ตอนนี้ไม่มีลูกไม้อะไรอีกแล้ว แต่หลี่รูยาก็ยังคงเงียบอยู่
ยี่เฉียวถงรู้ดีว่าจะต้องเติมน้ำมันใส่กองไฟเพื่อจบปัญหาของอันหรันภายในครั้งเดียว
เธอพูดด้วยท่าทางที่ไม่สบายใจ “อ่า...เป็นเพราะฉันสั่งสอนไม่ดีเอง ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน เพราะหลังจากที่พ่อแม่ของเธอจากไปแล้ว อันหรันคงต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน ช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นเธอจึงอาจจะทำอะไรเกินเลยไปบ้าง....คุณหญิง อย่างไปว่าเธอเลย มาว่าฉันแทนดีกว่า เธอยังเด็ก......”
หลี่รูยายังคงรอคำตอบของอันหรัน มีแต่คำพูดของเธอเท่านั้นที่ทำให้หลี่รูยาเชื่อจนหมดใจ
เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป อันหรันเป็นคนแบบนั้นหรอ? ไม่จริง
ปกติเธอเป็นคนที่อ่อนโยน สง่างามและมีคุณธรรม เป็นลูกสะใภ้ที่ดีที่แม่สามีไม่เคยตรวจพบความผิดเลย
เธอยังคงมองไปที่อันหรัน เธอพูดขึ้นมาว่า “หรันหรัน ไม่ใช่ว่าเธอควรจะพูดอะไรกับฉันหน่อยหรอ?”
หัวใจของเธอได้ตายไปแล้ว และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา
เธอรู้ดี ถ้าเธอตอบผิดไปแม้แต่คำเดียว ยี่เฉียวถงก็คงจัดการกับลั่นลานทันที
เธอพูดออกมาเสียงทุ้มๆว่า “แม่ ขอโทษคะ....ใช่ ฉันเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันไม่เหมาะที่จะมาเป็นภรรยาของเทียนหรัน....”
“เธอ....เธอ....” ปกติหลี่รูยาเป็นคนที่ใจแข็ง ไม่มีความรู้สึกกับเรื่องพวกนี้
แต่เรื่องในวันนี้ มันเกินความคาดหมายของเธอจริงๆ
อันหรันเห็นอาการหายใจถี่ของหลี่รูยา เธอรู้ได้ทันที เธอรีบไปหยิบยารักษาโรคหัวใจออกมาจากใต้โต๊ะกาแฟ และเอนตัวลงให้หลี่รูยานอนราบกับโซฟา
นี่เป็นการปฐมพยาบาลสำหรับโรคหัวใจโดย ก่อนหน้านี้เธอเคยเรียนมา
แต่หลี่รูยาสะบัดมือของอันหรันออก ขณะมือของอันหรันที่ถือแก้วน้ำอยู่ จึงทำให้แก้วน้ำตกลงพื้น เพล้ง แตกออกมาเป็นสี่ห้าส่วน
ก็เหมือนใจของเธอ ที่มันแตกสลาย
“ออกไป!”
ตอนนี้หลี่รูยาเหมือนกลับมาอายุยี่สิบปีอีกครั้ง หน้าของเธอขรึม เธอโกรธจนดวงตาของเธอมีสีแดงออกมา
อันชิงจึงรีบลุกขึ้นเพื่อไปป้อนยาให้หลี่รูยา แต่ท่าทางของเธอเหมือนกับว่ากำลังหวาดกลัวอยู่ เสียงของเธอสั่น “คุณหญิง คุณหญิง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? อย่าไปโทษพี่สาวเลย เธอทำไปโดยขนาดสติ ฉันเชื่อว่าเธอจะกลับมาเป็นคนดีได้.....”
ยี่เฉียวถงถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมพูดว่า “โอ้....ฉันผิดเอง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉัน....ฉันไม่ควรให้การแต่งงานครั้งนั้นเกิดขึ้น!”
ตอนนี้อันหรันเป็นคนที่สิ้นหวังที่สุด
ต่อไปเธอก็จะต้องออกไปจากที่นี่
ตอนนี้ อันชิงภูมิใจมาก
หลังจากที่หลี่รูยาพักผ่อนมาสักพัก เธอก็ฟื้นตัวขึ้น เธอค่อยๆผลักอันชิงที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆเธอออกไปอย่างช้าๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรผู้หญิงคนนี้ถึงทำท่าทางแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก
เธอพูดขึ้นมาว่า “งานหมั้นในครั้งนั้น คนทุกคนในเมืองzต่างรับรู้ ก่อนแต่งงานทำไมพวกเธอถึงไม่พูด พอถึงตอนนี้เพิ่งจะเอาอะไรมาให้ฉันดู คุณคิดว่าตระกูลฮั่วของฉันเป็นสนามเด็กเล่นหรอ? ถ้าสองคนนั้นต้องหย่ากันจริง ตระกูลฮั่วของฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
หลี่รูยามองไปที่อันหรัน ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง
ความผิดหวังเป็นส่วนใหญ่ แต่ความโกรธที่เธอแทบไม่สังเกตเห็น
เห็นได้ชัดว่า เธอไม่เคยคิดว่าอันหรันจะเป็นผู้หญิงแบบนั้นไปได้
หัวใจของอันหรันก็รู้สึกเหมือนมีมีดแทงทะลุเข้ามา เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก
เธอรักตระกูลฮั่ว หลี่รูยาคิดว่าเธอเป็นลูกสาวของเขาคนหนึ่ง ดีกับเธอมาโดยตลอด
แต่ว่าเธอ กลับมาทำร้ายจิตใจของเขา
เธอทำได้แค่ก้มหน้าเพื่อแสดงให้เห็นถึงความละอายใจของเธอ
เธออยากจะพูดกับหลี่รูยาดังๆว่า มันไม่จริง ทั้งหมดมันไม่จริง
แต่ถ้าหากเธอพูดคำนี้ออกมา ลูกสาวของเธอก็คงต้องจากไป
เธอสามารถตายได้ แต่ลูกสาวของเธอจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข
เมื่อเห็นหลี่รูยาถามถึงการรับผิดชอบ อันชิงก็เงียบไป ยี่เฉียวถงพูดออกมาแทนว่า “เราเป็นดองกัน อย่าเป็นแบบนี้เลย ฉันจะพาตัวอันหรันกลับไป และจะให้อันชิงอยู่เป็นภรรยาของเทียนหลันที่นี่แทน เธอเป็นคนที่อ่อนโยน.....”
เธอยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกหลี่รูยาขัดจังหวะ
“เป็นความคิดที่ไม่เลว แต่แค่เปลี่ยนคน มันก็สามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้แล้วหรอ?”
“ฉันต้องการคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้!”
พูดจบ หลี่รูยาพูดผายมือเพื่อส่งแขก
ยี่เฉียวถงยังอยากจะพูดต่อ แต่อันหรันเดินออกไปก่อนแล้ว
หลี่รูยามองเห็นเงาหลังของอันหรันที่เดินออกไป และใบหน้าของอันหรันก็เต็มไปด้วยความทุกข์
หลังที่ออกมาจากบ้าน เธอก็ยืนรออยู่ที่สวน
ขณะที่ยี่เฉียวถงถูกคนรับใช้ไล่ให้ออกไปจากบ้านหลังนี้ ก็ถูกอันหรันเข้ามาขัดขวางไว้
“ฉันทำตามความต้องการทุกอย่างของเธอแล้ว ปล่อยลูกสาวของฉัน” อันหรันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อันชิงรู้สึกหงุดหงิด เธอคิดว่าถ้าเธอทำให้อันหรันมีมลทิน เธอก็จะสามารถเข้ามาแทนที่อันหรันได้
แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด นั่นทำให้เธอหงุดหงิดมาก
เธอมองไปที่อันหรันด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ “จะเรียกร้องอะไร? มันก็แค่สัตว์ตัวหนึ่งไม่ใช่หรอ? พ่อของมันเป็นใครก็ยังไม่รู้เลย! ของแบบนี้ตายได้เสียก็ดี อยู่ไปก็เป็นขยะสังคม!”
ยี่เฉียวถงยังไม่ได้พูดอะไร เธอกำลังลังเลว่าควรปล่อยเด็กคนนั้นไปหรือเปล่า
จากมุมมองของเธอในตอนนี้ เธอเป็นผู้ชนะแล้ว
ด้วยเหตุมันจึงไม่จำเป็นต้องไปฆ่าใคร เพราะมันเสี่ยงต่อกฎหมาย
อันหรันไม่ได้มองไปที่อันชิงแม้แต่น้อย เธอมองไปที่ยี่เฉียวถงด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกพร้อมพูดว่า “ปล่อยเธอ!”
ยี่เฉียวถงตอบกลับมา “อันหรัน ตอนนี้เรื่องนี้ยังไม่.....”
“ปล่อยเธอหรือจะให้ฉันเดินไปบอกความจริงทั้งหมดกับคุณหญิงฮั่ว! ” อันหรันพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
“เธอกล้าหรอ!”
“เธอก็ลองดูสิว่าฉันจะกล้าไหม!”
อันหรันมองหน้ายี่เฉียวถงด้วยความโกรธ ตอนแรกยี่เฉียวถงมองเห็นความอ่อนแอในสายตาของเธอ แต่ตอนนี้สายตาแบบนั้นไม่มีเหลืออยู่เลย
ในสายตาของเธอมีแต่ความเด็ดขาด
สุนัขรับรู้ถึงจิตใจของมนุษย์ เหมือนกับว่าดาหลางเข้าใจว่าอันหรันกำลังรู้สึกอย่างไร
มันเข้ามานอนใกล้ๆเท้าของอันหรัน และไม่จำเป็นที่จะต้องไปลูบหัวมัน
อันหรันเอนตัวลงไป และค่อยๆอุ้มมันขึ้นมา
ตอนนี้ดาหลางก็โตแล้ว ป้าDingเลี้ยงมันอย่างดี มันอ้วนจนอันหรันเกือบจะอุ้มมันขึ้นมาไม่ไหว
“ตัวน้อย ฉันต้องไปจากที่นี่แล้ว แกจะคิดถึงฉันไหมนะ?”
ดาหลางเห่าออกมาสองสามครั้ง แววตาของมันแสดงออกมาจัดเจนว่า ถ้าอันหรันจะไปที่ไหนมันก็จะตามไปทุกที่
อันหรันยิ้มออกมาอย่างทรมาน ลูบไปที่หัวของดาหลาง และปล่อยให้มันไปเล่นที่อื่น
เธอดูแลดาหลางให้ดีไม่ได้ ยังไงคฤหาสน์หลังนี้ก็ยังมีป้าDingอยู่ ให้มันอยู่ที่นี่ต่อไปคงจะมีความสุขมากกว่า
ตอนนี้โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นมา ป้าเฉินโทรมาบอกว่าลั่นลานกลับมาแล้ว
มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยบนร่างกายของเธอและสภาพจิตใจของเธอแย่มาก ดูเหมือนเธอจะหวาดกลัว ป้าเฉินคอยปลอบเธออยู่
หัวใจของคนป็นแม่อย่างอันหรันได้แตกสลายไปแล้ว
ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ถ้าเธอฟังที่ยี่เฉียวถงพูดตั้งแต่แรก ลั่นลานก็คงไม่ต้องมาทรมานแบบนี้
เธอได้วิดีโอคอลกับลั่นลาน เมื่อลั่นลานมองเห็นแม่ของเธอ เธอก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันที
เธอตะโกนเรียกแม่หลายครั้ง บอกแม่ไม่หยุดว่าเธอถูกคนทุบตี....
อันหรันแกล้งทำเป็นแข็งแกร่ง แต่จู่ๆน้ำตาของเธอก็ไหลรินลงมา
เธอพูดออกมาว่า “ขอโทษนะ...ลูกแม่ เดี๋ยวแม่จะกลับไปหา กลับไปอยู่กับลูก เลี้ยงดูลูกจนโต จากนี้จะไม่หนีไปไหนแล้ว”
พอได้ยินอันหรันพูดแบบนี้ ลั่นลานก็ดีใจเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเธอเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
หลังจากพูดไม่นาน ป้าเฉินก็หยิบโทรศัพท์ออกมาพูดกับอันหรันว่า “คุณมาได้แล้วจริงๆหรอ?”
ป้าเฉินสังเกตเห็นว่าอันหรันอารมณ์ไม่ค่อยดี และลั่นลานก็เพิ่งจะโดนลักพาตัวไป ถ้าตอนที่สามีของเธอวังเทียจุนกลับมา เธอก็บอกไปว่าพวกที่ลักพาตัวได้ติดต่อไปหาอันหรัน
นี่มันแสดงให้เห็นว่าคนที่ลักพาตัวจะต้องมุ่งเป้าไปที่อันหรันเป็นแน่
อันหรันดึงที่มุมปากทำท่าผ่อนคลายและพูดว่า “ใช่ พวกเขาตกลงกันแล้ว ว่าให้ฉันไป”
ป้าเฉินเห็นท่าทีที่เศร้าโศกของอันหรันเธอจึงพูดปลอบใจออกมาสองสามประโยค
ถ้าเธอจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองw เธอเป็นผู้หญิงตัวลำพังและไหนยังจะต้องดูแลลูกอีก เธอต้องรับสภาวะแรงกดดันที่สูงมากอย่างแน่นอน
แต่อันหรันก็ตอบกลับไปว่า “ป้าเฉิน ต้องรบกวนให้ป้าดูแลลั่นลานมาตลอดเลย แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเก็บของก่อนนะ”
แต่แท้จริงแล้วอันหรันบังคงไม่ได้เก็บของ เธอจอตั๋วเครื่องบินอีกครั้ง เที่ยวเที่ยงคืน
เธอนั่งอยู่ในห้องนอนเพียงลำพัง มองเห็นรถของป้าDingกลับมา
หลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
อันหรันไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เธอหลับตาลง อยากจะอยู่เงียบๆ อยากจะเพลิดเพลินกับการพักผ่อนครั้งสุดท้าย และกลิ่นอายของเธอกับฮั่วเทียนหลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง