“คะพี่นะ...” คำถามค้างเติ่ง หล่อนมองหน้าคนที่เคาะประตูตาค้าง ไม่คิดว่าจะเป็นราซิเอลโล่ เมื่อตั้งสติได้หล่อนรีบปิดประตู แต่ช้ากว่ามือใหญ่ที่ดันประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง
“ลูกใคร” เป็นคำถามแรกของชายตัวโต เขาก้มมองเด็กชายที่กำลังนอนหลับบนเบาะ วินาทีแรกที่เห็นเด็กชายในระยะใกล้ ราซิเองโล่รู้สึกแปลกๆ ในอก พินิจรูปหน้าและผิวพรรณของเด็กชาย มองปราดเดียวก็รู้ว่า เด็กคนนี้มีเชื้อสายชาวต่างชาติ ที่เขามั่นใจคือ เส้นผมของเด็กชายที่ไม่ใช่สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม แต่เป็นสีน้ำตาลประกายทอง ซึ่งเส้นผมของเด็กชาย เหมือนเขาไม่มีผิด
“ลูกฉันน่ะสิ” เพชรหอมตอบเสียงสั่น “ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันโทรแจ้งตำรวจจริงด้วย”
“ลูกของฉันใช่ไหม” ราซิเอลโล่ไม่กลัวคำขู่ เขาถามกลับด้วยความอยากรู้เต็มที่ “ใช่ไหมเพ้นท์”
น้ำเสียงประโยคคำถามค่อนข้างสั่น และเจ้าของเสียงปรารถนาอยากได้ยินคำตอบเต็มที่
“ไม่ใช่ น้องฮาร์ทเป็นลูกของฉันคนเดียว” เพชรหอมตอบเสียงแข็ง
“เธอพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันแน่ใจว่า เด็กคนนี้ต้องเป็นลูกฉันชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์”
“คุณแน่ใจเหรอว่าเป็นลูกคุณ เอาอะไรมามั่นใจขนาดนี้มิทราบ ฉันจำคำพูดของคุณได้ดี คุณพูดเองว่าแน่ใจเหรอว่าเป็นลูกคุณ ในเมื่อตอนนั้นคุณแน่ใจว่าสเปิร์มของคุณไม่มีวันอยู่ในรังไข่ของฉัน แล้วตอนนี้อยากรู้หาพระแสงอะไร” เพชรหอมตอกกลับจนเขานิ่งเงียบกับความปากพล่อยของตัวเอง “คุณกลับไปเถอะ ที่นี่ไม่มีใครที่คุณต้องรับผิดชอบ”
คำพูดราซิเอลโล่ในวันนั้นกำลังย้อนทิ่มแทงใจเขาตอนนี้ เพชรหอมยอกย้อนเขาจนจุกแน่นอก ในเมื่อเขามาและเห็นว่า ทายาทตนนอนหลับอยู่ มีหรือมาเฟียหนุ่มจะยอมแพ้ เดินหมุนตัวออกไปจากห้องนี้ง่ายๆ
“ไม่กลับ” เขาพูดและปิดปะตูห้อง “จะนอนนี่”
ชายตัวโตพูดจบก็ทรุดกายนั่งข้างเบาะที่ยศนัยนอนอยู่ ล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ส่งข้อความบอกนานโอว่า ให้กลับไปได้เลย ตนจะนอนข้างที่ห้องของเพชรหอม จัดการส่งข้อความเสร็จก็ล้มตัวลงนอนหน้าตาเฉย
“คุณเอลโล่ คุณจะนอนที่นี่ไม่ได้นะ” เพชรหอมเหวใส่ “ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้”
“ทำไมจะนอนไมได้ ก็นอนอยู่นี่ไง” เขากวนกลับ พลิกตะแคงมองดูใบหน้ายศนัยที่มองแล้วรู้สึกว่า เขากำลังมองเห็นตัวเอง
“ไม่ได้นะ คุณจะนอนที่นี่ไม่ได้ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ”
“ก็บอกว่าจะนอนนี่ไงล่ะ” เขาทำมึนใส่ “พูดไม่รู้เรื่อง”
“คุณต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง นี่ห้องของฉัน ฉันมีสิทธิ์ให้ใครนอนหรือไม่นอนก็ได้ และฉันไม่ให้คุณนอน ลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องฉัน” เพชรหอมไม่ยอม หล่อนชี้ไปที่ประตู
“ไม่ลุก ง่วงจะนอน” ราซิเอลโล่ทำมึนต่อไป
“บอกให้ลุกไงล่ะ ลุกขึ้นนะ”
เพชรหอมดึงแขนเขาเพื่อให้ร่างหนาลุกขึ้น ทว่าแรงเท่ามดไม่อาจทำให้ร่างใหญ่เคลื่อนไหวไปไหนเลย ซ้ำร้ายเขาเกิดความรำคาญจับข้อมือหล่อนไว้ กระชากเข้าหาตัว ความที่หล่อนไม่ทันตั้งตัวและแรงก็ไม่มีต่อต้าน ส่งผลให้ร่างสาวล้มลงทับตัวเขา ราซิเอลโล่ก็ไวเหลือร้าย รีบกอดร่างอิ่มทันที
“แหมอยากกอดฉันก็ไม่บอก”
“ปล่อยนะ ปล่อยสิ ใครอยากกอดคุณ ฉันขยะแขยงจะแย่” ปากพูดมือก็ผลักอกแกร่ง แต่แรงหล่อนน้อย ไม่อาจนำตัวเองออกจากลำแขนแข็งแรงได้
“คุณเห็นฉันเป็นอะไร อยากจะทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ เคยนึกถึงจิตใจฉันบ้างไหมว่าจะรู้สึกยังไง หรือว่าคุณเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่นึกถึงหัวใจของฉัน” เพชรหอมเอ่ยเสียงสั่น น้ำใสๆ คลอขอบตา “คุณเห็นฉันเป็นเพียงดอกไม้บนเตียง ต้องการก็โทรหา สมใจหมายก็เดินออกไปจากห้องง่ายๆ พอฉันท้องคุณก็หาว่าฉันมั่ว แล้วก็โยนเงินให้ฉันเพื่อจบปัญหา คุณเคยนึกถึงจิตใจฉันบ้างไหม”
ราซิเอลโล่มองเห็นความเสียใจในนัยน์ตาของเพชรหอม จะว่าไปหล่อนต่างกับคู่นอนคนอื่นของเขา ที่หล่อนยอมพลีกายให้ตนเชยชมไม่ใช่เพราะเงิน แต่เป็นเพราะหล่อนรักเขา เป็นเขาเองที่ไม่เห็นคุณค่าของความรักที่เพชรหอมมอบให้ มองหล่อนเป็นเพียงของเล่นที่คิดว่า หากวันหนึ่งเกิดเบื่อก็จะโยนทิ้ง ทว่ามาเกิดเรื่องวันนั้น เขาจึงโยนเงินให้เพชรหอมปึกหนึ่ง และสะบั้นความสัมพันธ์ทันที ในวันต่อมาเขาพาหญิงสาวคนใหม่มาหาความสุขในห้องก็พบว่า เงินปึกนั้นวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เพชรหอมไม่ได้นำเงินจำนวนนั้นไปจากชีวิตเขาด้วย
ชายหนุ่มอิตาเลี่ยนขยับตัวห่างเพชรหอมที่รีบลุกขึ้นนั่ง ปาดน้ำตาที่กำลังหยดไหล เขามองเพชรหอมที่ระบายความเสียใจเป็นน้ำตา ก่อนหันไปมองเด็กชายที่แน่ใจว่าเป็นลูกของตน แล้วหันมามองอดีตสาวคู่นอน
“ฉันขอโทษ” ประโยคนี้ราซิเอลโล่ไม่เอ่ยบ่อยนัก เขาจะพูดก็ต่อเมื่อรู้สึกผิดจริงๆ และตอนนี้ราซิเอลโล่ก็รู้สึกเช่นนั้น รู้สึกผิดมากด้วย
เพชรหอมแม้ว่าจะตกอยู่ในอาการตกใจและเสียใจ หล่อนถึงกับอึ้งกับประโยคขอโทษจากปากชายหนุ่มเอาแต่ใจ หล่อนมองตามร่างหนาที่เดินออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกสับสน เพชรหอมลุกขึ้นยืนก้าวเดินไปยังประตูห้อง จัดการล็อคลูกบิด และใส่กลอนทั้งบนและล่าง ราวกับกลัวว่าเขาจะพังประตูเข้ามา
หล่อนเอาหลังพิงประตู รูดตัวลงนั่งชันเข่า ซบหน้ากับเข่าทั้งสองข้าง ปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจออกมาอย่างสุดกลั้น น้ำตาที่นานมากแล้วที่มันไม่หยดไหล หล่อนจำได้ว่า ครั้งสุดท้ายที่ร้องไห้เพราะราซิเอลโล่ คือวันที่ตนได้เห็นหน้าทศนัย ในวันนั้นหล่อนย้ำกับตัวเองว่า จะไม่ร้องไห้และเสียใจเพราะเขาอีก เนื่องจากหล่อนมีคนที่ตัวเองต้องรักและต้องดูแลมากกว่าชีวิตของตัวเอง
ทว่าเพชรหอมกลับทำตามความตั้งใจไม่ได้ หล่อนกำลังร้องไห้ กำลังเผยความอ่อนแอออกมา ความอ่อนแอที่หล่อนเก็บกักมาตลอดหลายปี
ไม่ได้...หล่อนจะอ่อนแอไม่ได้
หล่อนเสียใจมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องเข้มแข็ง เพื่อตัวเองและลูก หากเพชรหอมอ่อนแอ บางทีครั้งนี้หล่อนอาจร้องไห้ไปตลอดชีวิต เพราะเขาจะแย่งชิงลูกของหล่อนไป
ไม่มีทาง...เพชรหอมไม่มีวันให้เขาพรากยศนัยไปจากตนแน่นอน ความเป็นแม่ที่มีอยู่ในตัวเมื่อนึกถึงลูก หล่อนเกิดพลังขึ้นมาทันใด เพชรหอมลุกขึ้นยืน หยุดร้องไห้และปาดน้ำตาที่หลงเหลือทิ้งไป เพชรหอมลุกขึ้นสู้เพื่อลูก สิ่งเดียวที่ทำให้ยืนหยัดจนถึงทุกวันนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส