้วนี่นา

จริงๆเขาจะไปอย่างเงียบๆก็ยังได้ แต่ทำไมต้องพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคนี้ด้วยล่ะ

"อ้าว พี่สะใภ้ ตื่นแล้วเหรอ!" ฮัวเส้าซู่รีบเอ่ยทักทายขึ้นหลังจากที่มองเห็นอันหรัน จากนั้นชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะชา ก่อนจะพูดขึ้น : "ผมเอาโทรศัพท์มือถือมาคืนให้แล้ว"

หลี่รูยาที่ตอนนี้กำลังศึกษาผลงานการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอยู่ เมื่อได้ยินสิ่งที่ฮัวเส้าซู่เอ่ยขึ้น เธอก็เงยหน้าขึ้นจากกองกระดาษทันที พร้อมกับขมวดคิ้วถาม "ทำไมโทรศัพท์มือถือของพี่สะใภ้ถึงไปอยู่กับแกได้ล่ะ เมื่อคืนไปไหนกันมาเหรอ"

ฮัวเส้าซู่สะดุ้งเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เกิดความคิดที่อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด

แกนี่มันโง่เสียจริง ทำไมถึงได้พูดเรื่องนี้ออกมาต่อหน้าคุณแม่นะ

เขาที่พูดเก่งมาตลอด ในตอนนี้กลับอ้ำๆอึ้งๆ ไม่รู้ควรจะพูดยังไงดี

ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ หลี่รูยาก็ยิ่งเกิดความสงสัย เจ้าเด็กคนนี้เมื่อคืนคงออกไปเถลไถลอีกแล้วเป็นแน่

อันหรันเห็นท่าไม่ดีจึงเดินมาที่หน้าโซฟา ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "คุณแม่คะ เมื่อคืนหนูไม่ทันระวังทำมือถือหล่น ฮัวเส้าซู่ก็เลยช่วยเอาไปซ่อมให้น่ะค่ะ!"

หลี่รูยามองไปที่อันหรัน เธอรู้สึกว่าเรื่องไม่น่าจะเป็นเช่นนี้ อันหรันน่าจะกำลังช่วยฮัวเส้าซู่ปิดบังอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ

ฮัวเส้าซู่เมื่อเห็นว่าอันหรันออกหน้ารับให้ก็รีบพูดเสริมขึ้นมาทันที : "ใช่แล้วครับคุณแม่ ตอนนั้นมันก็ดึกมากแล้ว หาที่ซ่อมไม่ได้ บังเอิญว่าผมมีเพื่อนที่เปิดร้านซ่อมอยู่พอดี ก็เลยไปให้เขาช่วยซ่อมมือถือให้พี่สะใภ้ไงครับ!”

ฮัวเส้าซู่จงใจเน้นว่าตอนนั้นมันดึกมากแล้วเพื่อทำให้หลี่รูยาเชื่อในสิ่งที่ตนพูด

เมื่อเห็นว่าหลี่รูยายังคงทำท่าเหมือนจะไม่เชื่อ ฮัวเส้าซู่จึงเสแสร้งแกล้งทำเป็นน้อยอกน้อยใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "โถ่คุณแม่ครับ สายตาแบบนี้นี่หมายความว่ายังไงอ่า คุณแม่ไม่เชื่อที่ผมพูดยังพอเข้าใจได้ แต่นี่คุณแม่จะไม่เชื่อที่พี่สะใภ้พูดด้วยเหรอครับ"

เขาชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด หลี่รูยาจึงเอ่ยขึ้นบ้าง "แกก็หัดทำตัวดีๆบ้างสิ อย่าสร้างความวุ่ยวายให้ฉันมากนัก" พูดจบเธอก็หันไปสนใจงานที่อยู่ตรงหน้าต่อ

หัวเสี่ยวน่าเองก็ถือเอาสมุดบันทึกไปนั่งวาดภาพที่ด้านข้างเช่นกัน อันหรันนึกขึ้นได้ว่าการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้นใกล้เข้ามาเต็มที และเธอก็ต้องหาเวลามาเตรียมผลงานของตัวเองบ้างได้แล้ว

แต่ในตอนนี้เธอยังมีเรื่องค้างคาใจ เธอนั่งลงข้างๆฮัวเส้าซู่โดยเว้นระยะห่างเล็กน้อย พลันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแกล้งทำเป็นดูนั้นดูนี่ ก่อนจะกระซิบถาม "เส้าซู่ เรื่องเมื่อคืน ไม่มีปัญหาอะไรตามมาใช่ไหม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง