ชิงหรงตอนแรกที่เต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวฮั่วเทียนหลัน แต่เมื่อเธอได้ยินว่าฮั่วเทียนหลันพูดแบบนี้ สีหน้าของเธอก็หม่นลง
เธอโง่เหรอ?
เธอจะโง่ได้ไง!
ก่อนหน้านี้ตอนประกอบโมเดล ก็เห็นอยู่ว่าเธอทำเร็วแค่ไหน?
แต่หลังนึกอยู่ในใจ เธอก็ขยับโมเดลขึ้นลง
สายตาเพ่งมองอย่างละเอียดในทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนที่ฮั่วเทียนหลันประกอบ ซึ่งพยายาหาข้อผิดพลาดของฮั่วเทียนหลัน
แต่หลังจากดูไปสักพักชิงหรงก็ผิดหวัง
ปัญหาที่ทำให้มันติดขัด คือสิ่งที่ฮัวเทียนหลันพูดจริงๆ เป็นเพียงปัญหาของชิ้นส่วนที่ไม่ตรงกัน
ฮั่วเทียนหลันจัดการ และทำให้ชิ้นส่วนนั้นเข้ากันได้ดี
ตรงหน้าของเธอตอนนี้ คือโมเดลเครื่องบินที่ประกอบโดยสมบูรณ์
ความรู้สึกชื่นชมในตัวฮั่วเทียนหลานยังตงฝังลึกอยู่ในใจ แต่ชิงหรงก็ไม่แสดงความรู้ลึกนั้นออกมา
เพราะฮั่วเทียนหลันเมื่อสักครู่ทำตัวน่ารังเกียจ ตอนนี้ชิงหรงก็เลยไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
หลังจากดูอยู่สองสามรอบ เธอก็ลุกขึ้นมองไปที่ฮัวเทียนหลัน และไปที่ข้างๆโต๊ะเพื่อหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาดื่ม
หลังจากประกอบเป็นเวลานานเธอก็เหนื่อยเล็กน้อย
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่ชิงหรง ก็รู้ว่าเธอต้องโกรธ เพราะเขาบอกว่าเธอโง่
เขายิ้มและเอื้อมมือหยิกแก้มของชิงหรง
ทันทีที่ ชิงหรงก็รู้แผนของฮั่วเทียนหลันเป็นอย่างดี เธอจึงรีบหลบออกไป
“ คุณลุง นี่มันจะทำให้หน้าใหญ่เท่าจานเลยนะ!”
คำพูดของชิงหรงทำให้ฮั่วเทียนหลันผงะ ทำไมเขาไม่เคยเหตุผลนี้มาก่อน!
แต่การที่ชิงหรงพูดแบบนี้ ก็อาจแสดงว่าไม่ต้องการที่จะสนิทสนมกับตนเอง
ฮั่วเทียนหลันเข้าใจความจริงนี้ดี เพราะมันคงต้องมีเงื่อนไขอะไรบางอย่าง
ความรู้สึกจำเป็นจะต้องถูกปลูกฝังอย่างช้าๆ
ยังเหลือเวลาอีกนาน ฮั่วเทียนหลันตอนแรกวางแผนจะพาชิงหรงไปเล่นอย่างอื่น
แต่ชิงหรงขอให้ฮั่วเทียนหลันรอ
จากนั้น ฮั่วเทียนหลันก็ตกตะลึง เธอใช้เวลาห้านาทีในการแกะโมเดลทั้งหมดออกให้เป็นชิ้นส่วนดังเดิม
และใช้เวลาอีก 25 นาทีและการประกอบใหม่จนเสร็จสมบูรณ์
เมื่อชิงหรงปัดมือมองไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยความภูมิใจ เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการให้ฮั่วเทียนหลันชื่นชมเธอ
ฮั่วเทียนหลันอยู่ในอาการสงบนิ่ง และมองไปที่โมเดลด้วยความประหลาดใจ
รู้ไหมว่า ชิงหรงใช้เวลาสี่สิบนาทีในการประกอบโมเดลนี้ ซึ่งใช้เวลาเกือบเท่าเขาเลย
แต่เมื่อกี้แค่แป๊บเดียว ชิงหรงก็ประกอบมันอีกครั้ง และก็สามารถประกอบใหม่ได้อีกครั้ง โดยใช้เวลาเพียง 25 นาที
ไอคิวและความสามารถของเด็กคนนี้สามารถเรียกได้ว่าระดับเทพเลยก็ว่าได้!
บริเวณที่พักผ่อนนี้ มีคู่สามีภรรยาที่พาลูกๆมาเล่นด้วย ก็มองมาด้วยความตกตะลึง
เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้สึกว่า ชิงหรงมีเสน่ห์มากจริงๆ
“ ลุงคิดว่าฉันทำได้ดีไหม”
ชิงหรงกำลังรอคำชมจากฮั่วเทียนหลัน แต่ฮั่วเทียนหลันไม่พูดอะไร
เธอไม่ใช่คนที่ไม่ชอบการรอคอย ดังนั้นเธอจึงเริ่มที่จะขอคำชมจากฮั่วเทียนหลัน
ฮั่วเทียนหลันยิ้ม และยื่นมือออกมาแล้วลูบผมของชิงหรงเบา ๆ และกล่าวชมว่า“ ไม่เลวเลย สุดยอกมากหรงหรง”
"เห็นมั้ยล่ะคะ!"
ชิงหรงตอบโดยไม่ได้รู้สึกถ่อมตัว ทำให้ฮั่วเทียนหลันตกตะลึงเล็กน้อย
นิสัยของเด็กเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ไม่รู้ว่าเหมือนใครกันนะ
ฮั่วเทียนหลันไม่ค่อยได้นึกย้อนถึงความทรงจำในวัยเด็ก
เพราะในความทรงจำเหล่านั้นมีความสุข แต่ก็ยังมีความเศร้าที่เขาไม่อยากจดจำอีกต่อไป
เขาลืมไปแล้วว่าตอนเด็ก ๆ เขาเป็นตรงไปตรงมาแบบนี้
ตอนที่เขายังเป็นเด็กเขาได้เข้าร่วมการแข่งขัน Olympiad Genius และได้รับรางวัลที่หนึ่ง ซึ่งคนในตระกูลฮั่วต่างชื่นชมเขา
ซึ่งครั้งนั้น หลี่รูยาก็ได้จัดงานเลี้ยงให้ฮั่วเทียนหลัน
แม้ว่าหลี่รูยาจะพร่ำพรรณาฮั่วเทียนหลันว่าควรถ่อมตัวให้มากๆ ถ้าได้รับคำชมเชยจากคนอื่นๆ
แต่คืนนั้นฮั่วเทียนหลันไม่ได้ฟังคำของหลี่รูยาเลย
เขาน้อมรับทุกคำพูดที่เกินจริงและสวยงามของทุกคนในงานเลี้ยง
ดังนั้นในตอนจบของงานเลี้ยง คำชมที่หลี่รูยาได้รับ ก็คือเเด็กตัวน้อยคนนี้เป็นเด็กที่ตรงไปตรงมา
แม้จะได้รับคำชม แต่ก็ฟังดูแปลกๆ
แม้ว่าหลี่รูยาจะงงเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมรับมันได้
จนกระทั่งตอนเย็น เธอได้ยินสิ่งที่ฮัวเทียนหลันพูดในงานเลี้ยง
เธอเข้าใจทันทีว่าทำไมคนถึงบอกเธออย่างนั้น
นิสัยนี้สืบทอดมาจากไหนกัน!
"พกเราไปเล่นอย่างอื่นกันเถอะ" ฮั่วเทียนหลันจับมือชิงหรง และไม่ได้พูดเรื่องเดิมๆต่อ
ชิงหรงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างน่ารัก คิดว่าจะไปเล่นต่อดีไหม
แต่คำว่าไม่อยากสองคำนี้ มันดูไม่เต็มใจนัก
ด้วยน้ำเสียงนี้ฮั่วเทียนหลันแทบไม่ต้องคิดเลยเพราะรู้ว่าชิงหรงปากไม่ตรงกับใจ
เขาโน้มตัวเข้าไปในหูของชิงหรงราวกับปีศาจที่ดูร้ายกาจและถามว่า "ไม่เล่นจริงๆเหรอ ถ้าไม่เล่นก็จะไม่ได้เล่นแล้วนะ!"
ฮั่วเทียนหลันยังคงเป็นมืออาชีพในการหลอกเด็ก ๆ
เวลาลั่นลานไม่มีความสุข ฮั่วเทียนหลันมักจะเกลี้ยกล่อมเธอเช่นนี้
หัวใจของชิงหรงสั่นไหว แต่หลังจากได้ยินคำพูดของฮั่วเทียนหลัน เธอก็รู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย
จริงๆแล้วเธอชอบคีบตุ๊กตา แต่ทุกครั้งที่เห็นการคีบตุ๊กตา ก็จะมีเด็กผู้หญิงมากมายม่ยืนอยู่รอบ ๆ
ชิงหรงไม่ชอบให้เธอดูเป็นแบบเด็กผู้หญิงพวกนั้น
หยางหลิงรุ่ยชอบให้ชิงหรงทำในสิ่งที่เด็กผู้หญิงควรทำ แต่ชิงหรงก็ทำตัวเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ดังนั้นแม้ว่าเธอจะอยากเล่น แต่เธอก็ยังจะอดทดไว้
“ คุณลุง จะไม่ ... ”
ชิงหรงพยายามจะพูด
สิ่งนี้กระตุ้นความสนใจของฮั่วเทียนหลันทันทีและพูดในหูของชิงหรง "จะอะไร? ตุ๊กตาน่ารักๆทั้งนั้น มันกำลังโบมือให้เราเอามันกลับบ้านไง?"
คำพูดของฮั่วเทียนหลันช่างเหมือนกับฟางเส้นสุดท้าย
ชิงหรงไม่ได้คิดอะไรแล้ว เธอปล่อยมือของฮั่วเทียนหลัน และรีบเข้าไปในวงล้อมของเด็กๆ
เด็กๆมีความอดทนสูง ทุกคนต่างดูกันอย่างสนุกสนาน
ฮั่วเทียนหลันเฝ้าดูอยู่ไม่ไกล นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองอีกหลายคน ซึ่งก็คงเป็นผู้ปกครองของเด็กๆที่ยืนล้อมอยู่ตรงตู้คีบตุ๊กตา
ชิงหรงมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ผมหยิก เธอเล่นอยู่สองสามนาที แต่ก็จับตุ๊กตาไม่ได้สักตัว
หยอดเหรียญไปสี่ห้าเหรียญ แต่กลับไม่ได้อะไรเลย
เมื่อเด็กสาวผมหยิกออกจากตู้คีบตุ๊กตาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย สาวน้อยอีกคนที่มีผมเปียคู่ก็เข้ามา จากนั้นชิงหรงก็รอสักพัก เด็กหญิงตัวเล็กๆที่มีผมเปียสองข้างใช้ไปแปดเหรียญในเวลาเพียงห้านาที ตาของเธอก็เป็นสีแดง และเธอก้าวออกไปอย่างเศร้า ๆ
ปรากฎว่าเด็กๆที่คีบตุ๊กตาแต่ละคนไม่มีใครจับตุ๊กตาได้เลย
ซึ่งนั่นทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีความสุขไปพร้อมๆกัน และทุกคนก็เริ่มที่จะไม่มีใครอยากเล่นแล้ว
ในความคิดของทุกคนทุกคนรู้สึกว่าตู้คีบนี้เป็นเรื่องโกหก ยังไงก็จับไม่ได้
หลังจากที่ชิงหรงเห็นว่าไม่มีใครเล่นแล้ว เธอก็เอนตัวไปด้านหน้าของตู้คีบตุ๊กตา ขณะที่เธอกำลังจะหยอดเหรียญ เด็กสาวผมหยิกตอนนี้ก็ค่อยๆดึงชิงหรง
"ตู้คีบตุ๊กตานี้ มันคีบไม่ได้หรอก"
เด็กๆเหล่านี้ต่างไม่มีใครจับได้
เด็กหญิงผมหยิกคนนี้ยังช่วยเตือนชิงหรง เพื่อไม่ให้เธอสร้างปัญหาให้กับตัวเอง
แต่ชิงหรงก็ส่ายหัว และพูดขึ้นว่า "ไม่นะ พวกเธอคอยดู ฉันจะจับมันได้แน่นอน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง