เมื่อได้ยินคำสั่งของตงเหยียน หยางเทียนก็เคาะที่ประตูห้องไพรเวททันที
ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกโดยหญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่โชว์หุ่นสวย เธอมองไปที่หยางเทียนด้วยความตกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากอย่างอดไม่ได้
"หล่อมากเลย!"
ขณะพูดเธอก็เอื้อมมือไปจับมือของหยางเทียนไว้
“มาเร็วคนหล่อ รีบเข้ามา ... ”
หยางเทียนพูดอะไรไม่ออก ท่าทางของผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขานึกถึงกลุ่มคนบริการพิเศษบางกลุ่ม
เมื่อหยางเทียนเดินเข้าไปในห้องไพรเวทก็เป็นที่กรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงหลายคน
พวกเขามองผู้ชายอ่อนโยนสง่างามในห้องจนรู้สึกชินแล้ว พอมีหนุ่มหล่อร่างกายแข็งแรงล่ำสันอย่างหยางเทียนปรากฏตัวขึ้นมา
จึงทำให้ทุกสายตาของคนในห้องต่างก็จับจ้องไปที่เขากันหมด
หยางหลิงรุ่ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าค่อนข้างคุ้นตา ใช่หยางเทียนหรือเปล่า
หนุ่มหล่อสาวสวยไฮโซในห้องเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกันขึ้นมา แต่หยางเทียนกลับไม่ได้สนใจ เขาเดินตรงไปหาหยางหลิงรุ่ยก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณหญิง ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ"
เมื่อมองเห็นใบหน้าแดงก่ำของหยางหลิงรุ่ย เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอนั้นดื่มมากเกินไปแล้ว
"อืม ... " หยางหลิงรุ่ยพยายามที่จะลุกขึ้น แต่แข่งขาของเธอกลับอ่อนแรง จึงทำให้ร่างของเธอโยกไปมาก่อนจะล้มลงใส่ตัวของหยางเทียน
หยางเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะอุ้มหยางหลิงรุ่ยขึ้นโดยไม่ได้สนใจคำพูดใด ๆ จากนั้นเดินออกไปจากห้องไพรเวทในทันที
เสียงพูดคุยแผ่วเบาดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“หยางหลิงรุ่ยก็ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ทำไมถึงปล่อยให้บอดี้การ์ดอุ้มตัวง่ายเช่นนั้นล่ะ”
“ยังต้องพูดอีกเหรอ แน่นอนว่าคนใกล้ตัวมักจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ก็เหมือนกับเก๋งที่ใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อนนั่นแหละ!”
“อย่าพูดมั่วซั่ว เดี๋ยวก็มีคนมาได้ยินเข้าหรอก แต่ว่าผู้ชายคนนั้นกำยำมากเลยเนอะ เมื่อกี้ฉันรู้สึกตื่นขึ้นมาเลยล่ะ... ”
เมื่อออกมาจากห้องไพรเวทแล้ว หยางเทียนถึงปล่อยตัวหยางหลิงรุ่ยลง
เพราะข้างนอกผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน หากเห็นบอดี้การ์ดอย่างเขาอุ้มคุณหญิงบ้านตระกูลหยาง พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าอาจจะมีข่าวฉาวโผล่ออกมาก็เป็นได้
เมื่อถูกลมที่ทางเดินพัดผ่านมากระทบ หยางหลิงรุ่ยก็เริ่มได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว
เธอมองหยางเทียนที่กำลังพยุงตัวเธอเดินอยู่ จากนั้นถามขึ้น : "พี่สะใภ้ตามตัวฉันเหรอ"
"ครับ... " หยางเทียนเอ่ยตอบสั้น ๆ
ในตอนที่เดินผ่านทางโค้ง หยางเทียนจับแขนของเธอแรงขึ้นเล็กน้อยจนเธอรู้สึกได้
หลังจากนั้นเธอก็ถูกซ่อนตัวเอาไว้ข้างหลังเขา
“ประธานฮั่วคุณจะทำอะไร”
ฮั่วเทียนหลันพาลูกค้ามาเลี้ยงที่นี่ในวันนี้ หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็กำลังจะกลับไปที่ห้องไพรเวท
แต่กลับมองเห็นร่างอันแสนคุ้นเคยที่กำลังถูกคนอื่นพยุงอยู่ขึ้นมาก่อน
เมื่อเห็นเธอดื่มจนเมาขนาดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ ก่อนจะเดินมาขวางทางไว้
“ฉันอยากคุยอะไรกับคุณหยางสักหน่อย”
สายตาอันเฉียบคมของฮั่วเทียนหลันจ้องลึกไปที่ร่างของหยางหลิงรุ่ย
เมื่อหยางหลิงรุ่ยได้ยินเสียงของเขา เธอก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะโผล่หน้าออกไปดู เมื่อเห็นว่าเป็นเขาเธอก็รีบหดหัวกลับเข้าไปในทันที
ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่ก็พูดกันอย่างชัดเจนแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกกลัวผู้ชายคนนี้อยู่ดี
“ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณฮั่ว และไม่มีอะไรจะคุยด้วย ตอนนี้ฉันง่วงมากแล้ว หยางเทียนพวกเรากลับกันเถอะ”
หยางเทียนรับคำสั่งและให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเข้ามาพยุงตัวหยางหลิงรุ่ย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ประธานฮั่ว กรุณาหลีกทางด้วยครับ!"
ฮั่วเทียนมองผ่านหยางเทียนไปยังผู้หญิงที่เขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืน ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม : "หยางหลิงรุ่ย!"
หยางหลิงรุ่ยตัวสั่น เธอเกือบจะขานรับขึ้นมา
แต่ก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกักเก็บคำพูดเอาไว้ข้างในใจ
ฮั่วเทียนหลันไม่ได้รอให้เธอเอ่ย เขาเลือกที่จะหลีกทางให้แต่โดยดี
เขามองดูเงาของเธอที่ค่อย ๆ ลับตาไป ก่อนดวงตาจะฉายแววหม่นหมองลงมา
เขายังคาดหวังอะไรอยู่อีกเหรอ
คาดหวังให้เธอเปลี่ยนใจ คาดหวังให้เธอกลับมาอยู่กับตัวเอง?
หยางหลิงรุ่ยกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จสรรพอย่างรวดเร็ว เธอก็นอนนก่อนหมกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มก่อนจะหลับไป
ในคืนนี้เธอหลับไม่ค่อยสนิท
เธอฝันว่าฮั่วเทียนหลันถือแหวนไว้ในมือและคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอเธอแต่งงาน
ทันใดนั้นจางรันก็รีบวิ่งเข้ามา ก่อนจะตะโกนว่าอย่าแต่งงานกับเขาเด็ดขาด
จากนั้นภาพในฝันก็เปลี่ยนไปฉับพลัน เธอมองเห็นฮั่วเทียนหลันกำลังกดตัวเธอลงอย่างช้า ๆ ใบหน้าของเขาดุร้าย
"เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเหรอ ภรรยาของฉัน ถ้าฉันไม่เอาเธอคิดหรือว่าฉันจะยอมปล่อยให้เธอตกเป็นของคนกลุ่มนั้น"
...
หยางหลิงรุ่ยกรีดร้องขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั่งหอบหายใจอยู่นาน เธอถึงได้สติกลับมาและรู้ว่าตนเองฝันไป
เมื่อมองดูเวลาก็พบว่าตอนนี้สิบโมงเช้าแล้ว
ดูเหมือนว่าเธอไม่ควรดื่มเหล้าจริง ๆ เพราะเมื่อดื่มก็ทำให้เธอนอนตื่นสาย และยังทำให้ฝันร้ายอีกด้วย
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก่อนจะห็นข้อความสองสามข้อความบน WeChat
ในนั้นเป็นอีฟที่ส่งมาสองข้อความ แต่ละข้อความยังห่างกันเป็นครึ่งชั่วโมง
"หลิงรุ่ย ถึงบ้านหรือยัง"
"อ้อ แล้วก็ขอวีแชทของหยางเทียนได้ไหม"
หยางหลิงรุ่ยตกตะลึงไปชั่วขณะ นี่อีฟชอบหยางเทียนยังงั้นเหรอ
แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้หรอก เพราะอีฟรู้จักหยางเทียนมาก่อน และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นเขา
ถ้าหากเธออยากได้จริง ๆ เธอก็คงขอนานแล้ว
ดูเหมือนว่าเมื่อคืนมีใครสักคนตกหลุมรักหยางเทียนขึ้นมาแน่ จึงให้อีฟมาขอข้อมูลการติดต่อจากเธออีกที
เมื่อนึกถึงใบหน้าของหยางเทียน เธอก็ต้องถอนหายใจออกมา
โลกนี้ช่างเลือกรักแค่บางคนจริง ๆ
หยางเทียนนั้นช่างสอดคล้องกับความต้องการของผู้หญิงที่แสวงหาความรู้สึกปลอดภัยเสียจริง ผิวที่เซ็กซี่และกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขา ทำให้พวกผู้หญิงยิ้มมีความสุขจนแทบจะลืมความกลัดกลุ้มไปหมด
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกเจ็บปวดที่ใจขึ้นมาฉับพลัน แต่ปากของเธอยังคงดื้อดึงไม่ยอมหยุด : "ระหว่างฉันกับคุณฮั่วเคยมีความสัมพันธ์อะไรกันมาก่อนด้วยเหรอ"
ฮั่วเทียนหลันจ้องมองหยางหลิงรุ่ยอย่างลึ่งซึ้ง ก่อนจะเก็บกล่องสีแดงมาวางไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม
"ผมคงคิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวสินะ คุณหยาง รบกวนคุณแล้ว"
เขาลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว
หยางหลิงรุ่ยมองดูร่างที่กำลังเดินจากไปของเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก
แท้จริงแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก
เขาบอกว่าชอบเธอไม่ใช่เหรอ
แต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมหันกลับมา ทำไมเขาถึงไม่แสดงความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด
น้ำชาในถ้วยเย็นลงแล้ว คนใช้จึงเดินเข้ามาเปลี่ยนน้ำ
ทันใดนั้นหยางหลิงรุ่ยก็เอ่ยขึ้น : "ป้าหยาง ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม"
ผู้หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าป้าหยาง เป็นคนรับใช้ในตระกูลหยางมานานหลายสิบปี เธอเห็นพี่น้องหยางหยวนมาตั้งแต่เล็ก ๆ และเห็นหยางหลิงรุ่ยตั้งแต่มีชีวิตใหม่
เธอมองเห็นถึงความลังเลของหยางหลิงรุ่ยที่มีอยู่ในตอนนี้ ในฐานะคนที่เคยผ่านมาก่อน เธอจึงอยากจะเอ่ยอะไรเพื่อช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกกระจ่างขึ้นมาบ้าง
"คุณหญิงคะ เรื่องทุกอย่างบนโลกนี้ เดิมทีก็ไม่มีคำว่าถูกและผิดอย่างแน่นอนอยู่แล้ว"
หยางหลิงรุ่ยยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น จากนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรขึ้นมาอีก
เธอมองไปข้างหน้าและมองผ่านกำแพงไปราวกับว่าสามารถมองเห็นฮั่วเทียนหลันที่ค่อย ๆ เดินห่างออกไป
ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาอีกหรือเปล่า
เกรงว่าคงจะไม่กลับมาแล้วล่ะ เพราะเธอแสดงท่าทางออกไปชัดเจนขนาดนี้แล้ว
ไม่กลับมาก็ดีเหมือนกัน ในที่สุดเธอก็ได้บอกลากับชีวิตในอดีตเสียที และตอนนี้ยังได้ตัดโซ่ตรวนทิ้งไปหมดอีกด้วย
ทุกคนต่างแยกห่างจากกันไกลและทำได้เพียงคอยอวยพรให้แก่กันและกันเท่านั้น
ฮั่วเทียนหลันจากไปเช่นนั้นและไม่กลับมาอีกเลย
ในคราแรกหยางหลิงรุ่ยก็ปรับตัวไม่ค่อยได้ ก่อนจะเริ่มคุ้นชิน และชินชาไปไหนที่สุด
เธอพบตัวเองมีความรู้สึกคิดถึงเขาบ้างเป็นครั้งคราว
ในฐานะท่านประธานของ Fahrenheit Group หนึ่งในบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกธุรกิจ
ฮั่วเทียนหลันจึงเป็นบุคคลที่สามารถพบเจอได้บ่อย ๆ ตามข่าว ทุกครั้งที่มีหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเขา หยางหลิงรุ่ยมักจะซื้อมาเก็บไว้ฉบับหนึ่งเสมอ
แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงทำเช่นนี้
อีกอย่างก็ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว!
หน้าไทมไลน์ของฮั่วเทียนหลันก็มีการอัปเดตบ้างเป็นครั้งคราว เขาไม่ได้โพสต์สิ่งของแบรนด์เนมราคาแพง รถยนต์คันหรู หรือว่าคฤหาสน์หลังโอ่อ่าแต่อย่างใด
มีเพียงรูปถ่ายของเด็กน้อยหน้าตาน่ารักเท่านั้น เด็กผู้หญิงตัวเล็กในภาพนั้นน่ารักมาก เธอถูกแต่งตัวราวกับตุ๊กตาไม่มีผิด
ทุกครั้งที่หยางหลิงรุ่ยมองเห็น หัวใจของเธอก็มักจะเต้นแรงเสมอ
เธอรู้ดีว่า นี่คือปฏิกิริยาของคนเป็นแม่ที่มีต่อลูก
เด็กคนนั้นคือลูกของเธอ แม้ว่าเธอจะลืมเเรื่องในอดีตไปหมดแล้ว
แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดนี้ไม่อาจตัดให้ขาดไปได้ และมันยังคงติดอยู่ในหัวใจของเธอเสมอมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง