โซ่รักใยพิศวาส นิยาย บท 27

23.05 น.

หลังฟ้าฝนที่โหมตกลงมาอย่างหนักผ่านพ้นไป อากาศโดยรอบเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ มีเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องดังประสาน ชาวบ้านต่างพากันเข้านอนหลับพักผ่อน เช่นเดียวกับคนงานในไร่ที่เข้านอนกันหมด ทว่ามีกลุ่มคนสี่คนพร้อมอาวุธปืนในมือ แอบย่องเข้ามาในเขตไร่เมฆาทางด้านหลัง ตรงจุดที่เชิดบอก พวกเขาเดินอย่างระแวดระวังโดยมีแสงไฟจากไฟฉายคอยส่งนำทาง แม้ว่าเชิดจะบอกว่า ตอนนี้ทุกคนนอนกันหมดแล้ว ทว่าก็ประมาทไม่ได้

“โหพี่ รถโคตรสวยเลย” ม้วนพูดเมื่อเห็นรถยนต์หรูราคาสี่สิบล้านที่ไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุมรถเหมือนอีกสามคัน

“เบาๆ หน่อยโว้ย เดี๋ยวมีคนได้ยิน” เสือหาญเตือนลูกน้อง

“เรารีบปล้นกันเถอะพี่ ฉันหนาวๆ ยังไงไม่รู้” ดาวพูดขึ้น

“เออๆ รีบเข้าไปในบ้าน” เสือหาญเห็นด้วย รีบปล้นจะได้รีบไปจากที่นี่ เสือหาญกับพวกเดินไปยังบ้านพักของเหนือเมฆที่อยู่ติดกับโรงรถ ทั้งสี่ไม่ได้งัดประตูหน้าบ้านเพื่อเข้าไปในบ้าน แต่ใช้ประตูหลังบ้านที่เชิดแอบเปิดประตูแง้มไว้ให้

ขณะเดียวกัน

ช้องนางลุกตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกกระหายน้ำ คอแห้งราวกับว่ากำลังเดินอยู่กลางทะเลทรายอันร้อนระอุ หล่อนไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ปกติหิวน้ำก็จะอดทนไว้ลุกขึ้นมาดื่มตอนเช้าตามประสาคนขี้เกียจ ทว่าคืนนี้หล่อนหิวน้ำหนักมาก จนต้องลุกขึ้นเดินลงมาชั้นล่าง ไปยังห้องครัวเปิดตู้เย็นและหยิบน้ำเย็นๆ มาดับกระหาย

เสียงดังกุกกักที่ดังอยู่ชั้นล่างไม่ได้ทำให้คนที่เพิ่งตื่นนอนอยู่ในอาการยังตื่นไม่เต็มที่รู้สึกเอะใจ ช้องนางเดินลงมาชั้นล่างที่มีแสงสว่างจากดวงไฟสีส้มตรงฝาผนังที่เจ้าของบ้านเปิดไว้ทั้งคืน ทำให้หล่อนไม่ต้องคลำหาสวิสซ์ไฟ

ทว่าเท้าเล็กชะงักเมื่อเดินลงมาถึงที่พักบันไดที่อีกไม่กี่ขั้นก็จะถึงชั้นล่าง ดวงตาช้องนางขยายกว้าง ความตกใจระบายเต็มดวงหน้า เมื่อเห็นชายสามคนสวมหมวกไหมพรมอยู่ในห้องรับแขก พวกเขาถือปืนอยู่ในมือทุกคน หนึ่งในสามหันมามองหล่อนพอดี

“กรี๊ด!” ช้องนางกรีดร้องลั่นบ้าน เสียงของหล่อนดังไปถึงข้างบน คนหูเบาที่นอนอยู่ในห้องดีดตัวลุกขึ้นนั่งหันมาตรงลิ้นชักหัวเตียง หยิบปืนที่วางอยู่ออกมาแล้วรีบลุกเดินออกไปจากห้อง

“เฮ้ยจับมันไว้”

เสือหาญสั่งม้วนที่อยู่ใกล้กับบันได ม้วนรีบทำตามก้าวเท้าวิ่งไปตามบันได ช้องนางที่อยู่ในอารามตกใจ ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก เห็นม้วนก้าวยาวๆ มาหาตนแต่ขาก็ก้าววิ่งหนีไม่ได้ ได้แต่กรีดร้อง

“ปิดปากมันด้วยสิวะ แหกปากซะดัง” เสือหาญสั่งม้วนที่ใช้อีกมือปิดปาก แขนก็ยกร่างเล็กที่สะบัดเท้าไปในอากาศขัดขืนเต็มที่

“เฮ้ย! พวกมึงเป็นใคร ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ”

เสียงเหนือเมฆดังขึ้น เขามองกลุ่มคนที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าโจร...โจรที่กล้าล้วงคองูเห่า มันไม่ตายดีแน่ ยิ่งคิดทำร้ายช้องนาง โทษมีเพียงอย่างเดียวคือ ตาย

“อือ...อือ” ช้องนางมองหน้าเหนือเมฆที่ยกปืนเล็งมายังกลุ่มโจร โดยมีเดชดวงถือปืนวิ่งตามลงมา

“มึงอย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาล่ะก็ กูยิงอีนี่ไส้แตกแน่” เสือหาญขู่

“ถ้ามึงทำร้ายกุ้ง กูเอามึงตายแน่”

เหนือเมฆขู่กลับ ก้าวเดินลงมาจากบันไดช้าๆ จ้องมองเสือหาญกับพูดไม่วางตา ไม่มีความกลัวในแววตา ทว่าในใจเขากลัว เหนือเมฆกลัวช้องนางเป็นอันตราย

“เอาไงดีพี่” ม้วนหันมาถามเสือหาญ

“หนีก่อนสิวะ” เป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดเลย ในเมื่อเจ้าของบ้านรู้แล้วว่ามีผู้บุกรุก เขากับพวกคงไม่โง่อยู่ปล้นต่อ ทางที่ดีหนีเอาตัวรอดดีที่สุด “ไปเร็ว”

“ได้” เหนือเมฆตอบโดไม่คิด

“พี่เหนือ” ช้องนางเรียกชื่อเหนือเมฆเสียงเบา มองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ

“เดช ไปเอากุญแจรถมา” เหนือเมฆหันไปสั่งเดชดวงที่เดินเข้าไปเอากุญแจรถทั้งสี่คันมาให้เจ้านาย “นี่กุญแจรถ แต่ต้องยื่นหูยื่นแมวนะ”

“กูกล้ายื่นหูยื่นแมวกับมึงตรงนี้ก็บ้าแล้ว ถ้ากูปล่อยอีนี่ให้มึง มึงได้ยิงกูน่ะสิ” เสือหาญเจนเวทีมากพอ เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากปล่อยช้องนางให้ห่างตน “กูจะปล่อยอีนี่ก็ต่อเมื่อกูคิดว่ากูปลอดภัย”

“แล้วกูจะมั่นใจได้ยังไงว่ามึงจะรักษาสัญญา” เหนือเมฆไม่ไว้ใจกลุ่มโจร

“มึงไม่มีทางเลือกเพราะกูกำหนดเอง” เสือหาญโต้กลับ “โยนกุญแจมา ถ้ามึงไม่อยากให้อีนี่เป็นอะไรก็โยนกุญแจมา” ตอนนี้ทางด้านเสือหาญถือไพ่เหนือกว่าเหนือเมฆทุกอย่าง เจ้าของไร่เมฆาจำต้องโยนกุญแจรถให้ด้วยความจำใจ “ไอ้ม้วนไปหยิบกุญแจมา”

ม้วนรีบทำตาม เดินไปหยิบกุญแจรถทั้งสี่คันขึ้นมาไว้ในมือ

“มึงเอากุญแจไปให้ไอ้ดาวกับไอ้โด่ง แล้วขับรถไปคนละคัน” ลูกน้องทั้งสามทำตาม ม้วนนำกุญแจไปให้ดาวกับโด่ง ที่รีบพากันไปถลกผ้าคลุมรถออก แล้วกดเปิดรถยนต์เพื่อจะได้รู้ว่า กุญแจที่ตนถืออยู่คืนคันไหน ก่อนเปิดประตูและก้าวขึ้นไปในรถ ติดเครื่องยนต์จากนั้นก็รีบขับออกไป เหลือเพียงเสือหาญรั้งท้าย เขามีตัวประกันสาวอยู่ด้วย เหนือเมฆจึงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากยืนดูเชิง

เสือหาญถอดเข็มขัดออกจากกางเกง นำมือของช้องนางไขว้หลัง ใช้เข็มขัดมัดข้อมือทั้งสองของตัวประกันสาว ก่อนลากจูงหล่อนไปยังรถยนต์คันหรูราคาสี่สิบล้าน เมื่อเปิดประตูได้ก็จับตัวหล่อนยัดเข้าไปในรถ บอกให้ช้องนางไปนั่งเบาะข้างขนขับ ส่วนตัวเองนั่งประจำที่คนขับรถ อีกอึดใจต่อมารถคันนั้นก็เคลื่อนตัวออกจากจุดจอด

“เดช ไปเอากุญแจรถกระบะมา แล้วขึ้นไปหยิบมือถือฉันมาด้วย”

เดชดวงวิ่งเข้าไปหยิบกุญแจ และวิ่งกลับมาหาเจ้านายของตน ก่อนที่ทั้งเดชดวงจะเป็นคนขับรถกระบะขับตามเสือหาญไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส