โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 517

เหตุการณ์ในปีนั้นฉายชัดในดวงตาอีกครั้ง

ใกล้จะสอบเอ็นทรานซ์มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ในไม่ช้าจะมีการแยกห้องศิลป์และห้องวิทย์ออก

ในฐานะนักเรียนอันดับต้นๆ พระเอกต้องเรียนวิทยาศาสตร์ต่ออย่างแน่นอน

แต่ในฐานะตัวถ่วงมืออาชีพ เหลียวซิรงเลือกห้องศิลป์ซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุด

แต่หากเลือกห้องศิลป์ก็หมายความว่าเธอจะต้องแยกจากเขา

สิ่งนี้ทำให้เหลียวซิรงเสียดายอย่างยิ่ง แต่ความคิดเห็นทั้งหมดของครอบครัวก็ให้เธอเลือกเรียนห้องศิลป์

เธอเข้าสู่โหมดสับสนไปแล้ว ในคาบพลศึกษาครั้งหนึ่งเธอวิ่งอยู่กับเพื่อนสาวผู้สบายๆของเธอ

เดิมทีเหลียวซิรงก็ไม่มียีนส์เล่นกีฬาอยู่แล้ว เมื่อวิ่งไปเรื่อยๆก็รั้งท้ายทีมไปโดยธรรมชาติ

คราวนี้เพื่อนสนิทของเธอวิ่งมาหาเธอและพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับการแยกห้อง

เหลียวซิรงอารมณ์ไม่ดีและพูดอย่างหมดหนทาง "ฉันจะทำยังไงดี? เขาเป็นดวงดาวบนท้องฟ้าไม่ว่าฉันจะไล่ตามยังไงฉันก็ไม่สามารถตามเขาทันได้"

เพื่อนสนิทของเธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ทำให้เหลียวซิรงซึ่งเดิมที่รอฟังคำปลอบใจสองสามคำเอื้อมมือไปตีเธอสองครั้งทันที

เพื่อนของเธอจึงพูดว่า "ทำไมถึงตามไม่ทันล่ะ? ทำไมเธอถึงไม่เป็นดาวบนท้องฟ้าแล้วปล่อยให้เขาไล่ตามเธอไปตลอด? ทำไมเธอต้องเป็นฝ่ายไล่ตามเขาล่ะ?"

คำพูดง่ายๆเตือนสติเหลียวซิรง

เธออึ้งไปชั่วขณะจากนั้นก็เพิ่มความเร็วขึ้นจากคนสุดท้ายในทีมกลายเป็นคนแรก

หลังจากวิ่งห้ารอบก็นอนลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้า

ผ่านช่องว่างของใบไม้ เธอมองไปที่ดวงอาทิตย์อันร้องแรงบนท้องฟ้า

ใช่แล้ว! ตั้งแต่เรียนม.ปลายเธอก็เป็นตัวถ่วงมาโดยตลอด เหมือนถูกกำหนดมาให้เป็นแค่เครื่องประดับให้เขาเด่นขึ้น

แต่หากเธอต้องการที่จะอยู่กับเขาต่อไปเธอจะต้องพยายามอย่างหนัก

เธอจะทำให้ดีที่สุด เรียนรู้จนถึงที่สุดและก้าวไปพร้อมกับเขา

นับตั้งแต่นั้นมาหลังจากที่ห้องกลายเป็นห้องวิทย์ เหลียวซิรงก็ไม่ปรากฏตัวในเช้าวันนั้น

พระเอกมองไปที่ที่นั่งว่างเปล่าด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ

เมื่อครูกำลังจะเริ่มชั้นเรียน เหลียวซิรงก็เดินเข้ามาพร้อมกระเป๋านักเรียนที่ด้านหลังของเธอ

การมาของเธอดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงการเลือกของเธอ

เธอหันหน้าไปสบสายตาประหลาดใจของพระเอก เหลียวซิรงนั่งลงบนที่นั่งของเธอ

เธอยื่นมือไปทางเขาและพูดว่า "พวกเราจะนั่งข้างกันไปตลอดชีวิต โอเคไหม?"

ดวงตาที่จริงใจของเหลียวซิรงทำให้ใจของพระเอกรู้สึกซับซ้อน

เขายื่นมือออกไปจับมือของเหลียวซิรงและไม่ยอมปล่อยอยู่นาน

ทั้งสองได้ตกลงกันว่าจะสอบเข้ามหาลัยที่เมืองหลวงด้วยกันเพื่อเติมเต็มความปรารถนาตลอดชีวิตนี้

ดูจากผลการเรียนของเธอแล้วความปรารถนานี้คงไม่สามารถเป็นจริงได้

ดังนั้นความรับผิดชอบอย่างหนักในการติวให้เธอจึงตกอยู่กับพระเอก

ทั้งสองคนเริ่มไล่ตามความฝัน

ในเวลานี้หน้าจอเปลี่ยนไปและกลายเป็นฉากการรวมตัวกันของเพื่อนร่วมชั้น

ผู้ที่เข้าร่วมงานคืนสู่เหย้าล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่มีความสัมพันธ์อันดี

บางคนได้ใช้ชีวิตในสิ่งที่ต้องการ แต่มีบางคนกลับมาขายงานของตนในงานนี้และนั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเห็น

สิ่งนี้ทำให้เหลียวซิรงซึ่งกลับมาจากต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมเป็นครั้งแรกรู้สึกซับซ้อน

หลังจากพูดเปิดงานพอเป็นพิธีแล้วอาหารค่ำก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

แต่พระเอกยังไม่มา

เหลียวซิรงรู้สึกหดหู่ใจ แต่คราวนี้พระเอกที่ขี่จักรยานสาธารณะก็เปิดประตูเข้ามา

“รวมตัวครั้งนี้ทำไมไม่ชวนฉันล่ะ?”

เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นทุกคนก็สละตำแหน่งของตนและให้นักแสดงนำชายไปนั่งข้างๆเหลียวซิรง

หลังดื่มลงโทษแล้วก็นั่งลงมองไปที่เหลียวซิรงด้วยดวงตาที่ซับซ้อนและพูดเบาๆ "หลายปีมานี้สบายดีมั้ย?"

สบายดีมั้ย?

เหลียวซิรงที่อยู่ในเลนส์มองไปที่พระเอกที่ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนไปมากนักเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ด้วยความคิดมากมาย

เด็กชายที่เธอชอบหายตัวไปนานเจ็ดปี

เขายังมีหน้ามาถามเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

ก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทุกคนใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาสุดท้ายนี้เพื่อรวมตัวกันและสนุกกับเพื่อนร่วมชั้น

บนภูเขาแห่งหนึ่งพวกเขาบอกว่าจะเป็นเพื่อนกันไปชั่วชีวิตและไม่มีวันแยกจากกัน

ความฝันที่ไร้เดียงสาและยังเป็นความฝันที่ยากที่จะทำให้เป็นจริง

บนภูเขานี้มีต้นไม้เยอะมาก

ต่างก็เป็นคนที่อยากอยู่ด้วยกันตลอดไปปลูกไว้และบอกว่าถ้าขอพรก็จะไม่มีวันต้องแยกจากกัน

เหลียวซิรงมีความคิดบางอย่างในใจของเธอ หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายไปแล้ว เธอก็ลากพระเอกไปซื้อต้นอ่อนและกลับไปปลูกมัน

ตอนนี้ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ในใจหยางหลิงรุ่ยถึงขั้นเกลียดชังพระเอกไปแล้ว

พระเอกนี่ต้องเป็นคนหลายใจแน่

แต่ในฉากภาพได้ตัดเข้าเวลาปัจจุบันอีกครั้ง

พระเอกไปส่งนางเอกที่สตูดิโอของเธอและให้เธอนอนบนโซฟา เมื่อเขากำลังจะจากไปกลับถูกเหลียวซิรงจับมือเขาเอาไว้

เธอลืมตาขึ้นและดวงตาของเธอเป็นสีแดงราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังโกรธ เธอมองตรงไปที่เขาและค่อยๆพูดว่า "ทำไม ทำไม ทำไมตอนนั้นนายถึงไป?"

คำพูดของเหลียวซิรงราวกับเป็นค้อนหนักที่ฟาดเข้าที่หัวใจของพระเอกอย่างโหดร้าย

สีหน้าของเขาปรากฏความซับซ้อนขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก มีความเศร้า เสียใจ โทษตัวเองและรู้สึกผิด ในอารมณ์ทั้งหมดของเขาต่างพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกที่เรียกว่าชอบไว้

แต่เห็นได้ชัดว่าการแสดงออกของเขาบอกเรื่องในหัวใจของเขาไปหมดแล้ว

แต่ในเวลานี้เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความในใจ

เขาดึงมือของเขากลับโดยตรง ตอนดึงกลับเหลียวซิรงก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงดึงมันอย่างแรง มือของเขาก็ถูกดึงกลับและเหลียวซิรงก็ถูกเขาดึงขึ้นมาด้วยเช่นกัน

เมื่อเห็นสายตาจ้องมองอย่างต่อเนื่องของเธอ เขาก็รู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่พูดอะไรสักอย่าง เกรงว่าวันนี้เขาคงจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ใ

เขาหายใจเข้าลึกและมองไปที่หญิงสาวที่ในใจเขาคิดถึงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

"ขอโทษนะ ม่อเฉี่ยน ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว มันเป็นเพียงเกมที่น่าเบื่อในวัยเด็กของเรา ตอนนี้เราทุกคนต่างโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและมันไม่มีเกมอะไรอีกแล้วในโลกของผู้ใหญ่!"

พระเอกพูดด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว คำพูดนั้นไม่เหลือร่องรอยของอารมณ์ความรักที่เป็นไปได้เลย

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของเหลียวซิรงกลายเป็นหมดหวัง

เธอขยี้ผมของเธอแรงๆราวกับผีผู้หญิงที่คลานออกมาจากนรกและตะโกนใส่เขา "เป็นไปไม่ได้! ซือหยวน นายบอกฉันสิว่านายยังชอบฉันอยู่ ใช่ไหม?"

ในขณะที่เธอตะโกนอย่างโมโหเธอก็เริ่มควบคุมตัวเองได้แล้ว ใจของเธอสั่งบังคับให้กอดและพยายามจะจูบเขา

พระเอกพยายามดิ้นรน ในใจเขาไม่ปฏิเสธที่จะสนิทสนมกับเหลียวซิรง

แต่ว่าตอนนี้คนทั้งสองเป็นคนในโลกสองโลกที่ต่างกัน โดยธรรมชาติแล้วไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีจุดตัดที่จะพบกันอีก

ดังนั้นแม้ว่าโลกจะล่มสลายไป ไม่ว่าความรักจะลึกซึ้งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถให้เหลียวซิรงรู้ว่าเขายังชอบเธออยู่

ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เธอตกหลุมรักเขาและยังคงคิดถึงเขาอยู่ในใจของเธอ

ในตอนนี้เขากำลังดิ้นราวกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ

แต่ว่าเขาประเมินความมุ่งมั่นของเหลียวซิรงต่ำไปและในทำนองเดียวกันเขาก็ประเมินความมุ่งมั่นของเขาที่จะต่อต้านเธอสูงไปเช่นกัน

ในที่สุดจูบของเหลียวซิรงก็ถูกประทับลงบนริมฝีปากของเขา

พยายามที่จะลิ้มรสและเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่เธอคิดถึงมานานหลายปี ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง