โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 478

เย่ตงรู้ว่า ฮั่วเทียนหลันก็เป็นคนของเมืองz นี่จู่ก็มีคนมาสั่งของ เธอสงสัยว่าใช่ฮั่วเทียนหลันจัดคนให้มาช่วยซื้อของของหยางหลิงรุ่ยหรือเปล่า

สำหรับคนอย่างฮั่วเทียนหลันนั้น เงินเป็นเพียงแค่ตัวเลย

“เมืองz?” หยางหลิงรุ่ยพูดชื่อเมืองออกมาจากนั้นก็สงสัยอยู่สักพั

หรือว่าคนที่ชื่อฉีนี้เป็นคนที่เธอรู้จัก?

เพราะเมื่อพูดถึงนามสกุลนี้ หยางหลิงรุ่ยรู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูก

และเธอก็เป็นคนของเมืองz

การรวมกันของสองปัจจัยนี้ทำให้เธอคิดมากขึ้น

“อ่า ช่วงนี้งานของพวกเราค่อนข้างกดดัน ช่วงนี้ยังมีงานอีกสองงานที่รอเปิดตัว พี่รุ่ย ฉันคิดว่าการจองในครั้งนี้มันกระชั้นชิดเกินไป!”

เย่ตงพูดความรู้สึกที่เป็นห่วงออกมาจากใจ อย่างไรก็ตามธุรกิจนี้ก็เป็นงานของ Yang's Entertainment

และห้องออกแบบนั้นยังคงรอหาใครสักคนมาตกแต่งให้พร้อมใช้งาน

“นี่เป็นชุดแต่งงาน ชุดที่หนึ่งชีวิตของผู้หญิงสามารถสวมมันได้เพียงครั้งเดียว และผ้าที่ฉันเป็นคนออกแบบได้เผยแพร่อออกไปที่งานแต่งงานที่ศักดิ์สิทธิ์สวยงาม นี่เป็นหนึ่งในความภูมิใจของฉัน!”

เมื่อได้ยินหยางหลิงรุ่ยพูดออกมาแบบนี้ เย่ตงก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ

แต่เธอมักจะรู้สึกว่าเหตุผลของ หยางหลิงรุ่ยนั้นค่อนข้างไกลตัว

แต่เธอก็ไม่ช่องโหว่ใดๆ

มันเป็นสัญชาตญาณเธอรู้สึกว่าหยางหลิงรุ่ยไม่ได้พูดความจริง

ในความเป็นจริงถ้าหยางหลิงรุ่ยรู้ว่าเย่ตงกำลังคิดอะไรอยู่เธอจะต้องตกใจ

เพราะสิ่งที่เย่ตงคิดในใจนั้นถูกต้อง

ที่หยางหลิงรุ่ยรับงานนนี้นั้นไม่ใช่เพราะเรื่องของงานแต่งงาน

เธอแค่รู้สึกว่าการออกแบบชุดแต่งงานชุดนี้สอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบบางอย่างในใจของเธอ

บอกให้ชัดเจนอีกหน่อย สิ่งที่อยู่ด้านในนั้นเหมือนกับสิ่งที่หยางหลิงรุ่ยคิดเอาไว้เลย

ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนส่งมาก่อน หยางหลิงรุ่ยคงคิดว่าพวกเธอคงลอกการออกแบบนี้ของเธอเป็นแน่

มันเหมือนกันเกินไป!

อย่างไรก็ตามหยางหลิงรุ่ยนึกถึงประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งนั่นคือเธอสูญเสียความทรงจำ ดังนั้นเธอจึงลืมทุกอย่างก่อนหน้านี้

อาจเป็นไปได้ว่านี่เป็นสิ่งที่เธอออกแบบไว้ก่อนความจำเสื่อม?

หยางหลิงรุ่ยคิดในใจและเชื่อแบบนั้นไปแล้ว

เธอคิดว่าเธอจะต้องรู้จักผู้หญิงที่ชื่อฉีคนนี้แน่

ถึงจะเป็นแค่คนรู้จักก็ตาม

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้หยางหลิงรุ่ยก็รอคอยที่จะได้เห็นทั้งสองคนมากขึ้นเรื่อย ๆ

คุณฉีคนนี้มาเร็วกว่าที่หยางหลิงรุ่ยคิด

ตอนบ่ายของวันต่อมาก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น

หลังจากที่เย่ตงรับโทรศัพท์ เธอก็ได้บอกกับหยางหลิงรุ่ยว่าคุณฉีมาแล้ว

หยางหลิงรุ่ยตกใจ ทั้งสองคนนัดกับเธอว่าจะมาในวันพรุ่งนี้ แล้วทำไมถึงมาวันนี้หละ

มีเรื่องด่วนหรืออยากให้ความสำคัญในการมาพบกับเธอ

ในฐานะของเจ้าบ้าน หยางหลิงรุ่ยคิดว่าต้องทำมันอย่างดีที่สุด

เธอบอกให้เย่ตงเตรียมร้านอาหารกลางวันไว้หลังจากนั้นให้โทรไปนัดกับคุณฉี

หลังจากเลิกงานในตอนเย็น หยางหลิงรุ่ยก็ขับรถออกไป

อากาศตอนเย็นค่อนข้างอบอ้าวท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆดำและดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตก

หยางหลิงรุ่ยที่อยู่ท่ามกลางฝูงรถที่หนาแน่นก็มองออกไปดูเมฆดำที่อยู่บนฟ้า

เธอคิดว่าวันนี้เธอทำอะไรผิดพลาดไปบางอย่าง ก่อนจะออกมาเธอควรดูให้ดีเสียก่อนว่าควรจะออกมาด้านนอกหรือไม่

และตอนที่เธอกำลังเดินทางไปสถานที่นัดพบอยู่นั้นฝนก็ตกลงมา ฟ้าก็ร้องเสียงดัง

ฝนที่ไม่ได้ตกมานานเทลงมาบนพื้นถนน ทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นด้านหน้าได้

หมดทางเลือก หยางหลิงรุ่ยทำได้แค่จอดรถและส่งข้อความไปบอกคุณฉีว่าเธออาจจะไปสายเล็กน้อย

เมื่อทางนั้นเห็นข้อความก็รีบตอบกลับมาโดยทันทีว่าให้หยางหลิงรุ่ยขัยรถดีๆ ไม่ต้องรีบ

แต่โชคดีที่ฝนนี้มาเร็วและไปเร็ว

ตกลงมาแค่สิบหน้าทีก็หยุด และเมฆดำก็ลอยหายไป

สายรุ้งที่สวยงามปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าหยางหลิงลุ่ยถ่ายภาพและส่งให้ฮั่วเทียนหลัน

หลังจากที่ถึงสถานที่นัดพบ เธอจอดรถและเข้าไปในร้านอาหาร

ร้านนี้ถูกแนะนำโดยเย่ตง การตกแต่งไม่ได้หรูหราและตั้งอยู่ค่อนข้างไกล

แต่ต้องบอกเลยว่าอาหารทุกจานที่นี่ตกแต่งได้อย่างสวยงามและรสชาติอร่อยจนน้ำตาไหล

ดังนั้นในตอนที่หยางหลิงรุ่ยตัดสินใจที่จะเลือกที่นัดพบ เธอรู้สึกได้ว่าเธอกับคุณฉีมีความคิดเห็นที่ตรงกันจึงมาเลือกที่นี่

เธอเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง เคาะประตู เปิดประตูเข้าไปก็เห็นคนที่เธอนัดมา

มองเห็นคุณฉีเพียงแวบเดียว หยางหลิงรุ่ยถึงกับตกตะลึง

เธอนึกไม่ถึงว่าจะมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้

รูปแบบการวาดด้านบนเป็นการใช้คอมพิวเตอร์และมันไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่จึงทำให้เธอไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

แต่ตอนนี้เธอได้เห็นความจริงแล้วหยางหลิงรุ่ยก็ไม่อยากจะเชื่อ

ฉีหลานหยิบหยิบเอกสารนี้ออกมา เธอสงสัยว่านี่ใช่เอกสารที่เธอทำให้ปีนั้นหรือไม่?

หยางหลิงรุ่ยเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ฉีหลาน ฉีหลานรับรู้ถึงสายตาของเธอ ฉีหลานยิ้มออกมาเบาๆพร้อมพูดออกมาว่า “ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจก็สามารถถามฉันมาได้เลย”

“ได้” หยางหลิงรุ่ยพยักหน้า เธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยเห็นฉีหลานมาก่อน

เมื่อเปรียบเทียบกับตอนประมูล ฉีหลานเปลี่ยนไปมาก

เพื่อแผนการในการแก้แค้นของเธอ เธอได้รับทุนจากฮั่วเทียนหลันเพื่อการกระทำทั้งหมด

และถึงแม้ว่าตอนนี้ครอบครัวของเธอจะฟื้นขึ้นมาและยืนอยู่ต่อหน้าเธอ ก็เกรงว่าพวกเขาจะจำเธอไม่ได้

ตอนนี้หยางหลิงรุ่ยจำฉีหลานไม่ได้เลยสักนิด

เรื่องที่งานประมูลเธอลืมไปหมดแล้ว

หยางหลิงรุ่ยเปิดไปจนหมดและลายเซ็นที่อยู่ด้านล่าง

เธอมองลายเซ็นของศิลปินคนนี้มากนาน แต่เธอก็ยังมองไม่ออก

นี่คงจะเป็นชื่อของผู้เขียน

เธอวางแฟ้มลง จากนั้นก็หยิบชาขึ้นมาดื่ม ยิ้มแล้วพูดว่า “แบบที่คุณฉีให้ฉันมามันช่างสมบูรณ์แบบเสียจริง ฉันไม่พบสื่งใดที่ไม่ดีในแบบฉบับบนี้เลย ถ้าหากคุณฉีอยากจะเปลี่ยนแปลงตรงไหนให้ลอกฉันมาได้เลย”

“ไม่ต้อง ทำตามแบบที่ให้ไปก็พอแล้ว ใกล้จะถึงงานมั่นของฉันแล้ว หวังว่าฉันจะได้ใสชุดนี้ในงานนั้น”

“แน่นอน” หยางหลิงรุ่ยยืนยันออกไป

แผนการออกแบบนี้ได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบถึงขนาดที่ทิศทางและวิธีการเย็บจะถูกกำหนดทุกตะเข็บ ถึงแม้หยางหลิงรุ่ยจะเพิ่งเริ่มหัดเย็บยังทำได้เลย

หยางหลิงรุ่ยเกิดความสงสัย ในใจของเธอมีคำถามอยู่หนึ่งคำถาม ไม่รู้ว่าเธอควรจถามออกไปดีไหม

ถ้าถามออกไปเธอคิดว่ามันจะไม่สุภาพ

แต่ถ้าไม่ถาม เธอก็จะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างติดอยู่ในใจ

“คุณหยาง ฉันสามารถเรียกคุณว่าหลิงรุ่ยได้ไหม?”

ฉีหลานสังเกตหยางหลิงรุ่ยมาโดยตลอด เมื่อเห็นหยางหลิงรุ่ยมีความสงสัยในใจเธอจึงเอ่ยปากออกมา

เธอไม่ชอบให้ใครมาเรียกชื่อเธอสองพยางค์ ให้เรียกเธอว่าคุณหยางจะดีกว่า เพราะการเรียกแบบนั้นเป็นคำเรียกที่เอาไว้ใช้กับเพื่อนหรือคนสนิท แต่ถ้าตอบไปแบบนั้นทำให้ฉีหลานรู้สึกผิดหวัง

“อ่า ได้สิ งั้นฉันจะเรียนคุณว่าน้องหลานละกันนะ” หยางหลิงรุ่ยตื่นขึ้นมาจากความคิดและตอบออกไป

มุมปากของฉีหลานเพิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เธอยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติแต่นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกตกตะลึง

เธอสวยงามมากจริงๆ สวยดังพระจันทร์ที่หลบให้กับมวลดอกไม้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง