"เลขาแบบไหนคะถึงควงออกงานเลี้ยงได้ เลขาที่ทำงานบนเตียงด้วยน่ะเหรอ"
"อันนั้นก็ต้องถามไอ้รามมันดูนะว่าจินนี่ทำงานบนเตียงด้วยรึเปล่า เพราะถึงมันจะเย็นชาแบบนี้แต่มันก็เป็นเสือผู้หญิงดีๆ เนี่ยแหละ" นับดาวแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน พลางตวัดสายตามองคู่หมั้นหนุ่มด้วยความไม่พอใจ เรื่องนั้นเธอพอจะมองออกอยู่บ้างว่ารามิลเป็นเสือผู้หญิง เพราะครั้งแรกที่เจอกันเขายอมหลับนอนกับเธอทั้งที่ต่างคนต่างไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของอีกฝ่าย
"จะไม่อธิบายอะไรหน่อยเหรอคะ"
"เธอบอกว่าตัวเองเป็นแค่เพื่อนฉันไม่ใช่เหรอ เป็นแค่เพื่อนไม่มีสิทธิ์ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว"
"แต่นับเป็นว่าที่คู่หมั้นของพี่รามนะ"
"แล้วยังไง"
"นับมีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่เหรอคะว่าที่ผ่านมาพี่รามเคยนอนกับใครมาบ้าง ถ้าแม้แต่พนักงานในบริษัทยังนอนกับว่าที่คู่หมั้นของนับได้ นับคงต้องพิจารณาใหม่เรื่องการหมั้นของเรา"
"ตอนนี้เธอเป็นแค่ว่าที่คู่หมั้น ยังไม่ได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการ ฉันจะเคยนอนกับผู้หญิงคนไหนมาบ้างคงไม่ต้องรายงานเธอหรอกมั้ง" รามิลตอบกลับไปอย่างเย็นชา พร้อมกับหยิบแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของว่าที่คู่หมั้นขึ้นมากระดกเข้าปากอย่างถือวิสาสะ
"เรื่องในอดีตนับเอามาเป็นข้ออ้างในการถอนหมั้นไม่ได้ แต่ถ้าตอนนี้พี่รามไปมั่วกับผู้หญิงคนอื่นอีกนับไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ แน่ ต่อให้ครอบครัวของเราจะสนิทกันมากแค่ไหนแต่ถ้าถึงตอนนั้นนับก็ไม่สนใจหรอก" นับดาวเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ เธอผลุนผลันลุกขึ้นเดินกระทืบเท้าปึงปังออกมาจากตรงนั้นเพื่อสงบสติอารมณ์
"เด็กคนนั้นดูเหมาะสมกับมึงดี" เจมส์เอ่ยแซว
"พ่อกับแม่กูก็คิดแบบนั้น"
"แล้วมึงล่ะคิดยังไงถึงยอมหมั้นกับเด็กคนนั้น คนอย่างมึงไม่น่าจะยอมทิ้งชีวิตอิสระได้นะ"
"อยากลองจริงจังดู"
"ชอบเด็กคนนั้นเหรอ"
"ยังไม่ถึงขั้นนั้น แค่อยากลองดู"
"คำว่าลองดูของมึงมันน่ากลัวนะ ลองชอบเด็กคนนั้นด้วยการหมั้นกันน่ะเหรอ แล้วถ้าเกิดชอบขึ้นมาจริงๆ มึงจะไม่ลากไปจดทะเบียนสมรสด้วยเลยรึไง"
"เรื่องนั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับมึง"
"เด็กคนนั้นน่าจะเป็นพวกหึงโหด กูจะรอดูเรื่องสนุกของมึงก็แล้วกัน" เจมส์ยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก เขาเพิ่งเคยเห็นรามิลอยากจะจริงจังกับความรักครั้งแรก แต่ด้วยนิสัยเย็นชาของรามิลและนิสัยเจ้าอารมณ์ของนับดาวคงจะทำให้ความรักครั้งนี้ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร
"พี่เจมส์คะ นับขอเบอร์โทรไว้หน่อยได้ไหมคะ" นับดาวที่เริ่มมีอาการเมามายหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าใบเล็กออกมายื่นให้ชายหนุ่มที่กำลังเดินออกมาจากงานเลี้ยงพร้อมกัน โดยมีท่อนแขนแกร่งของรามิลกอดประคองเอวคอดไว้หลวมๆ
"ขอเบอร์ฉันต่อหน้าว่าที่คู่หมั้นของเธอจะดีเหรอ"
"พี่เจมส์เป็นเพื่อนพี่รามไม่ใช่เหรอคะ นับขอเบอร์เพื่อนของว่าที่คู่หมั้นตัวเองไม่ได้เหรอ"
"จะสืบเรื่องไอ้รามจากฉันเหรอ" เจมส์ถามกลับอย่างรู้ทัน พร้อมทั้งรับโทรศัพท์มือถือมากรอกเบอร์โทรของตัวเองให้เธอ คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ยเมื่อโดนจับได้ เธอรีบแย่งมือถือกลับมา แล้วเดินตรงไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าโรงแรม
"งานเลี้ยงไม่สนุกเหรอครับ" ชารีฟถาม
"ไม่สนุกแถมน่าเบื่อด้วยค่ะ"
"..." คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ยเมื่ออีกฝ่ายออกคำสั่งราวกับเป็นเจ้าของห้องเสียเอง เธอหยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าออกมาเปิดประตูด้วยความหงุดหงิด และเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองโดยมีรามิลเดินตามหลังเข้ามา
"สำรวจห้องของนับพอรึยังคะ" ร่างบางกอดอกถามเสียงแข็งเมื่อเห็นรามิลมองไปรอบๆ ห้องราวกับกำลังสำรวจห้องพักของเธอ เขาหันกลับมาสบตากันเพียงนิด ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกมาพาดไว้บนโซฟา แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างถือวิสาสะ
"ช่วยมีมารยาทหน่อยได้ไหมคะ นั่นมันห้องนอนของนับนะ" นับดาวแหวใส่เสียงเขียว พร้อมกับเดินกระทืบเท้าตามเข้าไป หัวคิ้วมนขมวดเข้าหากันยุ่งด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นรามิลยืนสูบบุหรี่อยู่ในห้องนอนของตัวเอง "นับไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แล้วนี่มันก็ห้องนอนของนับนะ ถึงเรากำลังจะหมั้นกันแต่ช่วยมีมารยาทกับนับหน่อยค่ะ"
"..." มาเฟียหนุ่มอัดควันบุหรี่ขาวคลุ้งเข้าปาก ก่อนจะพ่นมันออกมาอีกครั้งต่อหน้าเจ้าของห้องนอนที่กำลังโวยวายยกใหญ่ เธอเดินเข้ามาแย่งบุหรี่ไปจากมือของเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด
"สงสัยจะสะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นจริงๆ ใช่ไหมคะ กลับไปได้แล้ว นับจะอาบน้ำ"
"ฉันจะนอนที่นี่"
"ที่นี่มีแค่ห้องเดียว ไม่พร้อมรับแขกค่ะ"
"ฉันเป็นแขกเหรอ? นึกว่าเป็นมากกว่านั้น"
"เลิกแกล้งนับแล้วกลับไปได้แล้วค่ะ"
"อีกสามเดือนจะหมั้นกันแล้ว เราควรทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้หน่อยนะ"
"..."
"แต่ฉันมั่นใจว่าเรื่องบนเตียงเราเข้ากันได้ เพราะเข้ามาตั้งสี่ครั้งแล้ว" คำพูดกำกวมของชายหนุ่มทำเอาพวงแก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เธอเดินเบี่ยงตัวออกมาโยนบุหรี่ใส่ถังขยะ แล้วเริ่มถอดชุดราตรีของตัวเอง อวดเรือนร่างเปลือยเปล่าต่อหน้ารามิล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก